Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā |
๕๖. ยสวโคฺค
56. Yasavaggo
๑. ยสเตฺถรอปทานวณฺณนา
1. Yasattheraapadānavaṇṇanā
ฉปฺปญฺญาสเม วเคฺค ปฐมาปทาเน มหาสมุทฺทํ โอคฺคยฺหาติอาทิกํ อายสฺมโต ยสเตฺถรสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต สุเมธสฺส ภควโต กาเล มหานุภาโว นาคราชา หุตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ อตฺตโน ภวนํ เนตฺวา มหาทานํ ปวเตฺตสิ, ภควนฺตํ มหเคฺฆน ติจีวเรน อจฺฉาเทสิ, เอเกกญฺจ ภิกฺขุํ มหเคฺฆเนว ปเจฺจกทุสฺสยุเคน สเพฺพน จ สมณปริกฺขาเรนฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล เสฎฺฐิปุโตฺต หุตฺวา มหาโพธิมณฺฑลํ สตฺตหิ รตเนหิ ปูเชสิฯ กสฺสปสฺส ภควโต กาเล สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิฯ เอวํ โส สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อมฺหากํ ภควโต กาเล พาราณสิยํ มหาวิภวสฺส เสฎฺฐิโน ปุโตฺต หุตฺวา สุชาตาย ภควโต ขีรปายาสํ ทินฺนาย เสฎฺฐิธีตาย กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ยโส นาม นาเมน ปรมสุขุมาโลฯ ตสฺส ตโย ปาสาทา โหนฺติ – เอโก เหมนฺติโก, เอโก คิมฺหิโก, เอโก วสฺสิโกติฯ โส วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน วสติ, เหฎฺฐาปาสาทํ น โอตรติฯ เหมนฺติเก ปาสาเท จตฺตาโร มาเส สุผุสิตวาตปานกวาเฎ ตเตฺถว ปฎิวสติฯ คิมฺหิเก ปาสาเท พหุกวาฎวาตปานชาลาหิ สมฺปเนฺน ตเตฺถว วสติฯ หตฺถปาทานํ สุขุมาลตาย ภูมิยํ นิสชฺชาทิกิจฺจํ นตฺถิฯ สิมฺพลิตุลาทิปุณฺณสภาเว อตฺถริตฺวา ตตฺถ อุปธานานิ กิจฺจานิ กโรติฯ เอวํ เทวโลเก เทวกุมาโร วิย ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตสฺส สมงฺคีภูตสฺส ปริจารยมานสฺส ปฎิกเจฺจว นิทฺทา โอกฺกมิ, ปริชนสฺสาปิ นิทฺทา โอกฺกมิ, สพฺพรตฺติโย จ เตลปทีโป ฌายติฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต ปฎิกเจฺจว ปพุชฺฌิตฺวา อทฺทส สกํ ปริชนํ สุปนฺตํ อญฺญิสฺสา กเจฺฉ วีณํ, อญฺญิสฺสา กเณฺฐ มุทิงฺคํ, อญฺญิสฺสา กเจฺฉ อาฬมฺพรํ, อญฺญํ วิเกสิกํ, วิเกฺขฬิกํ, อญฺญา วิปฺปลปนฺติโย หตฺถปตฺตํ สุสานํ มเญฺญ, ทิสฺวานสฺส อาทีนโว ปาตุรโหสิ, นิพฺพิทาย จิตฺตํ สณฺฐาสิฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุปทฺทุตํ วต โภ, อุปสฺสฎฺฐํ วต โภ’’ติฯ
Chappaññāsame vagge paṭhamāpadāne mahāsamuddaṃ oggayhātiādikaṃ āyasmato yasattherassa apadānaṃ. Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayāni puññāni upacinanto sumedhassa bhagavato kāle mahānubhāvo nāgarājā hutvā buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ attano bhavanaṃ netvā mahādānaṃ pavattesi, bhagavantaṃ mahagghena ticīvarena acchādesi, ekekañca bhikkhuṃ mahaggheneva paccekadussayugena sabbena ca samaṇaparikkhārena. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto siddhatthassa bhagavato kāle seṭṭhiputto hutvā mahābodhimaṇḍalaṃ sattahi ratanehi pūjesi. Kassapassa bhagavato kāle sāsane pabbajitvā samaṇadhammaṃ akāsi. Evaṃ so sugatīsuyeva saṃsaranto amhākaṃ bhagavato kāle bārāṇasiyaṃ mahāvibhavassa seṭṭhino putto hutvā sujātāya bhagavato khīrapāyāsaṃ dinnāya seṭṭhidhītāya kucchimhi nibbatti, yaso nāma nāmena paramasukhumālo. Tassa tayo pāsādā honti – eko hemantiko, eko gimhiko, eko vassikoti. So vassike pāsāde vassike cattāro māse nippurisehi tūriyehi paricārayamāno vasati, heṭṭhāpāsādaṃ na otarati. Hemantike pāsāde cattāro māse suphusitavātapānakavāṭe tattheva paṭivasati. Gimhike pāsāde bahukavāṭavātapānajālāhi sampanne tattheva vasati. Hatthapādānaṃ sukhumālatāya bhūmiyaṃ nisajjādikiccaṃ natthi. Simbalitulādipuṇṇasabhāve attharitvā tattha upadhānāni kiccāni karoti. Evaṃ devaloke devakumāro viya pañcahi kāmaguṇehi samappitassa samaṅgībhūtassa paricārayamānassa paṭikacceva niddā okkami, parijanassāpi niddā okkami, sabbarattiyo ca telapadīpo jhāyati. Atha kho yaso kulaputto paṭikacceva pabujjhitvā addasa sakaṃ parijanaṃ supantaṃ aññissā kacche vīṇaṃ, aññissā kaṇṭhe mudiṅgaṃ, aññissā kacche āḷambaraṃ, aññaṃ vikesikaṃ, vikkheḷikaṃ, aññā vippalapantiyo hatthapattaṃ susānaṃ maññe, disvānassa ādīnavo pāturahosi, nibbidāya cittaṃ saṇṭhāsi. Atha kho yaso kulaputto udānaṃ udānesi – ‘‘upaddutaṃ vata bho, upassaṭṭhaṃ vata bho’’ti.
อถ โข ยโส กุลปุโตฺต สุวณฺณปาทุกาโย อาโรหิตฺวา เยน นิเวสนทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ, อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวริํสุ – ‘‘มา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส โกจิ อนฺตรายมกาสิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต เยน นครทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ, อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวริํสุ – ‘‘มา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส โกจิ อนฺตรายมกาสิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต เยน อิสิปตนํ มิคทาโย เตนุปสงฺกมิฯ
Atha kho yaso kulaputto suvaṇṇapādukāyo ārohitvā yena nivesanadvāraṃ tenupasaṅkami, amanussā dvāraṃ vivariṃsu – ‘‘mā yasassa kulaputtassa koci antarāyamakāsi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Atha kho yaso kulaputto yena nagaradvāraṃ tenupasaṅkami, amanussā dvāraṃ vivariṃsu – ‘‘mā yasassa kulaputtassa koci antarāyamakāsi agārasmā anagāriyaṃ pabbajjāyā’’ti. Atha kho yaso kulaputto yena isipatanaṃ migadāyo tenupasaṅkami.
เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฎฺฐาย อโชฺฌกาเส จงฺกมติ, อทฺทสา โข ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต ภควโต อวิทูเร อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อุปทฺทุตํ วต โภ, อุปสฺสฎฺฐํ วต โภ’’ติฯ อถ โข ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ โข, ยส, อนุปทฺทุตํ, อิทํ อนุปสฺสฎฺฐํ, เอหิ, ยส, นิสีท, ธมฺมํ เต เทเสสฺสามี’’ติฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต, ‘‘อิทํ กิร อนุปทฺทุตํ, อิทํ อนุปสฺสฎฺฐ’’นฺติ หโฎฺฐ อุทโคฺค สุวณฺณปาทุกาหิ โอโรหิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ภควา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ, ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขเมฺม อานิสํสํ ปกาเสสิฯ ยทา ภควา อญฺญาสิ ยสํ กุลปุตฺตํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํฯ เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฎิคฺคเณฺหยฺย, เอวเมว ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhagavā rattiyā paccūsasamayaṃ paccuṭṭhāya ajjhokāse caṅkamati, addasā kho bhagavā yasaṃ kulaputtaṃ dūratova āgacchantaṃ, disvāna caṅkamā orohitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho yaso kulaputto bhagavato avidūre udānaṃ udānesi – ‘‘upaddutaṃ vata bho, upassaṭṭhaṃ vata bho’’ti. Atha kho bhagavā yasaṃ kulaputtaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ kho, yasa, anupaddutaṃ, idaṃ anupassaṭṭhaṃ, ehi, yasa, nisīda, dhammaṃ te desessāmī’’ti. Atha kho yaso kulaputto, ‘‘idaṃ kira anupaddutaṃ, idaṃ anupassaṭṭha’’nti haṭṭho udaggo suvaṇṇapādukāhi orohitvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi, ekamantaṃ nisinnassa kho yasassa kulaputtassa bhagavā anupubbiṃ kathaṃ kathesi, seyyathidaṃ, dānakathaṃ sīlakathaṃ saggakathaṃ kāmānaṃ ādīnavaṃ okāraṃ saṃkilesaṃ nekkhamme ānisaṃsaṃ pakāsesi. Yadā bhagavā aññāsi yasaṃ kulaputtaṃ kallacittaṃ muducittaṃ vinīvaraṇacittaṃ udaggacittaṃ pasannacittaṃ, atha yā buddhānaṃ sāmukkaṃsikā dhammadesanā, taṃ pakāsesi dukkhaṃ samudayaṃ nirodhaṃ maggaṃ. Seyyathāpi nāma suddhaṃ vatthaṃ apagatakāḷakaṃ sammadeva rajanaṃ paṭiggaṇheyya, evameva yasassa kulaputtassa tasmiṃyeva āsane virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādi – ‘‘yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’nti.
อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ยสํ กุลปุตฺตํ อปสฺสนฺตี เยน เสฎฺฐิ คหปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสฎฺฐิํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘ปุโตฺต เต คหปติ ยโส น ทิสฺสตี’’ติฯ อถ โข, เสฎฺฐิ คหปติ, จตุทฺทิสา อสฺสทูเต อุโยฺยเชตฺวา สามํเยว เยน อิสิปตนํ มิคทาโย เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข, เสฎฺฐิ คหปติ, สุวณฺณปาทุกานํ นิเกฺขปํ, ทิสฺวาน ตํเยว อนุคมาสิฯ อทฺทสา โข ภควา เสฎฺฐิํ คหปติํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขเรยฺยํ, ยถา เสฎฺฐิ คหปติ อิธ นิสิโนฺน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ น ปเสฺสยฺยา’’ติฯ อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขเรสิฯ อถ โข เสฎฺฐิ คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปิ, ภเนฺต, ภควา ยสํ กุลปุตฺตํ ปเสฺสยฺยา’’ติฯ เตน หิ คหปติ นิสีท, อเปฺปว นาม อิธ นิสิโนฺน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ ปเสฺสยฺยาสีติฯ อถ โข เสฎฺฐิ คหปติ ‘‘อิเธว กิราหํ นิสิโนฺน อิธ นิสินฺนํ ยสํ กุลปุตฺตํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ หโฎฺฐ อุทโคฺค ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข เสฎฺฐิสฺส คหปติสฺส ภควา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ…เป.… อปรปฺปจฺจโย อตฺถุ สาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ ภเนฺต, อภิกฺกนฺตํ ภเนฺต, เสยฺยถาปิ , ภเนฺต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภเนฺต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจ, อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ โสว โลเก ปฐมํ อุปาสโก อโหสิ เตวาจิโกฯ
