Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi |
๓. ยโสชสุตฺตํ
3. Yasojasuttaṃ
๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ยโสชปฺปมุขานิ ปญฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺตานิ โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ เตธ โข อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปฎิสโมฺมทมานา เสนาสนานิ ปญฺญาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฎิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา 1 อเหสุํ ฯ
23. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena yasojappamukhāni pañcamattāni bhikkhusatāni sāvatthiṃ anuppattāni honti bhagavantaṃ dassanāya. Tedha kho āgantukā bhikkhū nevāsikehi bhikkhūhi saddhiṃ paṭisammodamānā senāsanāni paññāpayamānā pattacīvarāni paṭisāmayamānā uccāsaddā mahāsaddā 2 ahesuṃ .
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘เก ปเนเต, อานนฺท, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา เกวฎฺฎา มเญฺญ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอตานิ, ภเนฺต, ยโสชปฺปมุขานิ ปญฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ เตเต อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปฎิสโมฺมทมานา เสนาสนานิ ปญฺญาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฎิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติฯ ‘‘เตนหานนฺท, มม วจเนน เต ภิกฺขู อามเนฺตหิ – ‘สตฺถา อายสฺมเนฺต อามเนฺตตี’’’ติฯ
Atha kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘ke panete, ānanda, uccāsaddā mahāsaddā kevaṭṭā maññe macchavilope’’ti? ‘‘Etāni, bhante, yasojappamukhāni pañcamattāni bhikkhusatāni sāvatthiṃ anuppattāni bhagavantaṃ dassanāya. Tete āgantukā bhikkhū nevāsikehi bhikkhūhi saddhiṃ paṭisammodamānā senāsanāni paññāpayamānā pattacīvarāni paṭisāmayamānā uccāsaddā mahāsaddā’’ti. ‘‘Tenahānanda, mama vacanena te bhikkhū āmantehi – ‘satthā āyasmante āmantetī’’’ti.
‘‘เอวํ , ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมเนฺต อามเนฺตตี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิเนฺน โข เต ภิกฺขู ภควา เอตทโวจ –
‘‘Evaṃ , bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paṭissutvā yena te bhikkhū tenupasaṅkami ; upasaṅkamitvā te bhikkhū etadavoca – ‘‘satthā āyasmante āmantetī’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato ānandassa paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu ; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinne kho te bhikkhū bhagavā etadavoca –
‘‘กิํ นุ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา, เกวฎฺฎา มเญฺญ มจฺฉวิโลเป’’ติ? เอวํ วุเตฺต, อายสฺมา ยโสโช ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมานิ, ภเนฺต, ปญฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ เตเม อาคนฺตุกา ภิกฺขู เนวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปฎิสโมฺมทมานา เสนาสนานิ ปญฺญาปยมานา ปตฺตจีวรานิ ปฎิสามยมานา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา’’ติฯ ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ปณาเมมิ โว 3; น โว มม สนฺติเก วตฺถพฺพ’’นฺติฯ
‘‘Kiṃ nu tumhe, bhikkhave, uccāsaddā mahāsaddā, kevaṭṭā maññe macchavilope’’ti? Evaṃ vutte, āyasmā yasojo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘imāni, bhante, pañcamattāni bhikkhusatāni sāvatthiṃ anuppattāni bhagavantaṃ dassanāya. Teme āgantukā bhikkhū nevāsikehi bhikkhūhi saddhiṃ paṭisammodamānā senāsanāni paññāpayamānā pattacīvarāni paṭisāmayamānā uccāsaddā mahāsaddā’’ti. ‘‘Gacchatha, bhikkhave, paṇāmemi vo 4; na vo mama santike vatthabba’’nti.
‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา 5 ปตฺตจีวรมาทาย เยน วชฺชี เตน จาริกํ ปกฺกมิํสุฯ วชฺชีสุ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมานา เยน วคฺคุมุทา นที เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร ปณฺณกุฎิโย กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉิํสุฯ
‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paṭissutvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā senāsanaṃ saṃsāmetvā 6 pattacīvaramādāya yena vajjī tena cārikaṃ pakkamiṃsu. Vajjīsu anupubbena cārikaṃ caramānā yena vaggumudā nadī tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā vaggumudāya nadiyā tīre paṇṇakuṭiyo karitvā vassaṃ upagacchiṃsu.
