Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา
Yāgumadhugoḷakādikathāvaṇṇanā
๒๘๓. ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพติ อิทํ สงฺคีติการกวจนํฯ น หิ ภควา ตเมว สิกฺขาปทํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปญฺญเปสิ, เอวํ เอวรูเปสูติ เอเกฯ ปฐมปญฺญตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ, ตถาปิ น จ เต ภิกฺขู สาปตฺติกา ชาตาฯ กถํ? ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทสฺส อฎฺฐุปฺปตฺติยาฯ ‘‘อปิจ มยํ กาลเสฺสว ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุญฺชิมฺหา’’ติ วุตฺตํฯ มาติกาวิภเงฺค (ปาจิ. ๒๒๗) จ ‘‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน โภชเนน นิมนฺติโต, ตํ ฐเปตฺวา อญฺญํ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ ภุญฺชติ, เอตํ ปรมฺปรโภชนํ นามา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อญฺญํ โภชนํ นาม นิมนฺตนโต ลทฺธํ ยํ กิญฺจีติ สิทฺธํฯ ยสฺมา น โภชฺชยาคุนิมนฺตนโต ลทฺธโภชนํ, ตสฺมา ‘‘เอตฺถ อนาปตฺตี’’ติ เต ภิกฺขู ปริภุญฺชิํสูติฯ เอตฺถ ‘‘ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติ วุตฺตตฺตา ปน อญฺญนิมนฺตนโต ลทฺธโภชนเมว ภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติ, เนตรนฺติ อนุญฺญาตํฯ ตโต ปฎฺฐาย ตสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘นิจฺจภเตฺต สลากภเตฺต ปกฺขิเก อุโปสถิเก ปาฎิปทิเก’’ติ วุตฺตํฯ ปุเพฺพ เวสาลิยา ปญฺญตฺตกาเล นตฺถิ, ยทิ อตฺถิ, อฎฺฐุปฺปตฺติมาติกาวิภงฺควิโรโธ, ตสฺมา ‘‘อปิจ มยํ กาลเสฺสว ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุญฺชิมฺหา’’ติ อฎฺฐุปฺปตฺติยํ วุตฺตตฺตา, ปทภาชเนปิ ‘‘อญฺญํ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ ภุญฺชตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา จ ปฐมํ วา ปจฺฉา วา นิมนฺติตํ โภชนํ ฐเปตฺวา อนิมนฺติตเมว ภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติ, เนตรนฺติ กิญฺจาปิ อาปนฺนํ, ‘‘น, ภิกฺขเว, อญฺญตฺร นิมนฺติเตน อญฺญสฺส โภชฺชยาคุ ปริภุญฺชิตพฺพา’’ติ วุตฺตตฺตา ปน ปฐมนิมนฺติตโภชนโต อญฺญํ ปจฺฉา ลทฺธํ นิมนฺติตโภชนํ, นิจฺจภตฺตาทีนิ จ ภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺตีติ อาปชฺชมานํ วิย ชาตนฺติ อนุปญฺญตฺติปฺปสงฺคนิวารณํ, อนิมนฺตนโภชเน อาปตฺติปฺปสงฺคนิวารณญฺจ กโรโนฺต, ปฐมปญฺญตฺติสิกฺขาปทเมว อิมินา อเตฺถน ปริณาเมโนฺต จ ‘‘ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติ ภควา อาห, ตสฺมา ตโต ปฎฺฐาย ปจฺฉา นิมนฺตนโภชนํ ภุญฺชนฺตเสฺสว อาปตฺติฯ เตสุ น นิจฺจภตฺตาทีนีติ อาปนฺนํฯ เตเนวายสฺมา อุปาลิเตฺถโร ตสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘นิจฺจภเตฺต’’ติอาทีนิ ปญฺจ ปทานิ ปกฺขิปิตฺวา สงฺคายิฯ อธิปฺปายญฺญู หิ เต มหานาคา, ตสฺมา ปฐมเมว ยํ ภควตา วุตฺตํ ‘‘ปญฺจ โภชนานิ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺตี’’ติ วจนํ, ปจฺฉาปิ ตํ อนุรกฺขเนฺตน อโภชนํ มธุโคฬกํ อปรามสิตฺวา โภชฺชยาคุ เอว วุตฺตาติ เอวํ อาจริโยฯ
