Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๑๑. ยวกลาปิสุตฺตวณฺณนา
11. Yavakalāpisuttavaṇṇanā
๒๔๘. เอกาทสเม ยวกลาปีติ ลายิตฺวา ฐปิตยวปุโญฺชฯ พฺยาภงฺคิหตฺถาติ กาชหตฺถาฯ ฉหิ พฺยาภงฺคีหิ หเนยฺยุนฺติ ฉหิ ปุถุลกาชทณฺฑเกหิ โปเถยฺยุํฯ สตฺตโมติ เตสุ ฉสุ ชเนสุ ยเว โปเถตฺวา ปสิพฺพเก ปูเรตฺวา อาทาย คเตสุ อโญฺญ สตฺตโม อาคเจฺฉยฺยฯ สุหตตรา อสฺสาติ ยํ ตตฺถ อวสิฎฺฐํ อตฺถิ ภุสปลาปมตฺตมฺปิ, ตสฺส คหณตฺถํ สุฎฺฐุตรํ หตาฯ
248. Ekādasame yavakalāpīti lāyitvā ṭhapitayavapuñjo. Byābhaṅgihatthāti kājahatthā. Chahi byābhaṅgīhi haneyyunti chahi puthulakājadaṇḍakehi potheyyuṃ. Sattamoti tesu chasu janesu yave pothetvā pasibbake pūretvā ādāya gatesu añño sattamo āgaccheyya. Suhatatarā assāti yaṃ tattha avasiṭṭhaṃ atthi bhusapalāpamattampi, tassa gahaṇatthaṃ suṭṭhutaraṃ hatā.
เอวเมว โขติ เอตฺถ จตุมหาปโถ วิย ฉ อายตนานิ ทฎฺฐพฺพานิ, จตุมหาปเถ นิกฺขิตฺตยวกลาปี วิย สโตฺต, ฉ พฺยาภงฺคิโย วิย อิฎฺฐานิฎฺฐมชฺฌตฺตวเสน อฎฺฐารส อารมฺมณานิ, สตฺตมา พฺยาภงฺคี วิย ภวปตฺถนา กิเลสาฯ ยถา จตุมหาปเถ ฐปิตา ยวกลาปี ฉหิ พฺยาภงฺคีหิ หญฺญติ, เอวมิเม สตฺตา อฎฺฐารสหิ อารมฺมณทณฺฑเกหิ ฉสุ อายตเนสุ หญฺญนฺติฯ ยถา สตฺตเมน สุหตตรา โหนฺติ, เอวํ สตฺตา ภวปตฺถนกิเลเสหิ สุหตตรา โหนฺติ ภเวมูลกํ ทุกฺขํ อนุภวมานาฯ
Evameva khoti ettha catumahāpatho viya cha āyatanāni daṭṭhabbāni, catumahāpathe nikkhittayavakalāpī viya satto, cha byābhaṅgiyo viya iṭṭhāniṭṭhamajjhattavasena aṭṭhārasa ārammaṇāni, sattamā byābhaṅgī viya bhavapatthanā kilesā. Yathā catumahāpathe ṭhapitā yavakalāpī chahi byābhaṅgīhi haññati, evamime sattā aṭṭhārasahi ārammaṇadaṇḍakehi chasu āyatanesu haññanti. Yathā sattamena suhatatarā honti, evaṃ sattā bhavapatthanakilesehi suhatatarā honti bhavemūlakaṃ dukkhaṃ anubhavamānā.