อถ โข อายสฺมา ยโสโช วสฺสูปคโต 7 ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภควตา มยํ, อาวุโส, ปณามิตา อตฺถกาเมน หิเตสินา, อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทายฯ หนฺท มยํ, อาวุโส, ตถา วิหารํ กเปฺปม ยถา โน วิหรตํ ภควา อตฺตมโน อสฺสา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต ยโสชสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อถ โข เต ภิกฺขู วูปกฎฺฐา อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา เตเนวนฺตรวเสฺสน สเพฺพว ติโสฺส วิชฺชา สจฺฉากํสุฯ
Atha kho āyasmā yasojo vassūpagato 8 bhikkhū āmantesi – ‘‘bhagavatā mayaṃ, āvuso, paṇāmitā atthakāmena hitesinā, anukampakena anukampaṃ upādāya. Handa mayaṃ, āvuso, tathā vihāraṃ kappema yathā no viharataṃ bhagavā attamano assā’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato yasojassa paccassosuṃ. Atha kho te bhikkhū vūpakaṭṭhā appamattā ātāpino pahitattā viharantā tenevantaravassena sabbeva tisso vijjā sacchākaṃsu.
อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ
Atha kho bhagavā sāvatthiyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena vesālī tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena vesālī tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ.
อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริยานํ ภิกฺขูนํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘อาโลกชาตา วิย เม, อานนฺท, เอสา ทิสา, โอภาสชาตา วิย เม, อานนฺท, เอสา ทิสา; ยสฺสํ ทิสายํ 9 วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู วิหรนฺติฯ คนฺตุํ อปฺปฎิกูลาสิ เม มนสิ กาตุํฯ ปหิเณยฺยาสิ ตฺวํ, อานนฺท, วคฺคุมุทาตีริยานํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ – ‘สตฺถา อายสฺมเนฺต อามเนฺตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’’ติฯ
Atha kho bhagavā vaggumudātīriyānaṃ bhikkhūnaṃ cetasā ceto paricca manasi karitvā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘ālokajātā viya me, ānanda, esā disā, obhāsajātā viya me, ānanda, esā disā; yassaṃ disāyaṃ 10 vaggumudātīriyā bhikkhū viharanti. Gantuṃ appaṭikūlāsi me manasi kātuṃ. Pahiṇeyyāsi tvaṃ, ānanda, vaggumudātīriyānaṃ bhikkhūnaṃ santike dūtaṃ – ‘satthā āyasmante āmanteti, satthā āyasmantānaṃ dassanakāmo’’’ti.
‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา เยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อาวุโส, เยน วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอวํ วเทหิ – ‘สตฺถา อายสฺมเนฺต อามเนฺตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’’ติฯ
‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paṭissutvā yena aññataro bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘ehi tvaṃ, āvuso, yena vaggumudātīriyā bhikkhū tenupasaṅkama; upasaṅkamitvā vaggumudātīriye bhikkhū evaṃ vadehi – ‘satthā āyasmante āmanteti, satthā āyasmantānaṃ dassanakāmo’’’ti.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข โส ภิกฺขุ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฎิสฺสุตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย, เอวเมว – มหาวเน กูฎาคารสาลายํ อนฺตรหิโต วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร เตสํ ภิกฺขูนํ ปุรโต ปาตุรโหสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา อายสฺมเนฺต อามเนฺตติ, สตฺถา อายสฺมนฺตานํ ทสฺสนกาโม’’ติฯ
‘‘Evamāvuso’’ti kho so bhikkhu āyasmato ānandassa paṭissutvā – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya, evameva – mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ antarahito vaggumudāya nadiyā tīre tesaṃ bhikkhūnaṃ purato pāturahosi. Atha kho so bhikkhu vaggumudātīriye bhikkhū etadavoca – ‘‘satthā āyasmante āmanteti, satthā āyasmantānaṃ dassanakāmo’’ti.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปฎิสฺสุตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย, เอวเมว – วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร อนฺตรหิตา มหาวเน กูฎาคารสาลายํ ภควโต สมฺมุเข ปาตุรเหสุํฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา อาเนเญฺชน สมาธินา นิสิโนฺน โหติฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กตเมน นุ โข ภควา วิหาเรน เอตรหิ วิหรตี’’ติ? อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อาเนเญฺชน โข ภควา วิหาเรน เอตรหิ วิหรตี’’ติฯ สเพฺพว อาเนญฺชสมาธินา นิสีทิํสุฯ
‘‘Evamāvuso’’ti kho te bhikkhū tassa bhikkhuno paṭissutvā senāsanaṃ saṃsāmetvā pattacīvaramādāya – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya, evameva – vaggumudāya nadiyā tīre antarahitā mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ bhagavato sammukhe pāturahesuṃ. Tena kho pana samayena bhagavā āneñjena samādhinā nisinno hoti. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘katamena nu kho bhagavā vihārena etarahi viharatī’’ti? Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘āneñjena kho bhagavā vihārena etarahi viharatī’’ti. Sabbeva āneñjasamādhinā nisīdiṃsu.