Atha kho yasassa kulaputtassa mātā pāsādaṃ abhiruhitvā yasaṃ kulaputtaṃ apassantī yena seṭṭhi gahapati tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā seṭṭhiṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘putto te gahapati yaso na dissatī’’ti. Atha kho, seṭṭhi gahapati, catuddisā assadūte uyyojetvā sāmaṃyeva yena isipatanaṃ migadāyo tenupasaṅkami. Addasā kho, seṭṭhi gahapati, suvaṇṇapādukānaṃ nikkhepaṃ, disvāna taṃyeva anugamāsi. Addasā kho bhagavā seṭṭhiṃ gahapatiṃ dūratova āgacchantaṃ, disvāna bhagavato etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhaṃ tathārūpaṃ iddhābhisaṅkhāraṃ abhisaṅkhareyyaṃ, yathā seṭṭhi gahapati idha nisinno idha nisinnaṃ yasaṃ kulaputtaṃ na passeyyā’’ti. Atha kho bhagavā tathārūpaṃ iddhābhisaṅkhāraṃ abhisaṅkharesi. Atha kho seṭṭhi gahapati yena bhagavā tenupasaṅkami ; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘api, bhante, bhagavā yasaṃ kulaputtaṃ passeyyā’’ti. Tena hi gahapati nisīda, appeva nāma idha nisinno idha nisinnaṃ yasaṃ kulaputtaṃ passeyyāsīti. Atha kho seṭṭhi gahapati ‘‘idheva kirāhaṃ nisinno idha nisinnaṃ yasaṃ kulaputtaṃ passissāmī’’ti haṭṭho udaggo bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi, ekamantaṃ nisinnassa kho seṭṭhissa gahapatissa bhagavā anupubbiṃ kathaṃ kathesi…pe… aparappaccayo atthu sāsane bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ bhante, abhikkantaṃ bhante, seyyathāpi , bhante, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya ‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’ti, evamevaṃ bhagavatā anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ, bhante, bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāmi dhammañca bhikkhusaṅghañca, upāsakaṃ maṃ bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Sova loke paṭhamaṃ upāsako ahosi tevāciko.
อถ โข ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส ปิตุโน ธเมฺม เทสิยมาเน ยถาทิฎฺฐํ ยถาวิทิตํ ภูมิํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อายเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยสสฺส โข กุลปุตฺตสฺส ปิตุโน ธเมฺม เทสิยมาเน ยถาทิฎฺฐํ ยถาวิทิตํ ภูมิํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อภโพฺพ โข ยโส กุลปุโตฺต หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุญฺชิตุํ, เสยฺยถาปิ ปุเพฺพ อคาริกภูโต, ยํนูนาหํ ตํ อิทฺธาภิสงฺขารํ ปฎิปฺปสฺสเมฺภยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา ตํ อิทฺธาภิสงฺขารํ ปฎิปฺปสฺสเมฺภสิฯ อทฺทสา โข เสฎฺฐิ คหปติ ยสํ กุลปุตฺตํ นิสินฺนํ, ทิสฺวาน ยสํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มาตา เต ตาต, ยส, ปริเทวโสกสมาปนฺนา, เทหิ มาตุยา ชีวิต’’นฺติฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต ภควนฺตํ อุโลฺลเกสิฯ อถ โข ภควา เสฎฺฐิํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, ยสฺส เสเกฺขน ญาเณน เสเกฺขน ทสฺสเนน ธโมฺม ทิโฎฺฐ วิทิโต เสยฺยถาปิ ตยา, ตสฺส ยถาทิฎฺฐํ ยถาวิทิตํ ภูมิํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, ภโพฺพ นุ โข โส, คหปติ, หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุญฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุเพฺพ อคาริกภูโต’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘ยสสฺส โข, คหปติ, กุลปุตฺตสฺส เสเกฺขน ญาเณน เสเกฺขน ทสฺสเนน ธโมฺม ทิโฎฺฐ วิทิโต เสยฺยถาปิ ตยา, ตสฺส ยถาทิฎฺฐํ ยถาวิทิตํ ภูมิํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อภโพฺพ โข, คหปติ, ยโส กุลปุโตฺต หีนายาวตฺติตฺวา กาเม ปริภุญฺชิตุํ เสยฺยถาปิ ปุเพฺพ อคาริกภูโต’’ติฯ ‘‘ลาภา, ภเนฺต, ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส, สุลทฺธํ, ภเนฺต, ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส , ยถา ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺตํ, อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต ภควา, อชฺชตนาย ภตฺตํ ยเสน กุลปุเตฺตน ปจฺฉาสมเณนา’’ติ ฯ ‘‘อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน’’ฯ อถ โข เสฎฺฐิ คหปติ , ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ยโส กุลปุโตฺต อจิรปกฺกเนฺต เสฎฺฐิมฺหิ คหปติมฺหิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ลเภยฺยาหํ, ภเนฺต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติฯ ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธโมฺม, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ, สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสิฯ
Atha kho yasassa kulaputtassa pituno dhamme desiyamāne yathādiṭṭhaṃ yathāviditaṃ bhūmiṃ paccavekkhantassa anupādāya āyavehi cittaṃ vimucci. Atha kho bhagavato etadahosi – ‘‘yasassa kho kulaputtassa pituno dhamme desiyamāne yathādiṭṭhaṃ yathāviditaṃ bhūmiṃ paccavekkhantassa anupādāya āsavehi cittaṃ vimuttaṃ, abhabbo kho yaso kulaputto hīnāyāvattitvā kāme paribhuñjituṃ, seyyathāpi pubbe agārikabhūto, yaṃnūnāhaṃ taṃ iddhābhisaṅkhāraṃ paṭippassambheyya’’nti. Atha kho bhagavā taṃ iddhābhisaṅkhāraṃ paṭippassambhesi. Addasā kho seṭṭhi gahapati yasaṃ kulaputtaṃ nisinnaṃ, disvāna yasaṃ kulaputtaṃ etadavoca – ‘‘mātā te tāta, yasa, paridevasokasamāpannā, dehi mātuyā jīvita’’nti. Atha kho yaso kulaputto bhagavantaṃ ullokesi. Atha kho bhagavā seṭṭhiṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘taṃ kiṃ maññasi, gahapati, yassa sekkhena ñāṇena sekkhena dassanena dhammo diṭṭho vidito seyyathāpi tayā, tassa yathādiṭṭhaṃ yathāviditaṃ bhūmiṃ paccavekkhantassa anupādāya āsavehi cittaṃ vimuttaṃ, bhabbo nu kho so, gahapati, hīnāyāvattitvā kāme paribhuñjituṃ seyyathāpi pubbe agārikabhūto’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Yasassa kho, gahapati, kulaputtassa sekkhena ñāṇena sekkhena dassanena dhammo diṭṭho vidito seyyathāpi tayā, tassa yathādiṭṭhaṃ yathāviditaṃ bhūmiṃ paccavekkhantassa anupādāya āsavehi cittaṃ vimuttaṃ, abhabbo kho, gahapati, yaso kulaputto hīnāyāvattitvā kāme paribhuñjituṃ seyyathāpi pubbe agārikabhūto’’ti. ‘‘Lābhā, bhante, yasassa kulaputtassa, suladdhaṃ, bhante, yasassa kulaputtassa , yathā yasassa kulaputtassa anupādāya āsavehi cittaṃ vimuttaṃ, adhivāsetu me, bhante bhagavā, ajjatanāya bhattaṃ yasena kulaputtena pacchāsamaṇenā’’ti . ‘‘Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena’’. Atha kho seṭṭhi gahapati , bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho yaso kulaputto acirapakkante seṭṭhimhi gahapatimhi bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘labheyyāhaṃ, bhante, bhagavato santike pabbajjaṃ, labheyyaṃ upasampada’’nti. ‘‘Ehi bhikkhū’’ti bhagavā avoca – ‘‘svākkhāto dhammo, cara brahmacariyaṃ sammā dukkhassa antakiriyāyā’’ti, sāva tassa āyasmato upasampadā ahosi.
