Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi

    ๑๐. ยโสธราปมุขอฎฺฐารสภิกฺขุนีสหสฺสอปทานํ

    10. Yasodharāpamukhaaṭṭhārasabhikkhunīsahassaapadānaṃ

    ๔๒๖.

    426.

    ‘‘อฎฺฐารสสหสฺสานิ , ภิกฺขุนี สกฺยสมฺภวา;

    ‘‘Aṭṭhārasasahassāni , bhikkhunī sakyasambhavā;

    ยโสธราปมุขานิ, สมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมุํฯ

    Yasodharāpamukhāni, sambuddhaṃ upasaṅkamuṃ.

    ๔๒๗.

    427.

    ‘‘อฎฺฐารสสหสฺสานิ, สพฺพา โหนฺติ มหิทฺธิกา;

    ‘‘Aṭṭhārasasahassāni, sabbā honti mahiddhikā;

    วนฺทนฺตี มุนิโน ปาเท, อาโรเจนฺติ ยถาพลํฯ

    Vandantī munino pāde, ārocenti yathābalaṃ.

    ๔๒๘.

    428.

    ‘‘‘ชาติ ขีณา ชรา พฺยาธิ, มรณญฺจ มหามุนิ;

    ‘‘‘Jāti khīṇā jarā byādhi, maraṇañca mahāmuni;

    อนาสวํ ปทํ สนฺตํ, อมตํ ยาม นายกฯ

    Anāsavaṃ padaṃ santaṃ, amataṃ yāma nāyaka.

    ๔๒๙.

    429.

    ‘‘‘ขลิตเญฺจ ปุเร อตฺถิ, สพฺพาสมฺปิ มหามุนิ;

    ‘‘‘Khalitañce pure atthi, sabbāsampi mahāmuni;

    อปราธมชานนฺตี, ขม อมฺหํ วินายกฯ

    Aparādhamajānantī, khama amhaṃ vināyaka.

    ๔๓๐.

    430.

    ‘‘‘อิทฺธิญฺจาปิ นิทเสฺสถ, มม สาสนการิกา;

    ‘‘‘Iddhiñcāpi nidassetha, mama sāsanakārikā;

    ปริสานญฺจ สพฺพาสํ, กงฺขํ ฉินฺทถ ยาวตาฯ

    Parisānañca sabbāsaṃ, kaṅkhaṃ chindatha yāvatā.

    ๔๓๑.

    431.

    ‘‘‘ยโสธรา มหาวีร, มนาปา ปิยทสฺสนา;

    ‘‘‘Yasodharā mahāvīra, manāpā piyadassanā;

    สพฺพา ตุยฺหํ มหาวีร, อคารสฺมิํ ปชาปติฯ

    Sabbā tuyhaṃ mahāvīra, agārasmiṃ pajāpati.

    ๔๓๒.

    432.

    ‘‘‘ถีนํ สตสหสฺสานํ, นวุตีนํ ฉทุตฺตริ;

    ‘‘‘Thīnaṃ satasahassānaṃ, navutīnaṃ chaduttari;

    อคาเร เต มยํ วีร, ปาโมกฺขา สพฺพา อิสฺสราฯ

    Agāre te mayaṃ vīra, pāmokkhā sabbā issarā.

    ๔๓๓.

    433.

    ‘‘‘รูปาจารคุณูเปตา, โยพฺพนฎฺฐา ปิยํวทา;

    ‘‘‘Rūpācāraguṇūpetā, yobbanaṭṭhā piyaṃvadā;

    สพฺพา โน อปจายนฺติ, เทวตา วิย มานุสาฯ

    Sabbā no apacāyanti, devatā viya mānusā.

    ๔๓๔.

    434.

    ‘‘‘อฎฺฐารสสหสฺสานิ, สพฺพา สากิยสมฺภวา;

    ‘‘‘Aṭṭhārasasahassāni, sabbā sākiyasambhavā;

    ยโสธราสหสฺสานิ, ปาโมกฺขา อิสฺสรา ตทาฯ

    Yasodharāsahassāni, pāmokkhā issarā tadā.

