Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā |
โวหารวคฺควณฺณนา
Vohāravaggavaṇṇanā
๔๒๔. อาปตฺติยา ปโยคํ น ชานาตีติ ‘‘อยํ อาปตฺติ กายปฺปโยคา, อยํ วจีปโยคา’’ติ น ชานาติฯ อาปตฺติยา วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘อยํ อาปตฺติ เทสนาย วูปสมติ, อยํ วุฎฺฐาเนน, อยํ เนว เทสนาย น วุฎฺฐาเนนา’’ติ น ชานาติฯ อาปตฺติยา น วินิจฺฉยกุสโล โหตีติ ‘‘อิมสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ อยํ อาปตฺตี’’ติ น ชานาติ, โทสานุรูปํ อาปตฺติํ อุทฺธริตฺวา ปติฎฺฐาเปตุํ น สโกฺกติฯ
424.Āpattiyā payogaṃ na jānātīti ‘‘ayaṃ āpatti kāyappayogā, ayaṃ vacīpayogā’’ti na jānāti. Āpattiyā vūpasamaṃ na jānātīti ‘‘ayaṃ āpatti desanāya vūpasamati, ayaṃ vuṭṭhānena, ayaṃ neva desanāya na vuṭṭhānenā’’ti na jānāti. Āpattiyā na vinicchayakusalohotīti ‘‘imasmiṃ vatthusmiṃ ayaṃ āpattī’’ti na jānāti, dosānurūpaṃ āpattiṃ uddharitvā patiṭṭhāpetuṃ na sakkoti.
อธิกรณสมุฎฺฐานํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ อฎฺฐารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย สมุฎฺฐาติ, อิทํ จตโสฺส วิปตฺติโย, อิทํ ปญฺจ วา สตฺต วา อาปตฺติกฺขเนฺธ, อิทํ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจานิ นิสฺสาย สมุฎฺฐาตี’’ติ น ชานาติฯ ปโยคํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวาทสมูลปฺปโยคํ, อิทํ จุทฺทสมูลปฺปโยคํ, อิทํ ฉมูลปโยคํ, อิทํ เอกมูลปโยค’’นฺติ น ชานาติฯ อธิกรณานญฺหิ ยถาสกํมูลเมว ปโยคา นาม โหนฺติ, ตํ สพฺพมฺปิ น ชานาตีติ อโตฺถฯ วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ อธิกรณํ ทฺวีหิ สมเถหิ วูปสมติ, อิทํ ตีหิ, อิทํ จตูหิ, อิทํ เอเกน สมเถน วูปสมตี’’ติ น ชานาติฯ น วินิจฺฉยกุสโล โหตีติ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตฺวา สมถํ ปาเปตุํ น ชานาติฯ
Adhikaraṇasamuṭṭhānaṃ na jānātīti ‘‘idaṃ adhikaraṇaṃ aṭṭhārasa bhedakaravatthūni nissāya samuṭṭhāti, idaṃ catasso vipattiyo, idaṃ pañca vā satta vā āpattikkhandhe, idaṃ cattāri saṅghakiccāni nissāya samuṭṭhātī’’ti na jānāti. Payogaṃ na jānātīti ‘‘idaṃ adhikaraṇaṃ dvādasamūlappayogaṃ, idaṃ cuddasamūlappayogaṃ, idaṃ chamūlapayogaṃ, idaṃ ekamūlapayoga’’nti na jānāti. Adhikaraṇānañhi yathāsakaṃmūlameva payogā nāma honti, taṃ sabbampi na jānātīti attho. Vūpasamaṃ na jānātīti ‘‘idaṃ adhikaraṇaṃ dvīhi samathehi vūpasamati, idaṃ tīhi, idaṃ catūhi, idaṃ ekena samathena vūpasamatī’’ti na jānāti. Na vinicchayakusalo hotīti adhikaraṇaṃ vinicchinitvā samathaṃ pāpetuṃ na jānāti.