283.Yathādhammo kāretabboti idaṃ saṅgītikārakavacanaṃ. Na hi bhagavā tameva sikkhāpadaṃ dvikkhattuṃ paññapesi, evaṃ evarūpesūti eke. Paṭhamapaññattameva sandhāya vuttaṃ, tathāpi na ca te bhikkhū sāpattikā jātā. Kathaṃ? Paramparabhojanasikkhāpadassa aṭṭhuppattiyā. ‘‘Apica mayaṃ kālasseva piṇḍāya caritvā bhuñjimhā’’ti vuttaṃ. Mātikāvibhaṅge (pāci. 227) ca ‘‘paramparabhojanaṃ nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena bhojanena nimantito, taṃ ṭhapetvā aññaṃ pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ bhuñjati, etaṃ paramparabhojanaṃ nāmā’’ti vuttaṃ, tasmā aññaṃ bhojanaṃ nāma nimantanato laddhaṃ yaṃ kiñcīti siddhaṃ. Yasmā na bhojjayāgunimantanato laddhabhojanaṃ, tasmā ‘‘ettha anāpattī’’ti te bhikkhū paribhuñjiṃsūti. Ettha ‘‘yathādhammo kāretabbo’’ti vuttattā pana aññanimantanato laddhabhojanameva bhuñjantassa āpatti, netaranti anuññātaṃ. Tato paṭṭhāya tassa anāpattivāre ‘‘niccabhatte salākabhatte pakkhike uposathike pāṭipadike’’ti vuttaṃ. Pubbe vesāliyā paññattakāle natthi, yadi atthi, aṭṭhuppattimātikāvibhaṅgavirodho, tasmā ‘‘apica mayaṃ kālasseva piṇḍāya caritvā bhuñjimhā’’ti aṭṭhuppattiyaṃ vuttattā, padabhājanepi ‘‘aññaṃ pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ bhuñjatī’’ti avisesena vuttattā ca paṭhamaṃ vā pacchā vā nimantitaṃ bhojanaṃ ṭhapetvā animantitameva bhuñjantassa āpatti, netaranti kiñcāpi āpannaṃ, ‘‘na, bhikkhave, aññatra nimantitena aññassa bhojjayāgu paribhuñjitabbā’’ti vuttattā pana paṭhamanimantitabhojanato aññaṃ pacchā laddhaṃ nimantitabhojanaṃ, niccabhattādīni ca bhuñjantassa āpattīti āpajjamānaṃ viya jātanti anupaññattippasaṅganivāraṇaṃ, animantanabhojane āpattippasaṅganivāraṇañca karonto, paṭhamapaññattisikkhāpadameva iminā atthena pariṇāmento ca ‘‘yathādhammo kāretabbo’’ti bhagavā āha, tasmā tato paṭṭhāya pacchā nimantanabhojanaṃ bhuñjantasseva āpatti. Tesu na niccabhattādīnīti āpannaṃ. Tenevāyasmā upālitthero tassa anāpattivāre ‘‘niccabhatte’’tiādīni pañca padāni pakkhipitvā saṅgāyi. Adhippāyaññū hi te mahānāgā, tasmā paṭhamameva yaṃ bhagavatā vuttaṃ ‘‘pañca bhojanāni ṭhapetvā sabbattha anāpattī’’ti vacanaṃ, pacchāpi taṃ anurakkhantena abhojanaṃ madhugoḷakaṃ aparāmasitvā bhojjayāgu eva vuttāti evaṃ ācariyo.