    ๔๓๕.

    435.

    ‘‘‘กามธาตุมติกฺกมฺม , สณฺฐิตา รูปธาตุยา;

    ‘‘‘Kāmadhātumatikkamma , saṇṭhitā rūpadhātuyā;

    รูเปน สทิสา นตฺถิ, สหสฺสานํ มหามุนิฯ

    Rūpena sadisā natthi, sahassānaṃ mahāmuni.

    ๔๓๖.

    436.

    ‘‘‘สมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา, อิทฺธิํ ทสฺสํสุ สตฺถุโน;

    ‘‘‘Sambuddhaṃ abhivādetvā, iddhiṃ dassaṃsu satthuno;

    เนกา นานาวิธาการา, มหาอิทฺธีปิ ทสฺสยุํฯ

    Nekā nānāvidhākārā, mahāiddhīpi dassayuṃ.

    ๔๓๗.

    437.

    ‘‘‘จกฺกวาฬสมํ กายํ, สีสํ อุตฺตรโต กุรุ;

    ‘‘‘Cakkavāḷasamaṃ kāyaṃ, sīsaṃ uttarato kuru;

    อุโภ ปกฺขา ทุเว ทีปา, ชมฺพุทีปํ สรีรโตฯ

    Ubho pakkhā duve dīpā, jambudīpaṃ sarīrato.

    ๔๓๘.

    438.

    ‘‘‘ทกฺขิณญฺจ สรํ ปิญฺฉํ, นานาสาขา ตุ ปตฺตกา;

    ‘‘‘Dakkhiṇañca saraṃ piñchaṃ, nānāsākhā tu pattakā;

    จนฺทญฺจ สูริยญฺจกฺขิ, เมรุปพฺพตโต สิขํฯ

    Candañca sūriyañcakkhi, merupabbatato sikhaṃ.

    ๔๓๙.

    439.

    ‘‘‘จกฺกวาฬคิริํ ตุณฺฑํ, ชมฺพุรุกฺขํ สมูลกํ;

    ‘‘‘Cakkavāḷagiriṃ tuṇḍaṃ, jamburukkhaṃ samūlakaṃ;

    พีชมานา อุปาคนฺตฺวา, วนฺทนฺตี โลกนายกํฯ

    Bījamānā upāgantvā, vandantī lokanāyakaṃ.

    ๔๔๐.

    440.

    ‘‘‘หตฺถิวณฺณํ ตเถวสฺสํ, ปพฺพตํ ชลธิํ ตถา;

    ‘‘‘Hatthivaṇṇaṃ tathevassaṃ, pabbataṃ jaladhiṃ tathā;

    จนฺทญฺจ สูริยํ เมรุํ, สกฺกวณฺณญฺจ ทสฺสยุํฯ

    Candañca sūriyaṃ meruṃ, sakkavaṇṇañca dassayuṃ.

    ๔๔๑.

    441.

    ‘‘‘ยโสธรา มยํ วีร, ปาเท วนฺทาม จกฺขุม;

    ‘‘‘Yasodharā mayaṃ vīra, pāde vandāma cakkhuma;

    ตว จิรปภาเวน, นิปฺผนฺนา นรนายกฯ

    Tava cirapabhāvena, nipphannā naranāyaka.

    ๔๔๒.

    442.

    ‘‘‘อิทฺธีสุ จ วสี โหม, ทิพฺพาย โสตธาตุยา;

    ‘‘‘Iddhīsu ca vasī homa, dibbāya sotadhātuyā;

    เจโตปริยญาณสฺส, วสี โหม มหามุเนฯ

    Cetopariyañāṇassa, vasī homa mahāmune.

    ๔๔๓.

    443.

    ‘‘‘ปุเพฺพนิวาสํ ชานาม, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

    ‘‘‘Pubbenivāsaṃ jānāma, dibbacakkhu visodhitaṃ;

    สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ

    Sabbāsavaparikkhīṇā, natthi dāni punabbhavo.

    ๔๔๔.

    444.