กมฺมํ น ชานาตีติ ตชฺชนียาทิ สตฺตวิธํ กมฺมํ น ชานาติฯ กมฺมสฺส กรณํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ กมฺมํ อิมินา นีหาเรน กาตพฺพ’’นฺติ น ชานาติฯ กมฺมสฺส วตฺถุํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ ตชฺชนียสฺส วตฺถุ, อิทํ นิยสฺสาทีน’’นฺติ น ชานาติฯ วตฺตนฺติ สตฺตสุ กเมฺมสุ เหฎฺฐา จตุนฺนํ กมฺมานํ อฎฺฐารสวิธํ ติวิธสฺส จ อุเกฺขปนียกมฺมสฺส เตจตฺตาลีสวิธํ วตฺตํ น ชานาติฯ กมฺมสฺส วูปสมํ น ชานาตีติ ‘‘โย ภิกฺขุ วเตฺต วตฺติตฺวา ยาจติ, ตสฺส กมฺมํ ปฎิปฺปสฺสเมฺภตพฺพํ, อจฺจโย เทสาเปตโพฺพ’’ติ น ชานาติฯ
Kammaṃ na jānātīti tajjanīyādi sattavidhaṃ kammaṃ na jānāti. Kammassa karaṇaṃ na jānātīti ‘‘idaṃ kammaṃ iminā nīhārena kātabba’’nti na jānāti. Kammassa vatthuṃ na jānātīti ‘‘idaṃ tajjanīyassa vatthu, idaṃ niyassādīna’’nti na jānāti. Vattanti sattasu kammesu heṭṭhā catunnaṃ kammānaṃ aṭṭhārasavidhaṃ tividhassa ca ukkhepanīyakammassa tecattālīsavidhaṃ vattaṃ na jānāti. Kammassa vūpasamaṃ na jānātīti ‘‘yo bhikkhu vatte vattitvā yācati, tassa kammaṃ paṭippassambhetabbaṃ, accayo desāpetabbo’’ti na jānāti.
วตฺถุํ น ชานาตีติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วตฺถุํ น ชานาติฯ นิทานํ น ชานาตีติ ‘‘อิทํ สิกฺขาปทํ อิมสฺมิํ นคเร ปญฺญตฺตํ, อิทํ อิมสฺมิ’’นฺติ น ชานาติฯ ปญฺญตฺติํ น ชานาตีติ ปญฺญตฺติอนุปญฺญตฺติอนุปฺปนฺนปญฺญตฺติวเสน ติวิธํ ปญฺญตฺติํ น ชานาติฯ ปทปจฺจาภฎฺฐํ น ชานาตีติ สมฺมุขา กาตพฺพํ ปทํ น ชานาติฯ ‘‘พุโทฺธ ภควา’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘ภควา พุโทฺธ’’ติ เหฎฺฐุปริยํ กตฺวา ปทํ โยเชติฯ
Vatthuṃ na jānātīti sattannaṃ āpattikkhandhānaṃ vatthuṃ na jānāti. Nidānaṃ na jānātīti ‘‘idaṃ sikkhāpadaṃ imasmiṃ nagare paññattaṃ, idaṃ imasmi’’nti na jānāti. Paññattiṃ na jānātīti paññattianupaññattianuppannapaññattivasena tividhaṃ paññattiṃ na jānāti. Padapaccābhaṭṭhaṃ na jānātīti sammukhā kātabbaṃ padaṃ na jānāti. ‘‘Buddho bhagavā’’ti vattabbe ‘‘bhagavā buddho’’ti heṭṭhupariyaṃ katvā padaṃ yojeti.
อกุสโล จ โหติ วินเยติ วินยปาฬิยญฺจ อฎฺฐกถายญฺจ อกุสโล โหติฯ
Akusalo ca hoti vinayeti vinayapāḷiyañca aṭṭhakathāyañca akusalo hoti.
ญตฺติํ น ชานาตีติ สเงฺขปโต หิ ทุวิธา ญตฺติ – ‘‘เอสา ญตฺตี’’ติ เอวํ นิทฺทิฎฺฐา จ อนิทฺทิฎฺฐา จฯ ตตฺถ ยา เอวํ อนิทฺทิฎฺฐา, สา ‘‘กมฺมญตฺติ’’ นาม โหติฯ ยา นิทฺทิฎฺฐา, สา ‘‘กมฺมปาทญตฺติ’’ นาม, ตํ สเพฺพน สพฺพํ ญตฺติํ น ชานาติฯ ญตฺติยา กรณํ น ชานาตีติ นวสุ ฐาเนสุ กมฺมญตฺติยา กรณํ น ชานาติ, ทฺวีสุ ฐาเนสุ กมฺมปาทญตฺติยาฯ ญตฺติยา อนุสฺสาวนนฺติ ‘‘อิมิสฺสา ญตฺติยา เอกา อนุสฺสาวนา, อิมิสฺสา ติโสฺส’’ติ น ชานาติฯ ญตฺติยา สมถํ น ชานาตีติ ยฺวายํ สติวินโย, อมูฬฺหวินโย, ตสฺสปาปิยสิกา, ติณวตฺถารโกติ จตุพฺพิโธ สมโถ ญตฺติยา วินา น โหติ, ตํ ญตฺติยา สมโถติ น ชานาติฯ ญตฺติยา วูปสมํ น ชานาตีติ ยํ อธิกรณํ อิมินา จตุพฺพิเธน ญตฺติสมเถน วูปสมติ, ตสฺส ตํ วูปสมํ ‘‘อยํ ญตฺติยา วูปสโม กโต’’ติ น ชานาติฯ