เอตฺถาห – ยถา ปจฺฉาลทฺธเลเสน เถเรน นิจฺจภตฺตาทิปเกฺขโป กโต, เอวํ กถินกฺขนฺธเก ปรมฺปรโภชนํ ปกฺขิปิตฺวา ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ฉ กปฺปิสฺสนฺตี’’ติ กิมตฺถํ น วุจฺจนฺติ? วุจฺจเต – ยถาวุตฺตเลสนิทสฺสนตฺถํฯ อญฺญถา อิทํ สิกฺขาปทํ เวสาลิยํ, อนฺธกวิเนฺท จาติ อุภยตฺถ อุปฑฺฒุปเฑฺฒน ปญฺญตฺตํ สิยาฯ โน เจ, สาปตฺติกา ภิกฺขู สิยุํ, น จ เต สาปตฺติกา อปฺปฎิกฺขิเตฺตปิ เตสํ กุกฺกุจฺจทสฺสนโตฯ ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขูนํ เทหีติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺตี’’ติ หิ วุตฺตํฯ เตสญฺหิ ‘‘ปริภุญฺชถา’’ติ ภควโต อาณตฺติยา ปริภุตฺตานมฺปิ ‘‘โอทิสฺสกํ นุ โข อิทํ อมฺหาก’’นฺติ วิมติปฺปตฺตานํ วิมติวิโนทนตฺถํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาคุญฺจ มธุโคฬกญฺจา’’ติ วุตฺตํฯ เอวมิธาเปเต ปญฺญตฺตํ ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ โอมทฺทิตฺวา ปรมฺปรโภชนํ กถํ ภุญฺชิสฺสนฺตีติฯ เอตฺถาหุ เกจิ อาจริยา ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปเทเนว ‘‘อญฺญสฺส โภชนํ น กปฺปตี’’ติ ชานนฺตาปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาคุญฺจา’’ติ วิสุํ อนุญฺญาตตฺตา ‘‘ปฎคฺคิทานมหาวิกฎาทิ วิย กปฺปตี’’ติ สญฺญาย ภุญฺชิํสุฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อปิจ มยํ กาลเสฺสว โภชฺชยาคุยา ธาตา’’ติอาทิ, ตํ อยุตฺตํ ตตฺถ อฎฺฐุปฺปตฺติมาติกาวิภงฺควิโรเธน อนาปตฺติวาเร นิจฺจภตฺตาทีนํ อสมฺภวปฺปสงฺคโต, ภิกฺขูนํ สาปตฺติกภาวานติกฺกมนโต, มิจฺฉาคาหเหตุปฺปสเงฺคน ภควตา อนุญฺญาตปฺปสงฺคโต จฯ เต หิ ภิกฺขู ยสฺมา ภควา กตฺถจิ วินยวเสน กปฺปิยมฺปิ ‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๙๔; สุ. นิ. ๘๑; มิ. ป. ๔.๕.๙) ปฎิกฺขิปติ, ตสฺมา ภควโต อธิปฺปายํ ปติ ‘‘กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, สิกฺขาปทํ ปติ ภควาปิ อตฺตโน อธิปฺปายปฺปกาสนตฺถเมว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาคุญฺจา’’ติ อาหฯ ทุรวคฺคาโห หิ ภควโต อธิปฺปาโยฯ ตถา หิ ภารทฺวาชสฺส ปายาสํ อโภชเนยฺยนฺติ อกตวิญฺญตฺติปฺปสงฺคโต ปฎิกฺขิปิฯ อานนฺทเตฺถเรน วิญฺญาเปตฺวา สชฺชิตํ เตกฎุลยาคุํ ปน ‘‘ยทปิ, อานนฺท, วิญฺญตฺตํ, ตทปิ อกปฺปิย’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ยทปิ, อานนฺท, อโนฺตวุตฺถ’’นฺติอาทิเมวาหฯ เตน โน เจ ตํ อโนฺตวุตฺถํ กปฺปตีติ อธิปฺปายทสฺสเนน ปณีตโภชนสูโปทนวิญฺญตฺติสิกฺขาปทานิ อุปตฺถเมฺภติ ภควโตปิ กปฺปติ, ปเคว อมฺหากนฺติฯ
Etthāha – yathā pacchāladdhalesena therena niccabhattādipakkhepo kato, evaṃ kathinakkhandhake paramparabhojanaṃ pakkhipitvā ‘‘atthatakathinānaṃ vo, bhikkhave, cha kappissantī’’ti kimatthaṃ na vuccanti? Vuccate – yathāvuttalesanidassanatthaṃ. Aññathā idaṃ sikkhāpadaṃ vesāliyaṃ, andhakavinde cāti ubhayattha upaḍḍhupaḍḍhena paññattaṃ siyā. No ce, sāpattikā bhikkhū siyuṃ, na ca te sāpattikā appaṭikkhittepi tesaṃ kukkuccadassanato. ‘‘Tena hi, brāhmaṇa, bhikkhūnaṃ dehīti. Bhikkhū kukkuccāyantā na paṭiggaṇhantī’’ti hi vuttaṃ. Tesañhi ‘‘paribhuñjathā’’ti bhagavato āṇattiyā paribhuttānampi ‘‘odissakaṃ nu kho idaṃ amhāka’’nti vimatippattānaṃ vimativinodanatthaṃ ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yāguñca madhugoḷakañcā’’ti vuttaṃ. Evamidhāpete paññattaṃ paramparabhojanasikkhāpadaṃ omadditvā paramparabhojanaṃ kathaṃ bhuñjissantīti. Etthāhu keci ācariyā paramparabhojanasikkhāpadeneva ‘‘aññassa bhojanaṃ na kappatī’’ti jānantāpi ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yāguñcā’’ti visuṃ anuññātattā ‘‘paṭaggidānamahāvikaṭādi viya kappatī’’ti saññāya bhuñjiṃsu. Tena vuttaṃ ‘‘apica mayaṃ kālasseva bhojjayāguyā dhātā’’tiādi, taṃ ayuttaṃ tattha aṭṭhuppattimātikāvibhaṅgavirodhena anāpattivāre niccabhattādīnaṃ asambhavappasaṅgato, bhikkhūnaṃ sāpattikabhāvānatikkamanato, micchāgāhahetuppasaṅgena bhagavatā anuññātappasaṅgato ca. Te hi bhikkhū yasmā bhagavā katthaci vinayavasena kappiyampi ‘‘gāthābhigītaṃ me abhojaneyya’’nti (saṃ. ni. 1.194; su. ni. 81; mi. pa. 4.5.9) paṭikkhipati, tasmā bhagavato adhippāyaṃ pati ‘‘kukkuccāyantā na paṭiggaṇhantī’’ti vuttaṃ, sikkhāpadaṃ pati bhagavāpi attano adhippāyappakāsanatthameva ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yāguñcā’’ti āha. Duravaggāho hi bhagavato adhippāyo. Tathā hi bhāradvājassa pāyāsaṃ abhojaneyyanti akataviññattippasaṅgato paṭikkhipi. Ānandattherena viññāpetvā sajjitaṃ tekaṭulayāguṃ pana ‘‘yadapi, ānanda, viññattaṃ, tadapi akappiya’’nti avatvā ‘‘yadapi, ānanda, antovuttha’’ntiādimevāha. Tena no ce taṃ antovutthaṃ kappatīti adhippāyadassanena paṇītabhojanasūpodanaviññattisikkhāpadāni upatthambheti bhagavatopi kappati, pageva amhākanti.