    ‘‘‘อตฺถธมฺมนิรุตฺตีสุ, ปฎิภาเน ตเถว จ;

    ‘‘‘Atthadhammaniruttīsu, paṭibhāne tatheva ca;

    ญาณํ อมฺหํ มหาวีร, อุปฺปนฺนํ ตว สนฺติเกฯ

    Ñāṇaṃ amhaṃ mahāvīra, uppannaṃ tava santike.

    ๔๔๕.

    445.

    ‘‘‘ปุพฺพานํ โลกนาถานํ, สงฺคมํ โน นิทสฺสิตํ;

    ‘‘‘Pubbānaṃ lokanāthānaṃ, saṅgamaṃ no nidassitaṃ;

    อธิการา พหู อมฺหํ, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ

    Adhikārā bahū amhaṃ, tuyhatthāya mahāmune.

    ๔๔๖.

    446.

    ‘‘‘ยํ อมฺหํ ปูริตํ กมฺมํ, กุสลํ สรเส มุเน;

    ‘‘‘Yaṃ amhaṃ pūritaṃ kammaṃ, kusalaṃ sarase mune;

    ตุยฺหตฺถาย มหาวีร, ปุญฺญานุปจิตานิ โนฯ

    Tuyhatthāya mahāvīra, puññānupacitāni no.

    ๔๔๗.

    447.

    ‘‘‘อภพฺพฎฺฐาเน วเชฺชตฺวา, วารยิมฺห อนาจรํ;

    ‘‘‘Abhabbaṭṭhāne vajjetvā, vārayimha anācaraṃ;

    ตุยฺหตฺถาย มหาวีร, จตฺตานิ ชีวิตานิ โน 1

    Tuyhatthāya mahāvīra, cattāni jīvitāni no 2.

    ๔๔๘.

    448.

    ‘‘‘เนกโกฎิสหสฺสานิ , ภริยตฺถายทาสิ โน;

    ‘‘‘Nekakoṭisahassāni , bhariyatthāyadāsi no;

    น ตตฺถ วิมนา โหม, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ

    Na tattha vimanā homa, tuyhatthāya mahāmune.

    ๔๔๙.

    449.

    ‘‘‘เนกโกฎิสหสฺสานิ, อุปการายทาสิ โน;

    ‘‘‘Nekakoṭisahassāni, upakārāyadāsi no;

    น ตตฺถ วิมนา โหม, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ

    Na tattha vimanā homa, tuyhatthāya mahāmune.

    ๔๕๐.

    450.

    ‘‘‘เนกโกฎิสหสฺสานิ, โภชนตฺถายทาสิ โน;

    ‘‘‘Nekakoṭisahassāni, bhojanatthāyadāsi no;

    น ตตฺถ วิมนา โหม, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ

    Na tattha vimanā homa, tuyhatthāya mahāmune.

    ๔๕๑.

    451.

    ‘‘‘เนกโกฎิสหสฺสานิ , ชีวิตานิ จชิมฺหเส 3;

    ‘‘‘Nekakoṭisahassāni , jīvitāni cajimhase 4;

    ภยโมกฺขํ กริสฺสาม, ชีวิตานิ จชิมฺหเสฯ

    Bhayamokkhaṃ karissāma, jīvitāni cajimhase.

    ๔๕๒.

    452.

    ‘‘‘องฺคคเต อลงฺกาเร, วเตฺถ นานาวิเธ พหู;

    ‘‘‘Aṅgagate alaṅkāre, vatthe nānāvidhe bahū;

    อิตฺถิภเณฺฑ น คูหาม, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ

    Itthibhaṇḍe na gūhāma, tuyhatthāya mahāmune.

    ๔๕๓.

    453.

    ‘‘‘ธนธญฺญปริจฺจาคํ , คามานิ นิคมานิ จ;

    ‘‘‘Dhanadhaññapariccāgaṃ , gāmāni nigamāni ca;

    เขตฺตํ ปุตฺตา จ ธีตา จ, ปริจฺจตฺตา มหามุเนฯ

    Khettaṃ puttā ca dhītā ca, pariccattā mahāmune.