Ñattiṃ na jānātīti saṅkhepato hi duvidhā ñatti – ‘‘esā ñattī’’ti evaṃ niddiṭṭhā ca aniddiṭṭhā ca. Tattha yā evaṃ aniddiṭṭhā, sā ‘‘kammañatti’’ nāma hoti. Yā niddiṭṭhā, sā ‘‘kammapādañatti’’ nāma, taṃ sabbena sabbaṃ ñattiṃ na jānāti. Ñattiyākaraṇaṃ na jānātīti navasu ṭhānesu kammañattiyā karaṇaṃ na jānāti, dvīsu ṭhānesu kammapādañattiyā. Ñattiyā anussāvananti ‘‘imissā ñattiyā ekā anussāvanā, imissā tisso’’ti na jānāti. Ñattiyā samathaṃ na jānātīti yvāyaṃ sativinayo, amūḷhavinayo, tassapāpiyasikā, tiṇavatthārakoti catubbidho samatho ñattiyā vinā na hoti, taṃ ñattiyā samathoti na jānāti. Ñattiyā vūpasamaṃ na jānātīti yaṃ adhikaraṇaṃ iminā catubbidhena ñattisamathena vūpasamati, tassa taṃ vūpasamaṃ ‘‘ayaṃ ñattiyā vūpasamo kato’’ti na jānāti.
สุตฺตํ น ชานาตีติ อุภโตวิภงฺคํ น ชานาติฯ สุตฺตานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติฯ วินยํ น ชานาตีติ ขนฺธกปริวารํ น ชานาติฯ วินยานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเสเยว น ชานาติฯ น จ ฐานาฐานกุสโลติ การณาการณกุสโล น โหติฯ
Suttaṃ na jānātīti ubhatovibhaṅgaṃ na jānāti. Suttānulomaṃ na jānātīti cattāro mahāpadese na jānāti. Vinayaṃ na jānātīti khandhakaparivāraṃ na jānāti. Vinayānulomaṃ na jānātīti cattāro mahāpadeseyeva na jānāti. Na ca ṭhānāṭhānakusaloti kāraṇākāraṇakusalo na hoti.
ธมฺมํ น ชานาตีติ ฐเปตฺวา วินยปิฎกํ อวเสสํ ปิฎกทฺวยํ น ชานาติฯ ธมฺมานุโลมํ น ชานาตีติ สุตฺตนฺติเก จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติฯ วินยํ น ชานาตีติ ขนฺธกปริวารเมว น ชานาติฯ วินยานุโลมํ น ชานาตีติ จตฺตาโร มหาปเทเส น ชานาติฯ อุภโตวิภงฺคา ปเนตฺถ อสงฺคหิตา โหนฺติ, ตสฺมายํ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ – ‘‘วินยนฺติ สกลํ วินยปิฎกํ น ชานาตี’’ติ ตํ น คเหตพฺพํฯ น จ ปุพฺพาปรกุสโล โหตีติ ปุเรกถาย จ ปจฺฉากถาย จ อกุสโล โหติฯ เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตปฎิปกฺขวเสน เญยฺยตฺตา ปุเพฺพ ปกาสิตตฺตา จ อุตฺตานเมวาติฯ
Dhammaṃ na jānātīti ṭhapetvā vinayapiṭakaṃ avasesaṃ piṭakadvayaṃ na jānāti. Dhammānulomaṃ na jānātīti suttantike cattāro mahāpadese na jānāti. Vinayaṃ na jānātīti khandhakaparivārameva na jānāti. Vinayānulomaṃ na jānātīti cattāro mahāpadese na jānāti. Ubhatovibhaṅgā panettha asaṅgahitā honti, tasmāyaṃ kurundiyaṃ vuttaṃ – ‘‘vinayanti sakalaṃ vinayapiṭakaṃ na jānātī’’ti taṃ na gahetabbaṃ. Na ca pubbāparakusalo hotīti purekathāya ca pacchākathāya ca akusalo hoti. Sesaṃ sabbattha vuttapaṭipakkhavasena ñeyyattā pubbe pakāsitattā ca uttānamevāti.
อนิสฺสิตวคฺคนปฺปฎิปฺปสฺสมฺภนวคฺคโวหารวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Anissitavagganappaṭippassambhanavaggavohāravaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๓. โวหารวโคฺค • 3. Vohāravaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / โวหารวคฺควณฺณนา • Vohāravaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / โวหารวคฺควณฺณนา • Vohāravaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โวหารวคฺคาทิวณฺณนา • Vohāravaggādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / โวหารวคฺควณฺณนา • Vohāravaggavaṇṇanā