อิทานิ เนสํ ตํ ภวปตฺถนกิเลสํ ทเสฺสตุํ ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเวติอาทิมาหฯ ตตฺราติ สุธมฺมายํ ภุมฺมํ, สุธมฺมาย เทวสภาย ทฺวาเรติ อโตฺถฯ ธมฺมิกา โข เทวาติ ธมฺมิกา เอเต เทวา นาม, เยหิ มาทิสํ อสุราธิปติํ คเหตฺวา มยฺหํ เภทนมตฺตมฺปิ น กตนฺติ สนฺธาย วทติฯ อธมฺมิกา เทวาติ อธมฺมิกา เอเต เทวา นาม, เย มาทิสํ อสุราธิปติํ นวคูถสูกรํ วิย กณฺฐปญฺจเมหิ พนฺธเนหิ พนฺธิตฺวา นิสีทาเปนฺติฯ เอวํ สุขุมํ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติพนฺธนนฺติ ตํ กิร ปทุมนาฬสุตฺตํ วิย มกฺกฎชาลสุตฺตํ วิย จ สุขุมํ โหติ, เฉตฺตุํ ปน เนว วาสิยา น ผรสุนา สกฺกาฯ ยสฺมา ปน จิเตฺตเนว พชฺฌติ, จิเตฺตน มุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘เวปจิตฺติพนฺธน’’นฺติ วุตฺตํฯ
Idāni nesaṃ taṃ bhavapatthanakilesaṃ dassetuṃ bhūtapubbaṃ, bhikkhavetiādimāha. Tatrāti sudhammāyaṃ bhummaṃ, sudhammāya devasabhāya dvāreti attho. Dhammikā kho devāti dhammikā ete devā nāma, yehi mādisaṃ asurādhipatiṃ gahetvā mayhaṃ bhedanamattampi na katanti sandhāya vadati. Adhammikā devāti adhammikā ete devā nāma, ye mādisaṃ asurādhipatiṃ navagūthasūkaraṃ viya kaṇṭhapañcamehi bandhanehi bandhitvā nisīdāpenti. Evaṃ sukhumaṃ kho, bhikkhave, vepacittibandhananti taṃ kira padumanāḷasuttaṃ viya makkaṭajālasuttaṃ viya ca sukhumaṃ hoti, chettuṃ pana neva vāsiyā na pharasunā sakkā. Yasmā pana citteneva bajjhati, cittena muccati, tasmā ‘‘vepacittibandhana’’nti vuttaṃ.
ตโต สุขุมตรํ มารพนฺธนนฺติ กิเลสพนฺธนํ ปเนสํ ตโตปิ สุขุมตรํ, เนว จกฺขุสฺส อาปาถํ คจฺฉติ, น อิริยาปถํ นิวาเรติฯ เตน หิ พทฺธา สตฺตา ปถวิตเลปิ อากาเสปิ โยชนสตมฺปิ โยชนสหสฺสมฺปิ คจฺฉนฺติปิ อาคจฺฉนฺติปิฯ ฉิชฺชมานํ ปเนตํ ญาเณเนว ฉิชฺชติ, น อเญฺญนาติ ‘‘ญาณโมกฺขํ พนฺธน’’นฺติปิ วุจฺจติฯ
Tato sukhumataraṃ mārabandhananti kilesabandhanaṃ panesaṃ tatopi sukhumataraṃ, neva cakkhussa āpāthaṃ gacchati, na iriyāpathaṃ nivāreti. Tena hi baddhā sattā pathavitalepi ākāsepi yojanasatampi yojanasahassampi gacchantipi āgacchantipi. Chijjamānaṃ panetaṃ ñāṇeneva chijjati, na aññenāti ‘‘ñāṇamokkhaṃ bandhana’’ntipi vuccati.
มญฺญมาโนติ ตณฺหาทิฎฺฐิมานานํ วเสน ขเนฺธ มญฺญโนฺตฯ พโทฺธ มารสฺสาติ มารพนฺธเนน พโทฺธฯ กรณเตฺถ วา เอตํ สามิวจนํ, กิเลสมาเรน พโทฺธติ อโตฺถฯ มุโตฺต ปาปิมโตติ มารสฺส พนฺธเนน มุโตฺตฯ กรณเตฺถเยว วา อิทํ สามิวจนํ, ปาปิมตา กิเลสพนฺธเนน มุโตฺตติ อโตฺถฯ
Maññamānoti taṇhādiṭṭhimānānaṃ vasena khandhe maññanto. Baddho mārassāti mārabandhanena baddho. Karaṇatthe vā etaṃ sāmivacanaṃ, kilesamārena baddhoti attho. Mutto pāpimatoti mārassa bandhanena mutto. Karaṇattheyeva vā idaṃ sāmivacanaṃ, pāpimatā kilesabandhanena muttoti attho.