    ๔๕๔.

    454.

    ‘‘‘หตฺถี อสฺสา ควา จาปิ, ทาสิโย ปริจาริกา;

    ‘‘‘Hatthī assā gavā cāpi, dāsiyo paricārikā;

    ตุยฺหตฺถาย มหาวีร, ปริจฺจตฺตํ อสงฺขิยํฯ

    Tuyhatthāya mahāvīra, pariccattaṃ asaṅkhiyaṃ.

    ๔๕๕.

    455.

    ‘‘‘ยํ อเมฺห ปฎิมเนฺตสิ, ทานํ ทสฺสาม ยาจเก;

    ‘‘‘Yaṃ amhe paṭimantesi, dānaṃ dassāma yācake;

    วิมนํ โน น ปสฺสาม, ททโต ทานมุตฺตมํฯ

    Vimanaṃ no na passāma, dadato dānamuttamaṃ.

    ๔๕๖.

    456.

    ‘‘‘นานาวิธํ พหุํ ทุกฺขํ, สํสาเร จ พหุพฺพิเธ;

    ‘‘‘Nānāvidhaṃ bahuṃ dukkhaṃ, saṃsāre ca bahubbidhe;

    ตุยฺหตฺถาย มหาวีร, อนุภุตฺตํ อสงฺขิยํฯ

    Tuyhatthāya mahāvīra, anubhuttaṃ asaṅkhiyaṃ.

    ๔๕๗.

    457.

    ‘‘‘สุขปฺปตฺตานุโมทาม, น จ ทุเกฺขสุ ทุมฺมนา;

    ‘‘‘Sukhappattānumodāma, na ca dukkhesu dummanā;

    สพฺพตฺถ ตุลิตา โหม, ตุยฺหตฺถาย มหามุเนฯ

    Sabbattha tulitā homa, tuyhatthāya mahāmune.

    ๔๕๘.

    458.

    ‘‘‘อนุมเคฺคน สมฺพุโทฺธ, ยํ ธมฺมํ อภินีหริ;

    ‘‘‘Anumaggena sambuddho, yaṃ dhammaṃ abhinīhari;

    อนุโภตฺวา สุขํ ทุกฺขํ, ปโตฺต โพธิํ มหามุเนฯ

    Anubhotvā sukhaṃ dukkhaṃ, patto bodhiṃ mahāmune.

    ๔๕๙.

    459.

    ‘‘‘พฺรหฺมเทวญฺจ สมฺพุทฺธํ, โคตมํ โลกนายกํ;

    ‘‘‘Brahmadevañca sambuddhaṃ, gotamaṃ lokanāyakaṃ;

    อเญฺญสํ โลกนาถานํ, สงฺคมํ เตหิ โน พหูฯ

    Aññesaṃ lokanāthānaṃ, saṅgamaṃ tehi no bahū.

    ๔๖๐.

    460.

    ‘‘‘อธิการํ พหุํ อเมฺห, ตุยฺหตฺถาย มหามุเน;

    ‘‘‘Adhikāraṃ bahuṃ amhe, tuyhatthāya mahāmune;

    คเวสโต พุทฺธธเมฺม, มยํ เต ปริจาริกาฯ

    Gavesato buddhadhamme, mayaṃ te paricārikā.

    ๔๖๑.

    461.

    ‘‘‘กเปฺป จ สตสหเสฺส, จตุโร จ อสงฺขิเย;

    ‘‘‘Kappe ca satasahasse, caturo ca asaṅkhiye;

    ทีปงฺกโร มหาวีโร, อุปฺปชฺชิ โลกนายโกฯ

    Dīpaṅkaro mahāvīro, uppajji lokanāyako.

    ๔๖๒.

    462.

    ‘‘‘ปจฺจนฺตเทสวิสเย, นิมเนฺตตฺวา ตถาคตํ;

    ‘‘‘Paccantadesavisaye, nimantetvā tathāgataṃ;

    ตสฺส อาคมนํ มคฺคํ, โสเธนฺติ ตุฎฺฐมานสาฯ

    Tassa āgamanaṃ maggaṃ, sodhenti tuṭṭhamānasā.