๑. อรหา ปน หุตฺวา โสมนสฺสชาโต อตฺตโน ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสโนฺต มหาสมุทฺทํ โอคฺคยฺหาติอาทิมาหฯ ตตฺถ สมุทฺทนฺติ องฺคุลิมุทฺทาย สํ สุฎฺฐุ ทเสฺสตพฺพโต สมุโทฺท, อถ วา สํ สุฎฺฐุ อุทิยติ โขภิยติ ปโสธิยติ โฆสนํ กโรโนฺต อาลุฬิยตีติ สมุโทฺท, มหโนฺต จ โส สมุโทฺท จาติ มหาสมุโทฺท, ตํ มหาสมุทฺทํฯ โอคฺคยฺหาติ อโชฺฌคาเหตฺวา อพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา ตสฺส มหาสมุทฺทสฺส อโนฺต ปวิสิตฺวา, สามฺยเตฺถ เจตํ อุปโยควจนนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ ภวนํ เม สุมาปิตนฺติ เอตฺถ ภวนฺติ นิพฺพตฺตนฺติ นิวสนฺติ จตูหิ อิริยาปเถหิ วาสํ กเปฺปนฺติ เอตฺถาติ ภวนํ, มยฺหํ ตํ ภวนํ ตํ วิมานํ ตํ ปาสาทํ ปญฺจปาการกูฎาคาเรหิ สํ สุฎฺฐุ มาปิตํ นครํ, อตฺตโน พเลน สุฎฺฐุ นิมฺมิตนฺติ อโตฺถฯ สุนิมฺมิตา โปกฺขรณีติ สุมหนฺตา หุตฺวา ภูตา อิตา คตา ปวตฺตา ขณิตา กตาติ โปกฺขรณี, มจฺฉกจฺฉปปุปฺผปุลินติตฺถมธุโรทกาทีหิ สุฎฺฐุ นิพฺพตฺตา นิมฺมิตาติ อโตฺถฯ จกฺกวากูปกูชิตาติ จกฺกวากกุกฺกุฎหํสาทีหิ กูชิตา โฆสิตา นาทิตา สา โปกฺขรณีติ สมฺพโนฺธฯ อิโต ปรํ นทีวนทฺวิปทจตุปฺปทปาทปปกฺขีนํ วณฺณญฺจ สุเมธสฺส ภควโต ทสฺสนญฺจ นิมเนฺตตฺวา สุเมธสฺส ภควโต ทานกฺกมญฺจ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
1. Arahā pana hutvā somanassajāto attano pubbacaritāpadānaṃ pakāsento mahāsamuddaṃ oggayhātiādimāha. Tattha samuddanti aṅgulimuddāya saṃ suṭṭhu dassetabbato samuddo, atha vā saṃ suṭṭhu udiyati khobhiyati pasodhiyati ghosanaṃ karonto āluḷiyatīti samuddo, mahanto ca so samuddo cāti mahāsamuddo, taṃ mahāsamuddaṃ. Oggayhāti ajjhogāhetvā abbhantaraṃ pavisitvā tassa mahāsamuddassa anto pavisitvā, sāmyatthe cetaṃ upayogavacananti daṭṭhabbaṃ. Bhavanaṃ me sumāpitanti ettha bhavanti nibbattanti nivasanti catūhi iriyāpathehi vāsaṃ kappenti etthāti bhavanaṃ, mayhaṃ taṃ bhavanaṃ taṃ vimānaṃ taṃ pāsādaṃ pañcapākārakūṭāgārehi saṃ suṭṭhu māpitaṃ nagaraṃ, attano balena suṭṭhu nimmitanti attho. Sunimmitā pokkharaṇīti sumahantā hutvā bhūtā itā gatā pavattā khaṇitā katāti pokkharaṇī, macchakacchapapupphapulinatitthamadhurodakādīhi suṭṭhu nibbattā nimmitāti attho. Cakkavākūpakūjitāti cakkavākakukkuṭahaṃsādīhi kūjitā ghositā nāditā sā pokkharaṇīti sambandho. Ito paraṃ nadīvanadvipadacatuppadapādapapakkhīnaṃ vaṇṇañca sumedhassa bhagavato dassanañca nimantetvā sumedhassa bhagavato dānakkamañca suviññeyyameva.
โลกาหุติปฎิคฺคหนฺติ เอตฺถ โลเก อาหุติ โลกาหุติ, กามรูปารูปสงฺขาตสฺส โลกสฺส อาหุติํ ปูชาสกฺการํ ปฎิคฺคณฺหาตีติ โลกาหุติปฎิคฺคหํ, สุเมธํ ภควนฺตนฺติ อโตฺถฯ เสสํ พฺยากรณทานญฺจ อรหตฺตปฺปตฺตผลญฺจ สุวิเญฺญยฺยเมวาติฯ
Lokāhutipaṭiggahanti ettha loke āhuti lokāhuti, kāmarūpārūpasaṅkhātassa lokassa āhutiṃ pūjāsakkāraṃ paṭiggaṇhātīti lokāhutipaṭiggahaṃ, sumedhaṃ bhagavantanti attho. Sesaṃ byākaraṇadānañca arahattappattaphalañca suviññeyyamevāti.
ยสเตฺถรอปทานวณฺณนา สมตฺตาฯ
Yasattheraapadānavaṇṇanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi / ๑. ยสเตฺถรอปทานํ • 1. Yasattheraapadānaṃ