อสฺมีติ ปเทน ตณฺหามญฺญิตํ วุตฺตํฯ อยมหสฺมีติ ทิฎฺฐิมญฺญิตํฯ ภวิสฺสนฺติ สสฺสตวเสน ทิฎฺฐิมญฺญิตเมวฯ น ภวิสฺสนฺติ อุเจฺฉทวเสนฯ รูปีติอาทีนิ สสฺสตเสฺสว ปเภททีปนานิฯ ตสฺมาติ ยสฺมา มญฺญิตํ อาพาธํ อโนฺตโทสนิกนฺตนวเสน โรโค เจว คโณฺฑ จ สลฺลญฺจ, ตสฺมาฯ อิญฺชิตนฺติอาทีนิ ยสฺมา อิเมหิ กิเลเสหิ สตฺตา อิญฺชนฺติ เจว ผนฺทนฺติ จ ปปญฺจิตา จ โหนฺติ ปมตฺตาการปตฺตา, ตสฺมา เตสํ อาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิฯ
Asmīti padena taṇhāmaññitaṃ vuttaṃ. Ayamahasmīti diṭṭhimaññitaṃ. Bhavissanti sassatavasena diṭṭhimaññitameva. Na bhavissanti ucchedavasena. Rūpītiādīni sassatasseva pabhedadīpanāni. Tasmāti yasmā maññitaṃ ābādhaṃ antodosanikantanavasena rogo ceva gaṇḍo ca sallañca, tasmā. Iñjitantiādīni yasmā imehi kilesehi sattā iñjanti ceva phandanti ca papañcitā ca honti pamattākārapattā, tasmā tesaṃ ākāradassanatthaṃ vuttāni.
มานคตวาเร ปน มานสฺส คตํ มานคตํ, มานปวตฺตีติ อโตฺถฯ มาโนเยว มานคตํ คูถคตํ มุตฺตคตํ วิยฯ ตตฺถ อสฺมีติ อิทํ ตณฺหาย สมฺปยุตฺตมานวเสน วุตฺตํฯ อยมหมสฺมีติ ทิฎฺฐิวเสนฯ นนุ จ ทิฎฺฐิสมฺปยุโตฺต นาม มาโน นตฺถีติ? อาม นตฺถิ, มานสฺส ปน อปฺปหีนตฺตา ทิฎฺฐิ นาม โหติฯ มานมูลกํ ทิฎฺฐิํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Mānagatavāre pana mānassa gataṃ mānagataṃ, mānapavattīti attho. Mānoyeva mānagataṃ gūthagataṃ muttagataṃ viya. Tattha asmīti idaṃ taṇhāya sampayuttamānavasena vuttaṃ. Ayamahamasmīti diṭṭhivasena. Nanu ca diṭṭhisampayutto nāma māno natthīti? Āma natthi, mānassa pana appahīnattā diṭṭhi nāma hoti. Mānamūlakaṃ diṭṭhiṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
อาสีวิสวโคฺคฯ
Āsīvisavaggo.
จตุโตฺถ ปณฺณาสโกฯ
Catuttho paṇṇāsako.
สฬายตนสํยุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saḷāyatanasaṃyuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๑. ยวกลาปิสุตฺตํ • 11. Yavakalāpisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๑. ยวกลาปิสุตฺตวณฺณนา • 11. Yavakalāpisuttavaṇṇanā