    ๔๖๓.

    463.

    ‘‘‘เตน กาเลน โส อาสิ, สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ;

    ‘‘‘Tena kālena so āsi, sumedho nāma brāhmaṇo;

    มคฺคญฺจ ปฎิยาเทสิ, อายโต สพฺพทสฺสิโนฯ

    Maggañca paṭiyādesi, āyato sabbadassino.

    ๔๖๔.

    464.

    ‘‘‘เตน กาเลน อหุมฺห, สพฺพา พฺราหฺมณสมฺภวา;

    ‘‘‘Tena kālena ahumha, sabbā brāhmaṇasambhavā;

    ถลูทชานิ ปุปฺผานิ, อาหริมฺห สมาคมํฯ

    Thalūdajāni pupphāni, āharimha samāgamaṃ.

    ๔๖๕.

    465.

    ‘‘‘ตสฺมิํ โส สมเย พุโทฺธ, ทีปงฺกโร มหายโส;

    ‘‘‘Tasmiṃ so samaye buddho, dīpaṅkaro mahāyaso;

    วิยากาสิ มหาวีโร, อิสิมุคฺคตมานสํฯ

    Viyākāsi mahāvīro, isimuggatamānasaṃ.

    ๔๖๖.

    466.

    ‘‘‘จลตี รวตี ปุถวี, สงฺกมฺปติ สเทวเก;

    ‘‘‘Calatī ravatī puthavī, saṅkampati sadevake;

    ตสฺส กมฺมํ ปกิเตฺตเนฺต, อิสิมุคฺคตมานสํฯ

    Tassa kammaṃ pakittente, isimuggatamānasaṃ.

    ๔๖๗.

    467.

    ‘‘‘เทวกญฺญา มนุสฺสา จ, มยญฺจาปิ สเทวกา;

    ‘‘‘Devakaññā manussā ca, mayañcāpi sadevakā;

    นานาปูชนียํ ภณฺฑํ, ปูชยิตฺวาน ปตฺถยุํฯ

    Nānāpūjanīyaṃ bhaṇḍaṃ, pūjayitvāna patthayuṃ.

    ๔๖๘.

    468.

    ‘‘‘เตสํ พุโทฺธ วิยากาสิ, โชติทีป สนามโก;

    ‘‘‘Tesaṃ buddho viyākāsi, jotidīpa sanāmako;

    อชฺช เย ปตฺถิตา อตฺถิ, เต ภวิสฺสนฺติ สมฺมุขาฯ

    Ajja ye patthitā atthi, te bhavissanti sammukhā.

    ๔๖๙.

    469.

    ‘‘‘อปริเมเยฺย อิโต กเปฺป, ยํ โน พุโทฺธ วิยากริ;

    ‘‘‘Aparimeyye ito kappe, yaṃ no buddho viyākari;

    ตํ วาจมนุโมเทนฺตา, เอวํการี อหุมฺห โนฯ

    Taṃ vācamanumodentā, evaṃkārī ahumha no.

    ๔๗๐.

    470.

    ‘‘‘ตสฺส กมฺมสฺส สุกตสฺส, ตสฺส จิตฺตํ ปสาทยุํ;

    ‘‘‘Tassa kammassa sukatassa, tassa cittaṃ pasādayuṃ;

    เทวมานุสิกํ โยนิํ, อนุโภตฺวา อสงฺขิยํฯ

    Devamānusikaṃ yoniṃ, anubhotvā asaṅkhiyaṃ.

    ๔๗๑.

    471.

    ‘‘‘สุขทุเกฺขนุโภตฺวาน , เทเวสุ มานุเสสุ จ;

    ‘‘‘Sukhadukkhenubhotvāna , devesu mānusesu ca;

    ปจฺฉิเม ภเว สมฺปเตฺต, ชาตามฺห สากิเย กุเลฯ

    Pacchime bhave sampatte, jātāmha sākiye kule.

