Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๑๐. ยสทตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา
10. Yasadattattheragāthāvaṇṇanā
อุปารมฺภจิโตฺตติอาทิกา อายสฺมโต ยสทตฺตเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิฯ ตถา เหส ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา พฺราหฺมณานํ วิชฺชาสิเปฺปสุ นิปฺผตฺติํ คโต กาเม ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรเญฺญ วิหรโนฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อญฺชลิํ ปคฺคยฺห อภิตฺถวิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท มลฺลรเฎฺฐ มลฺลราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ยสทโตฺตติ ลทฺธนาโม, วยปฺปโตฺต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขิตฺวา สภิเยน ปริพฺพาชเกน สทฺธิํเยว จาริกํ จรมาโน, อนุปุเพฺพน สาวตฺถิยํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สภิเยน ปุฎฺฐปเญฺหสุ วิสฺสชฺชิยมาเนสุ สยํ โอตาราเปโกฺข สุณโนฺต นิสีทิ ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส วาเท โทสํ ทสฺสามี’’ติฯ อถสฺส ภควา จิตฺตาจารํ ญตฺวา สภิยสุตฺตเทสนาวสาเน (สุ. นิ. สภิยสุตฺต) โอวาทํ เทโนฺต –
Upārambhacittotiādikā āyasmato yasadattattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacini. Tathā hesa padumuttarassa bhagavato kāle brāhmaṇakule nibbattitvā brāhmaṇānaṃ vijjāsippesu nipphattiṃ gato kāme pahāya isipabbajjaṃ pabbajitvā araññe viharanto ekadivasaṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso añjaliṃ paggayha abhitthavi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde mallaraṭṭhe mallarājakule nibbattitvā yasadattoti laddhanāmo, vayappatto takkasilaṃ gantvā sabbasippāni sikkhitvā sabhiyena paribbājakena saddhiṃyeva cārikaṃ caramāno, anupubbena sāvatthiyaṃ bhagavantaṃ upasaṅkamitvā sabhiyena puṭṭhapañhesu vissajjiyamānesu sayaṃ otārāpekkho suṇanto nisīdi ‘‘samaṇassa gotamassa vāde dosaṃ dassāmī’’ti. Athassa bhagavā cittācāraṃ ñatvā sabhiyasuttadesanāvasāne (su. ni. sabhiyasutta) ovādaṃ dento –
๓๖๐.
360.
‘‘อุปารมฺภจิโตฺต ทุเมฺมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;
‘‘Upārambhacitto dummedho, suṇāti jinasāsanaṃ;
อารกา โหติ สทฺธมฺมา, นภโส ปถวี ยถาฯ
Ārakā hoti saddhammā, nabhaso pathavī yathā.
๓๖๑.
361.
‘‘อุปารมฺภจิโตฺต ทุเมฺมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;
‘‘Upārambhacitto dummedho, suṇāti jinasāsanaṃ;
ปริหายติ สทฺธมฺมา, กาฬปเกฺขว จนฺทิมาฯ
Parihāyati saddhammā, kāḷapakkheva candimā.
๓๖๒.
362.
‘‘อุปารมฺภจิโตฺต ทุเมฺมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;
‘‘Upārambhacitto dummedho, suṇāti jinasāsanaṃ;
ปริสุสฺสติ สทฺธเมฺม, มโจฺฉ อโปฺปทเก ยถาฯ
Parisussati saddhamme, maccho appodake yathā.
๓๖๓.
363.
‘‘อุปารมฺภจิโตฺต ทุเมฺมโธ, สุณาติ ชินสาสนํ;
‘‘Upārambhacitto dummedho, suṇāti jinasāsanaṃ;
น วิรูหติ สทฺธเมฺม, เขเตฺต พีชํว ปูติกํฯ
Na virūhati saddhamme, khette bījaṃva pūtikaṃ.
๓๖๔.
364.
‘‘โย จ ตุเฎฺฐน จิเตฺตน, สุณาติ ชินสาสนํ;
‘‘Yo ca tuṭṭhena cittena, suṇāti jinasāsanaṃ;
เขเปตฺวา อาสเว สเพฺพ, สจฺฉิกตฺวา อกุปฺปตํ;
Khepetvā āsave sabbe, sacchikatvā akuppataṃ;
ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺติํ, ปรินิพฺพาตินาสโว’’ติฯ –
Pappuyya paramaṃ santiṃ, parinibbātināsavo’’ti. –
อิมา ปญฺจ คาถา อภาสิฯ
Imā pañca gāthā abhāsi.
ตตฺถ อุปารมฺภจิโตฺตติ สารมฺภจิโตฺต, โทสาโรปนาธิปฺปาโยติ อโตฺถฯ ทุเมฺมโธติ นิปฺปโญฺญฯ อารกา โหติ สทฺธมฺมาติ โส ตาทิโส ปุคฺคโล นภโส วิย ปถวี ปฎิปตฺติสทฺธมฺมโตปิ ทูเร โหติ, ปเคว ปฎิเวธสทฺธมฺมโตฯ ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๘) วิคฺคาหิกกถํ อนุยุตฺตสฺส กุโต สนฺตนิปุโณ ปฎิปตฺติสทฺธโมฺมฯ
Tattha upārambhacittoti sārambhacitto, dosāropanādhippāyoti attho. Dummedhoti nippañño. Ārakā hoti saddhammāti so tādiso puggalo nabhaso viya pathavī paṭipattisaddhammatopi dūre hoti, pageva paṭivedhasaddhammato. ‘‘Na tvaṃ imaṃ dhammavinayaṃ ājānāsī’’tiādinā (dī. ni. 1.18) viggāhikakathaṃ anuyuttassa kuto santanipuṇo paṭipattisaddhammo.
ปริหายติ สทฺธมฺมาติ นววิธโลกุตฺตรธมฺมโต ปุพฺพภาคิยสทฺธาทิสทฺธมฺมโตปิ นิหียติฯ ปริสุสฺสตีติ วิสุสฺสติ กายจิตฺตานํ ปีณนรสสฺส ปีติปาโมชฺชาทิกุสลธมฺมสฺสาภาวโตฯ น วิรูหตีติ วิรูฬฺหิํ วุทฺธิํ น ปาปุณาติฯ ปูติกนฺติ โคมยเลปทานาทิอภาเวน ปูติภาวํ ปตฺตํฯ
Parihāyati saddhammāti navavidhalokuttaradhammato pubbabhāgiyasaddhādisaddhammatopi nihīyati. Parisussatīti visussati kāyacittānaṃ pīṇanarasassa pītipāmojjādikusaladhammassābhāvato. Na virūhatīti virūḷhiṃ vuddhiṃ na pāpuṇāti. Pūtikanti gomayalepadānādiabhāvena pūtibhāvaṃ pattaṃ.
ตุเฎฺฐน จิเตฺตนาติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํ, อตฺตมโน ปมุทิโต หุตฺวาติ อโตฺถฯ เขเปตฺวาติ สมุจฺฉินฺทิตฺวาฯ อกุปฺปตนฺติ อรหตฺตํฯ ปปฺปุยฺยาติ ปาปุณิตฺวาฯ ปรมํ สนฺตินฺติ อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํฯ ตทธิคโม จสฺส เกวลํ กาลาคมนเมว, น โกจิวิโธติ ตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ปรินิพฺพาตินาสโว’’ติฯ
Tuṭṭhena cittenāti itthambhūtalakkhaṇe karaṇavacanaṃ, attamano pamudito hutvāti attho. Khepetvāti samucchinditvā. Akuppatanti arahattaṃ. Pappuyyāti pāpuṇitvā. Paramaṃ santinti anupādisesaṃ nibbānaṃ. Tadadhigamo cassa kevalaṃ kālāgamanameva, na kocividhoti taṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘parinibbātināsavo’’ti.
เอวํ สตฺถารา โอวทิโต สํเวคชาโต ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๔.๓๕-๔๓) –
Evaṃ satthārā ovadito saṃvegajāto pabbajitvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.44.35-43) –
‘‘กณิการํว ชลิตํ, ทีปรุกฺขํว โชติตํ;
‘‘Kaṇikāraṃva jalitaṃ, dīparukkhaṃva jotitaṃ;
กญฺจนํว วิโรจนฺตํ, อทฺทสํ ทฺวิปทุตฺตมํฯ
Kañcanaṃva virocantaṃ, addasaṃ dvipaduttamaṃ.
‘‘กมณฺฑลุํ ฐเปตฺวาน, วากจีรญฺจ กุณฺฑิกํ;
‘‘Kamaṇḍaluṃ ṭhapetvāna, vākacīrañca kuṇḍikaṃ;
เอกํสํ อชินํ กตฺวา, พุทฺธเสฎฺฐํ ถวิํ อหํฯ
Ekaṃsaṃ ajinaṃ katvā, buddhaseṭṭhaṃ thaviṃ ahaṃ.
‘‘ตมนฺธการํ วิธมํ, โมหชาลสมากุลํ;
‘‘Tamandhakāraṃ vidhamaṃ, mohajālasamākulaṃ;
ญาณาโลกํ ทเสฺสตฺวาน, นิตฺติโณฺณสิ มหามุนิฯ
Ñāṇālokaṃ dassetvāna, nittiṇṇosi mahāmuni.
‘‘สมุทฺธรสิมํ โลกํ, สพฺพาวนฺตมนุตฺตรํ;
‘‘Samuddharasimaṃ lokaṃ, sabbāvantamanuttaraṃ;
ญาเณ เต อุปมา นตฺถิ, ยาวตา ชคโต คติฯ
Ñāṇe te upamā natthi, yāvatā jagato gati.
‘‘เตน ญาเณน สพฺพญฺญู, อิติ พุโทฺธ ปวุจฺจติ;
‘‘Tena ñāṇena sabbaññū, iti buddho pavuccati;
วนฺทามิ ตํ มหาวีรํ, สพฺพญฺญุตมนาวรํฯ
Vandāmi taṃ mahāvīraṃ, sabbaññutamanāvaraṃ.
‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, พุทฺธเสฎฺฐํ ถวิํ อหํ;
‘‘Satasahassito kappe, buddhaseṭṭhaṃ thaviṃ ahaṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ญาณตฺถวายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, ñāṇatthavāyidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อญฺญํ พฺยากโรโนฺตปิ เถโร อิมา เอว คาถา อภาสิฯ
Arahattaṃ pana patvā aññaṃ byākarontopi thero imā eva gāthā abhāsi.
ยสทตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Yasadattattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๐. ยสทตฺตเตฺถรคาถา • 10. Yasadattattheragāthā