๒๘๔. คิลานเสฺสว ภควตา คุโฬ อนุญฺญาโตติ ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปฎิสายนียานี’’ติ (ปารา. ๖๒๒) วจนวเสน วุตฺตํ, เตเนว เต อิธ ปฎิคฺคหเณ กุกฺกุจฺจายิํสุฯ อิธ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส คุโฬทก’’นฺติ วตฺตเพฺพ คุฬาธิการตฺตา ปุเพฺพ อนุญฺญาตญฺจ วตฺวา อคิลานสฺส คุโฬทกํ อนุญฺญาตํ, เตน คิลาเนน สติ ปจฺจเย คุโฬ ปริภุญฺชิตโพฺพ, คุโฬทกํ อสติ ปจฺจเยปิ วฎฺฎตีติ อิมํ วิเสสํ ทีเปติฯ ตตฺถ ‘‘คุโฬทกํ กาลิเกสุ สตฺตาหกาลิกํ, ภควตา โอทิสฺสานุญฺญาตตฺตา สตฺตาหาติกฺกเมน ทุกฺกฎ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อุทกสมฺภินฺนตฺตา สตฺตาหกาลิกภาวํ ชหติฯ ‘‘ยถา อมฺพาทิ อุทกสมฺภินฺนํ ยามกาลิกํ ชาตํ, ตถา สตฺตาหกาลิกํ ชหิตฺวา ตทนนฺตเร ยาวชีวิเก ฐิต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ยุตฺตํ, ตญฺจ ภควตา โอทิสฺสานุญฺญาตตฺตา ปจฺจเวกฺขณาภาเว โทโส นตฺถิฯ ‘‘คุโฬทก’นฺติ วุตฺตตฺตา อุทกคติก’’นฺติ วทนฺติฯ ยทิ อุทกมิสฺสํ อุทกคติกํ โหติ, มธุปิ สิยา ตํ ตถา อนุญฺญาตตฺตาฯ มา โหตุ, อปฺปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํ สิยา อุทกคติกตฺตา, ตญฺจ น โหติ, ‘‘สพฺพตฺถาปิ อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺพ’’นฺติ อญฺญตรสฺมิํ คณฺฐิปเท วุตฺตํฯ
284.Gilānasseva bhagavatā guḷo anuññātoti ‘‘yāni kho pana tāni gilānānaṃ bhikkhūnaṃ paṭisāyanīyānī’’ti (pārā. 622) vacanavasena vuttaṃ, teneva te idha paṭiggahaṇe kukkuccāyiṃsu. Idha pana ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānassa guḷodaka’’nti vattabbe guḷādhikārattā pubbe anuññātañca vatvā agilānassa guḷodakaṃ anuññātaṃ, tena gilānena sati paccaye guḷo paribhuñjitabbo, guḷodakaṃ asati paccayepi vaṭṭatīti imaṃ visesaṃ dīpeti. Tattha ‘‘guḷodakaṃ kālikesu sattāhakālikaṃ, bhagavatā odissānuññātattā sattāhātikkamena dukkaṭa’’nti vadanti, taṃ na yuttaṃ, udakasambhinnattā sattāhakālikabhāvaṃ jahati. ‘‘Yathā ambādi udakasambhinnaṃ yāmakālikaṃ jātaṃ, tathā sattāhakālikaṃ jahitvā tadanantare yāvajīvike ṭhita’’nti vadanti, taṃ yuttaṃ, tañca bhagavatā odissānuññātattā paccavekkhaṇābhāve doso natthi. ‘‘Guḷodaka’nti vuttattā udakagatika’’nti vadanti. Yadi udakamissaṃ udakagatikaṃ hoti, madhupi siyā taṃ tathā anuññātattā. Mā hotu, appaṭiggahetvā paribhuñjitabbaṃ siyā udakagatikattā, tañca na hoti, ‘‘sabbatthāpi upaparikkhitvā gahetabba’’nti aññatarasmiṃ gaṇṭhipade vuttaṃ.
๒๘๕. สุญฺญาคารนฺติ จตุตฺถชฺฌานํฯ
285.Suññāgāranti catutthajjhānaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๑๗๑. ตรุณปสนฺนมหามตฺตวตฺถุ • 171. Taruṇapasannamahāmattavatthu
๑๗๒. เพลฎฺฐกจฺจานวตฺถุ • 172. Belaṭṭhakaccānavatthu
๑๗๓. ปาฎลิคามวตฺถุ • 173. Pāṭaligāmavatthu
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā
ยาคุมธุโคฬกาทิกถา • Yāgumadhugoḷakādikathā
ปาฎลิคามวตฺถุกถา • Pāṭaligāmavatthukathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา • Yāgumadhugoḷakādikathāvaṇṇanā
ปาฎลิคามวตฺถุกถาวณฺณนา • Pāṭaligāmavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ยาคุมธุโคฬกาทิกถาวณฺณนา • Yāgumadhugoḷakādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi
๑๗๐. ยาคุมธุโคฬกาทิกถา • 170. Yāgumadhugoḷakādikathā
๑๗๓. ปาฎลิคามวตฺถุกถา • 173. Pāṭaligāmavatthukathā