    ๔๗๒.

    472.

    ‘‘‘รูปวตี โภควตี, ยสสีลวตี ตโต;

    ‘‘‘Rūpavatī bhogavatī, yasasīlavatī tato;

    สพฺพงฺคสมฺปทา โหม, กุเลสุ อภิสกฺกตาฯ

    Sabbaṅgasampadā homa, kulesu abhisakkatā.

    ๔๗๓.

    473.

    ‘‘‘ลาภํ สิโลกํ สกฺการํ, โลกธมฺมสมาคมํ;

    ‘‘‘Lābhaṃ silokaṃ sakkāraṃ, lokadhammasamāgamaṃ;

    จิตฺตญฺจ ทุกฺขิตํ นตฺถิ, วสาม อกุโตภยาฯ

    Cittañca dukkhitaṃ natthi, vasāma akutobhayā.

    ๔๗๔.

    474.

    ‘‘‘วุตฺตเญฺหตํ ภควตา, รโญฺญ อเนฺตปุเร ตทา;

    ‘‘‘Vuttañhetaṃ bhagavatā, rañño antepure tadā;

    ขตฺติยานํ ปุเร วีร 5, อุปการญฺจ นิทฺทิสิฯ

    Khattiyānaṃ pure vīra 6, upakārañca niddisi.

    ๔๗๕.

    475.

    ‘‘‘อุปการา จ ยา นารี, ยา จ นารี สุเข ทุเข;

    ‘‘‘Upakārā ca yā nārī, yā ca nārī sukhe dukhe;

    อตฺถกฺขายี จ ยา นารี, ยา จ นารีนุกมฺปิกาฯ

    Atthakkhāyī ca yā nārī, yā ca nārīnukampikā.

    ๔๗๖.

    476.

    ‘‘‘ธมฺมํ จเร สุจริตํ, น นํ ทุจฺจริตํ จเร;

    ‘‘‘Dhammaṃ care sucaritaṃ, na naṃ duccaritaṃ care;

    ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมิํ โลเก ปรมฺหิ จฯ

    Dhammacārī sukhaṃ seti, asmiṃ loke paramhi ca.

    ๔๗๗.

    477.

    ‘‘‘อคารํ วิชหิตฺวาน, ปพฺพชิมฺหนคาริยํ;

    ‘‘‘Agāraṃ vijahitvāna, pabbajimhanagāriyaṃ;

    อฑฺฒมาเส อสมฺปเตฺต, จตุสจฺจํ ผุสิมฺห โนฯ

    Aḍḍhamāse asampatte, catusaccaṃ phusimha no.

    ๔๗๘.

    478.

    ‘‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;

    ‘‘‘Cīvaraṃ piṇḍapātañca, paccayaṃ sayanāsanaṃ;

    อุปเนนฺติ พหู อเมฺห, สาครเสฺสว อูมิโยฯ

    Upanenti bahū amhe, sāgarasseva ūmiyo.

    ๔๗๙.

    479.

    ‘‘‘กิเลสา ฌาปิตา อมฺหํ 7, ภวา สเพฺพ สมูหตา;

    ‘‘‘Kilesā jhāpitā amhaṃ 8, bhavā sabbe samūhatā;

    นาคีว พนฺธนํ เฉตฺวา, วิหราม อนาสวาฯ

    Nāgīva bandhanaṃ chetvā, viharāma anāsavā.

    ๔๘๐.

    480.

    ‘‘‘สฺวาคตํ วต โน อาสิ, มม พุทฺธสฺส สนฺติเก;

    ‘‘‘Svāgataṃ vata no āsi, mama buddhassa santike;

    ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ

    Tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ.

    ๔๘๑.

    481.

    ‘‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส, วิโมกฺขาปิ จ อฎฺฐิเม;

    ‘‘‘Paṭisambhidā catasso, vimokkhāpi ca aṭṭhime;

    ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’ฯ

    Chaḷabhiññā sacchikatā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ’.

    ๔๘๒.

    482.