อถ โข อายสฺมา อานโนฺท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขเนฺต ปฐเม ยาเม, อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ 11 กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภเนฺต, รตฺติ; นิกฺขโนฺต ปฐโม ยาโม; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฎิสโมฺมทตุ, ภเนฺต, ภควา อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, ภควา ตุณฺหี อโหสิฯ
Atha kho āyasmā ānando abhikkantāya rattiyā, nikkhante paṭhame yāme, uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ 12 karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantā, bhante, ratti; nikkhanto paṭhamo yāmo; ciranisinnā āgantukā bhikkhū; paṭisammodatu, bhante, bhagavā āgantukehi bhikkhūhī’’ti. Evaṃ vutte, bhagavā tuṇhī ahosi.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขเนฺต มชฺฌิเม ยาเม, อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภเนฺต, รตฺติ; นิกฺขโนฺต มชฺฌิโม ยาโม; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฎิสโมฺมทตุ, ภเนฺต, ภควา อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี อโหสิฯ
Dutiyampi kho āyasmā ānando abhikkantāya rattiyā, nikkhante majjhime yāme, uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantā, bhante, ratti; nikkhanto majjhimo yāmo; ciranisinnā āgantukā bhikkhū; paṭisammodatu, bhante, bhagavā āgantukehi bhikkhūhī’’ti. Dutiyampi kho bhagavā tuṇhī ahosi.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขเนฺต ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธเสฺต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภเนฺต, รตฺติ; นิกฺขโนฺต ปจฺฉิโม ยาโม; อุทฺธโสฺต อรุโณ; นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู; ปฎิสโมฺมทตุ, ภเนฺต, ภควา, อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหี’’ติฯ
Tatiyampi kho āyasmā ānando abhikkantāya rattiyā, nikkhante pacchime yāme, uddhaste aruṇe, nandimukhiyā rattiyā uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantā, bhante, ratti; nikkhanto pacchimo yāmo; uddhasto aruṇo; nandimukhī ratti; ciranisinnā āgantukā bhikkhū; paṭisammodatu, bhante, bhagavā, āgantukehi bhikkhūhī’’ti.
อถ โข ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฎฺฐหิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อานนฺท, ชาเนยฺยาสิ เอตฺตกมฺปิ เต นปฺปฎิภาเสยฺย 13ฯ อหญฺจ, อานนฺท, อิมานิ จ ปญฺจ ภิกฺขุสตานิ สเพฺพว อาเนญฺชสมาธินา นิสีทิมฺหา’’ติฯ
Atha kho bhagavā tamhā samādhimhā vuṭṭhahitvā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘sace kho tvaṃ, ānanda, jāneyyāsi ettakampi te nappaṭibhāseyya 14. Ahañca, ānanda, imāni ca pañca bhikkhusatāni sabbeva āneñjasamādhinā nisīdimhā’’ti.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesi –
‘‘ยสฺส ชิโต กามกณฺฎโก,
‘‘Yassa jito kāmakaṇṭako,
อโกฺกโส จ วโธ จ พนฺธนญฺจ;
Akkoso ca vadho ca bandhanañca;
สุขทุเกฺขสุ น เวธตี ส ภิกฺขู’’ติฯ ตติยํ;
Sukhadukkhesu na vedhatī sa bhikkhū’’ti. tatiyaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā / ๓. ยโสชสุตฺตวณฺณนา • 3. Yasojasuttavaṇṇanā