    ‘‘เอวํ พหุวิธํ ทุกฺขํ, สมฺปตฺตี จ พหุพฺพิธา;

    ‘‘Evaṃ bahuvidhaṃ dukkhaṃ, sampattī ca bahubbidhā;

    วิสุทฺธภาวํ สมฺปตฺตา, ลภาม สพฺพสมฺปทาฯ

    Visuddhabhāvaṃ sampattā, labhāma sabbasampadā.

    ๔๘๓.

    483.

    ‘‘ยา ททนฺติ สกตฺตานํ, ปุญฺญตฺถาย มเหสิโน;

    ‘‘Yā dadanti sakattānaṃ, puññatthāya mahesino;

    สหายสมฺปทา โหนฺติ, นิพฺพานปทมสงฺขตํฯ

    Sahāyasampadā honti, nibbānapadamasaṅkhataṃ.

    ๔๘๔.

    484.

    ‘‘ปริกฺขีณํ อตีตญฺจ, ปจฺจุปฺปนฺนํ อนาคตํ;

    ‘‘Parikkhīṇaṃ atītañca, paccuppannaṃ anāgataṃ;

    สพฺพกมฺมมฺปิ โน ขีณํ, ปาเท วนฺทาม จกฺขุมฯ

    Sabbakammampi no khīṇaṃ, pāde vandāma cakkhuma.

    ๔๘๕.

    485.

    ‘‘นิพฺพานาย วทนฺตีนํ, กิํ โว วกฺขาม อุตฺตริ;

    ‘‘Nibbānāya vadantīnaṃ, kiṃ vo vakkhāma uttari;

    สนฺตสงฺขตโทสญฺหิ, ปโปฺปถ 9 อมตํ ปทํ’’ฯ

    Santasaṅkhatadosañhi, pappotha 10 amataṃ padaṃ’’.

    อิตฺถํ สุทํ ยโสธราปมุขานิ อฎฺฐารสภิกฺขุนีสหสฺสานิ ภควโต สมฺมุขา อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ

    Itthaṃ sudaṃ yasodharāpamukhāni aṭṭhārasabhikkhunīsahassāni bhagavato sammukhā imā gāthāyo abhāsitthāti.

    ยโสธราปมุขอฎฺฐารสภิกฺขุนีสหสฺสาปทานํ ทสมํฯ

    Yasodharāpamukhaaṭṭhārasabhikkhunīsahassāpadānaṃ dasamaṃ.

    กุณฺฑลเกสีวโคฺค ตติโยฯ

    Kuṇḍalakesīvaggo tatiyo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    กุณฺฑลา โคตมี เจว, ธมฺมทินฺนา จ สกุลา;

    Kuṇḍalā gotamī ceva, dhammadinnā ca sakulā;

    วรนนฺทา จ โสณา จ, กาปิลานี ยโสธราฯ

    Varanandā ca soṇā ca, kāpilānī yasodharā.

    ทสสหสฺสภิกฺขุนี, อฎฺฐารสสหสฺสกา;

    Dasasahassabhikkhunī, aṭṭhārasasahassakā;

    คาถาสตานิ จตฺตาริ, ฉ จ สตฺตติเมว จ 11

    Gāthāsatāni cattāri, cha ca sattatimeva ca 12.







    Footnotes:
    1. สญฺจตฺตํ ชีวิตมฺปิ โน (สฺยา.)
    2. sañcattaṃ jīvitampi no (syā.)
    3. จชิมฺห โน (ปี. ก.)
    4. cajimha no (pī. ka.)
    5. ตาสํ (สฺยา.)
    6. tāsaṃ (syā.)
    7. มยฺหํ (สฺยา.), อมฺหากํ (ก.)
    8. mayhaṃ (syā.), amhākaṃ (ka.)
    9. สนฺตสงฺขตโทโส โย, ปโชฺชตํ (สฺยา. ปี. ก.)
    10. santasaṅkhatadoso yo, pajjotaṃ (syā. pī. ka.)
    11. อฎฺฐสตฺตติเมว จ (สฺยา.)
    12. aṭṭhasattatimeva ca (syā.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact