Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā |
เยวาปนกวณฺณนา
Yevāpanakavaṇṇanā
เย วา ปน ตสฺมิํ สมเย อเญฺญปิ อตฺถิ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา, อิเม ธมฺมา กุสลาติ ‘ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหตี’ติ น เกวลํ ปทปฎิปาฎิยา อุทฺทิฎฺฐา อิเม ปโรปณฺณาสธมฺมา เอว, อถ โข ยสฺมิํ สมเย กามาวจรํ ติเหตุกํ โสมนสฺสสหคตํ ปฐมํ อสงฺขาริกํ มหาจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, ตสฺมิํ สมเย เย วา ปน อเญฺญปิ เตหิเยว ผสฺสาทีหิ สมฺปยุตฺตา หุตฺวา ปวตฺตมานา อตฺถิ, อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปํ ปจฺจยํ ปฎิจฺจ สมุปฺปนฺนา รูปาภาเวน อรูปิโน, สภาวโต อุปลพฺภมานา ธมฺมา สเพฺพปิ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ
Ye vā pana tasmiṃ samaye aññepi atthi paṭiccasamuppannā arūpino dhammā, ime dhammā kusalāti ‘phasso hoti…pe… avikkhepo hotī’ti na kevalaṃ padapaṭipāṭiyā uddiṭṭhā ime paropaṇṇāsadhammā eva, atha kho yasmiṃ samaye kāmāvacaraṃ tihetukaṃ somanassasahagataṃ paṭhamaṃ asaṅkhārikaṃ mahācittaṃ uppannaṃ hoti, tasmiṃ samaye ye vā pana aññepi tehiyeva phassādīhi sampayuttā hutvā pavattamānā atthi, attano attano anurūpaṃ paccayaṃ paṭicca samuppannā rūpābhāvena arūpino, sabhāvato upalabbhamānā dhammā sabbepi ime dhammā kusalā.
เอตฺตาวตา จิตฺตงฺควเสน ปาฬิยํ อารุเฬฺห ปโรปณฺณาสธเมฺม ทีเปตฺวา เยวาปนกวเสน อปเรปิ นว ธเมฺม ธมฺมราชา ทีเปติฯ เตสุ เตสุ หิ สุตฺตปเทสุ ‘ฉโนฺท อธิโมโกฺข มนสิกาโร ตตฺรมชฺฌตฺตตา กรุณา มุทิตา กายทุจฺจริตวิรติ วจีทุจฺจริตวิรติ มิจฺฉาชีววิรตี’ติ อิเม นว ธมฺมา ปญฺญายนฺติฯ อิมสฺมิญฺจาปิ มหาจิเตฺต กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉโนฺท อตฺถิ, จิตฺตงฺควเสน ปน ปาฬิยํ น อารุโฬฺหฯ โส อิธ เยวาปนกวเสน คหิโตฯ
Ettāvatā cittaṅgavasena pāḷiyaṃ āruḷhe paropaṇṇāsadhamme dīpetvā yevāpanakavasena aparepi nava dhamme dhammarājā dīpeti. Tesu tesu hi suttapadesu ‘chando adhimokkho manasikāro tatramajjhattatā karuṇā muditā kāyaduccaritavirati vacīduccaritavirati micchājīvaviratī’ti ime nava dhammā paññāyanti. Imasmiñcāpi mahācitte kattukamyatākusaladhammacchando atthi, cittaṅgavasena pana pāḷiyaṃ na āruḷho. So idha yevāpanakavasena gahito.
อธิโมโกฺข อตฺถิ, มนสิกาโร อตฺถิ, ตตฺรมชฺฌตฺตตา อตฺถิฯ เมตฺตาปุพฺพภาโค อตฺถิ; โส อโทเส คหิเต คหิโต เอว โหติฯ กรุณาปุพฺพภาโค อตฺถิ, มุทิตาปุพฺพภาโค อตฺถิฯ อุเปกฺขาปุพฺพภาโค อตฺถิ; โส ปน ตตฺรมชฺฌตฺตตาย คหิตาย คหิโตว โหติฯ สมฺมาวาจา อตฺถิ, สมฺมากมฺมโนฺต อตฺถิฯ สมฺมาอาชีโว อตฺถิ; จิตฺตงฺควเสน ปน ปาฬิยํ น อารุโฬฺหฯ โสปิ อิธ เยวาปนกวเสน คหิโตฯ
Adhimokkho atthi, manasikāro atthi, tatramajjhattatā atthi. Mettāpubbabhāgo atthi; so adose gahite gahito eva hoti. Karuṇāpubbabhāgo atthi, muditāpubbabhāgo atthi. Upekkhāpubbabhāgo atthi; so pana tatramajjhattatāya gahitāya gahitova hoti. Sammāvācā atthi, sammākammanto atthi. Sammāājīvo atthi; cittaṅgavasena pana pāḷiyaṃ na āruḷho. Sopi idha yevāpanakavasena gahito.
อิเมสุ ปน นวสุ ฉโนฺท อธิโมโกฺข มนสิกาโร ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ อิเม จตฺตาโรว เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ, เสสา นานากฺขเณฯ ยทา หิ อิมินา จิเตฺตน มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมาวาจํ ปูเรติ, ตทา ฉนฺทาทโย จตฺตาโร, สมฺมาวาจา จาติ อิเม ปญฺจ เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติฯ ยทา มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมากมฺมนฺตํ ปูเรติ…เป.… มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ, วิรติวเสน สมฺมาอาชีวํ ปูเรติ…เป.… ยทา กรุณาย ปริกมฺมํ กโรติ…เป.… ยทา มุทิตาย ปริกมฺมํ กโรติ, ตทา ฉนฺทาทโย จตฺตาโร, มุทิตาปุพฺพภาโค จาติ อิเม ปญฺจ เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติฯ อิโต ปน มุญฺจิตฺวา, ทานํ เทนฺตสฺส สีลํ ปูเรนฺตสฺส โยเค กมฺมํ กโรนฺตสฺส จตฺตาริ อปณฺณกงฺคาเนว ลพฺภนฺติฯ
Imesu pana navasu chando adhimokkho manasikāro tatramajjhattatāti ime cattārova ekakkhaṇe labbhanti, sesā nānākkhaṇe. Yadā hi iminā cittena micchāvācaṃ pajahati, virativasena sammāvācaṃ pūreti, tadā chandādayo cattāro, sammāvācā cāti ime pañca ekakkhaṇe labbhanti. Yadā micchākammantaṃ pajahati, virativasena sammākammantaṃ pūreti…pe… micchāājīvaṃ pajahati, virativasena sammāājīvaṃ pūreti…pe… yadā karuṇāya parikammaṃ karoti…pe… yadā muditāya parikammaṃ karoti, tadā chandādayo cattāro, muditāpubbabhāgo cāti ime pañca ekakkhaṇe labbhanti. Ito pana muñcitvā, dānaṃ dentassa sīlaṃ pūrentassa yoge kammaṃ karontassa cattāri apaṇṇakaṅgāneva labbhanti.
เอวเมเตสุ นวสุ เยวาปนกธเมฺมสุ ‘ฉโนฺท’ติ กตฺตุกมฺยตาเยตํ อธิวจนํฯ ตสฺมา โส กตฺตุกมฺยตาลกฺขโณ ฉโนฺท, อารมฺมณปริเยสนรโส, อารมฺมเณน อตฺถิกตาปจฺจุปฎฺฐาโน ฯ ตเทวสฺส ปทฎฺฐานํ ฯ อารมฺมณสฺส คหเณ จายํ เจตโส หตฺถปฺปสารณํ วิย ทฎฺฐโพฺพฯ
Evametesu navasu yevāpanakadhammesu ‘chando’ti kattukamyatāyetaṃ adhivacanaṃ. Tasmā so kattukamyatālakkhaṇo chando, ārammaṇapariyesanaraso, ārammaṇena atthikatāpaccupaṭṭhāno . Tadevassa padaṭṭhānaṃ . Ārammaṇassa gahaṇe cāyaṃ cetaso hatthappasāraṇaṃ viya daṭṭhabbo.
อธิมุจฺจนํ ‘อธิโมโกฺข’ฯ โส สนฺนิฎฺฐานลกฺขโณ, อสํสปฺปนรโส, นิจฺฉยปจฺจุปฎฺฐาโน สนฺนิฎฺฐาตพฺพธมฺมปทฎฺฐาโนฯ อารมฺมเณ นิจฺจลภาเวน อินฺทขีโล วิย ทฎฺฐโพฺพฯ
Adhimuccanaṃ ‘adhimokkho’. So sanniṭṭhānalakkhaṇo, asaṃsappanaraso, nicchayapaccupaṭṭhāno sanniṭṭhātabbadhammapadaṭṭhāno. Ārammaṇe niccalabhāvena indakhīlo viya daṭṭhabbo.
กิริยา กาโร, มนสฺมิํ กาโร ‘มนสิกาโร’ฯ ปุริมมนโต วิสทิสํ มนํ กโรตีติปิ มนสิกาโรฯ สฺวายํ อารมฺมณปฎิปาทโก วีถิปฎิปาทโก ชวนปฎิปาทโกติ ติปฺปกาโรฯ ตตฺถ อารมฺมณปฎิปาทโก มนสฺมิํ กาโรติ มนสิกาโรฯ โส สารณลกฺขโณ, สมฺปยุตฺตานํ อารมฺมเณ สมฺปโยชนรโส, อารมฺมณาภิมุขภาวปจฺจุปฎฺฐาโน, สงฺขารกฺขนฺธปริยาปโนฺนฯ อารมฺมณปฎิปาทกเตฺตน สมฺปยุตฺตานํ สารถิ วิย ทฎฺฐโพฺพฯ วีถิปฎิปาทโกติ ปน ปญฺจทฺวาราวชฺชนเสฺสตํ อธิวจนํฯ ชวนปฎิปาทโกติ มโนทฺวาราวชฺชนสฺสฯ น เต อิธ อธิเปฺปตาฯ
Kiriyā kāro, manasmiṃ kāro ‘manasikāro’. Purimamanato visadisaṃ manaṃ karotītipi manasikāro. Svāyaṃ ārammaṇapaṭipādako vīthipaṭipādako javanapaṭipādakoti tippakāro. Tattha ārammaṇapaṭipādako manasmiṃ kāroti manasikāro. So sāraṇalakkhaṇo, sampayuttānaṃ ārammaṇe sampayojanaraso, ārammaṇābhimukhabhāvapaccupaṭṭhāno, saṅkhārakkhandhapariyāpanno. Ārammaṇapaṭipādakattena sampayuttānaṃ sārathi viya daṭṭhabbo. Vīthipaṭipādakoti pana pañcadvārāvajjanassetaṃ adhivacanaṃ. Javanapaṭipādakoti manodvārāvajjanassa. Na te idha adhippetā.
เตสุ ธเมฺมสุ มชฺฌตฺตตา ‘ตตฺรมชฺฌตฺตตา’ฯ สา จิตฺตเจตสิกานํ สมวาหิตลกฺขณา, อูนาธิกนิวารณรสา, ปกฺขปาตุปเจฺฉทนรสา วา; มชฺฌตฺตภาวปจฺจุปฎฺฐานาฯ จิตฺตเจตสิกานํ อชฺฌุเปกฺขนวเสน สมปฺปวตฺตานํ อาชาเนยฺยานํ อชฺฌุเปกฺขนสารถิ วิย ทฎฺฐพฺพาฯ
Tesu dhammesu majjhattatā ‘tatramajjhattatā’. Sā cittacetasikānaṃ samavāhitalakkhaṇā, ūnādhikanivāraṇarasā, pakkhapātupacchedanarasā vā; majjhattabhāvapaccupaṭṭhānā. Cittacetasikānaṃ ajjhupekkhanavasena samappavattānaṃ ājāneyyānaṃ ajjhupekkhanasārathi viya daṭṭhabbā.
‘กรุณามุทิตา’ พฺรหฺมวิหารนิเทฺทเส อาวิ ภวิสฺสนฺติฯ เกวลญฺหิ ตา อปฺปนปฺปตฺตา รูปาวจรา, อิธ กามาวจราติ อยเมว วิเสโสฯ
‘Karuṇāmuditā’ brahmavihāraniddese āvi bhavissanti. Kevalañhi tā appanappattā rūpāvacarā, idha kāmāvacarāti ayameva viseso.
กายทุจฺจริตโต วิรติ ‘กายทุจฺจริตวิรติ’ฯ เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ ลกฺขณาทิโต ปเนตา ติโสฺสปิ กายทุจฺจริตาทิวตฺถูนํ อวีติกฺกมลกฺขณา; อมทฺทนลกฺขณาติ วุตฺตํ โหติฯ กายทุจฺจริตาทิวตฺถุโต สโงฺกจนรสา, อกิริยปจฺจุปฎฺฐานา, สทฺธาหิโรตฺตปฺปอปฺปิจฺฉตาทิคุณปทฎฺฐานาฯ ปาปกิริยโต จิตฺตสฺส วิมุขีภาวภูตาติ ทฎฺฐพฺพาฯ
Kāyaduccaritato virati ‘kāyaduccaritavirati’. Sesapadadvayepi eseva nayo. Lakkhaṇādito panetā tissopi kāyaduccaritādivatthūnaṃ avītikkamalakkhaṇā; amaddanalakkhaṇāti vuttaṃ hoti. Kāyaduccaritādivatthuto saṅkocanarasā, akiriyapaccupaṭṭhānā, saddhāhirottappaappicchatādiguṇapadaṭṭhānā. Pāpakiriyato cittassa vimukhībhāvabhūtāti daṭṭhabbā.
อิติ ผสฺสาทีนิ ฉปฺปญฺญาส เยวาปนกวเสน วุตฺตานิ นวาติ สพฺพานิปิ อิมสฺมิํ ธมฺมุเทฺทสวาเร ปญฺจสฎฺฐิ ธมฺมปทานิ ภวนฺติฯ เตสุ เอกกฺขเณ กทาจิ เอกสฎฺฐิ ภวนฺติ, กทาจิ สมสฎฺฐิฯ ตานิ หิ สมฺมาวาจาปูรณาทิวเสนฯ อุปฺปตฺติยํ ปญฺจสุ ฐาเนสุ เอกสฎฺฐิ ภวนฺติฯ เตหิ มุเตฺต เอกสฺมิํ ฐาเน สมสฎฺฐิ ภวนฺติฯ ฐเปตฺวา ปน เยวาปนเก ปาฬิยํ ยถารุตวเสน คยฺหมานานิ ฉปฺปญฺญาสาว โหนฺติฯ อคฺคหิตคฺคหเณน ปเนตฺถ ผสฺสปญฺจกํ, วิตโกฺก วิจาโร ปีติ จิเตฺตกคฺคตา, ปญฺจินฺทฺริยานิ, หิริพลํ โอตฺตปฺปพลนฺติ เทฺว พลานิ, อโลโภ อโทโสติ เทฺว มูลานิ, กายปสฺสทฺธิจิตฺตปสฺสทฺธิอาทโย ทฺวาทส ธมฺมาติ สมติํส ธมฺมา โหนฺติฯ
Iti phassādīni chappaññāsa yevāpanakavasena vuttāni navāti sabbānipi imasmiṃ dhammuddesavāre pañcasaṭṭhi dhammapadāni bhavanti. Tesu ekakkhaṇe kadāci ekasaṭṭhi bhavanti, kadāci samasaṭṭhi. Tāni hi sammāvācāpūraṇādivasena. Uppattiyaṃ pañcasu ṭhānesu ekasaṭṭhi bhavanti. Tehi mutte ekasmiṃ ṭhāne samasaṭṭhi bhavanti. Ṭhapetvā pana yevāpanake pāḷiyaṃ yathārutavasena gayhamānāni chappaññāsāva honti. Aggahitaggahaṇena panettha phassapañcakaṃ, vitakko vicāro pīti cittekaggatā, pañcindriyāni, hiribalaṃ ottappabalanti dve balāni, alobho adosoti dve mūlāni, kāyapassaddhicittapassaddhiādayo dvādasa dhammāti samatiṃsa dhammā honti.
เตสุ สมติํสาย ธเมฺมสุ อฎฺฐารส ธมฺมา อวิภตฺติกา โหนฺติ, ทฺวาทส สวิภตฺติกาฯ กตเม อฎฺฐารส? ผโสฺส สญฺญา เจตนา วิจาโร ปีติ ชีวิตินฺทฺริยํ, กายปสฺสทฺธิอาทโย ทฺวาทส ธมฺมาติ อิเม อฎฺฐารส อวิภตฺติกาฯ เวทนา จิตฺตํ วิตโกฺก จิเตฺตกคฺคตา, สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ ปญฺญินฺทฺริยํ, หิริพลํ โอตฺตปฺปพลํ, อโลโภ อโทโสติ อิเม ทฺวาทส ธมฺมา สวิภตฺติกาฯ เตสุ สตฺต ธมฺมา ทฺวีสุ ฐาเนสุ วิภตฺตา, เอโก ตีสุ, เทฺว จตูสุ, เอโก ฉสุ, เอโก สตฺตสุ ฐาเนสุ วิภโตฺตฯ
Tesu samatiṃsāya dhammesu aṭṭhārasa dhammā avibhattikā honti, dvādasa savibhattikā. Katame aṭṭhārasa? Phasso saññā cetanā vicāro pīti jīvitindriyaṃ, kāyapassaddhiādayo dvādasa dhammāti ime aṭṭhārasa avibhattikā. Vedanā cittaṃ vitakko cittekaggatā, saddhindriyaṃ vīriyindriyaṃ satindriyaṃ paññindriyaṃ, hiribalaṃ ottappabalaṃ, alobho adosoti ime dvādasa dhammā savibhattikā. Tesu satta dhammā dvīsu ṭhānesu vibhattā, eko tīsu, dve catūsu, eko chasu, eko sattasu ṭhānesu vibhatto.
กถํ? จิตฺตํ วิตโกฺก สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ อโลโภ อโทโสติ อิเม สตฺต ทฺวีสุ ฐาเนสุ วิภตฺตาฯ
Kathaṃ? Cittaṃ vitakko saddhā hirī ottappaṃ alobho adosoti ime satta dvīsu ṭhānesu vibhattā.
เอเตสุ หิ จิตฺตํ ตาว ผสฺสปญฺจกํ ปตฺวา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา มนินฺทฺริยนฺติฯ วิตโกฺก ฌานงฺคานิ ปตฺวา วิตโกฺก โหตีติ วุโตฺต, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสงฺกโปฺปติฯ สทฺธา อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สทฺธินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, พลานิ ปตฺวา สทฺธาพลนฺติฯ หิรี พลานิ ปตฺวา หิริพลํ โหตีติ วุตฺตา, โลกปาลทุกํ ปตฺวา หิรีติฯ โอตฺตเปฺปปิ เอเสว นโยฯ อโลโภ มูลํ ปตฺวา อโลโภ โหตีติ วุโตฺต, กมฺมปถํ ปตฺวา อนภิชฺฌาติฯ อโทโส มูลํ ปตฺวา อโทโส โหตีติ วุโตฺต, กมฺมปถํ ปตฺวา อพฺยาปาโทติฯ อิเม สตฺต ทฺวีสุ ฐาเนสุ วิภตฺตาฯ
Etesu hi cittaṃ tāva phassapañcakaṃ patvā cittaṃ hotīti vuttaṃ, indriyāni patvā manindriyanti. Vitakko jhānaṅgāni patvā vitakko hotīti vutto, maggaṅgāni patvā sammāsaṅkappoti. Saddhā indriyāni patvā saddhindriyaṃ hotīti vuttā, balāni patvā saddhābalanti. Hirī balāni patvā hiribalaṃ hotīti vuttā, lokapāladukaṃ patvā hirīti. Ottappepi eseva nayo. Alobho mūlaṃ patvā alobho hotīti vutto, kammapathaṃ patvā anabhijjhāti. Adoso mūlaṃ patvā adoso hotīti vutto, kammapathaṃ patvā abyāpādoti. Ime satta dvīsu ṭhānesu vibhattā.
เวทนา ปน ผสฺสปญฺจกํ ปตฺวา เวทนา โหตีติ วุตฺตา, ฌานงฺคานิ ปตฺวา สุขนฺติ, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติฯ เอวํ เอโก ธโมฺม ตีสุ ฐาเนสุ วิภโตฺตฯ
Vedanā pana phassapañcakaṃ patvā vedanā hotīti vuttā, jhānaṅgāni patvā sukhanti, indriyāni patvā somanassindriyanti. Evaṃ eko dhammo tīsu ṭhānesu vibhatto.
วีริยํ ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา วีริยินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตํ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาวายาโมติ, พลานิ ปตฺวา วีริยพลนฺติ, ปิฎฺฐิทุกํ ปตฺวา ปคฺคาโหติฯ สติปิ อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สตินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสตีติ, พลานิ ปตฺวา สติพลนฺติ, ปิฎฺฐิทุกํ ปตฺวา สติ โหตีติ วุตฺตาฯ เอวํ อิเม เทฺว ธมฺมา จตูสุ ฐาเนสุ วิภตฺตาฯ
Vīriyaṃ pana indriyāni patvā vīriyindriyaṃ hotīti vuttaṃ, maggaṅgāni patvā sammāvāyāmoti, balāni patvā vīriyabalanti, piṭṭhidukaṃ patvā paggāhoti. Satipi indriyāni patvā satindriyaṃ hotīti vuttā, maggaṅgāni patvā sammāsatīti, balāni patvā satibalanti, piṭṭhidukaṃ patvā sati hotīti vuttā. Evaṃ ime dve dhammā catūsu ṭhānesu vibhattā.
สมาธิ ปน ฌานงฺคานิ ปตฺวา จิตฺตเสฺสกคฺคตา โหตีติ วุโตฺต, อินฺทฺริยานิ ปตฺวา สมาธินฺทฺริยนฺติ, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาสมาธีติฯ พลานิ ปตฺวา สมาธิพลนฺติ, ปิฎฺฐิทุกํ ปตฺวา สมโถ อวิเกฺขโปติฯ เอวมยํ เอโก ธโมฺม ฉสุ ฐาเนสุ วิภโตฺตฯ
Samādhi pana jhānaṅgāni patvā cittassekaggatā hotīti vutto, indriyāni patvā samādhindriyanti, maggaṅgāni patvā sammāsamādhīti. Balāni patvā samādhibalanti, piṭṭhidukaṃ patvā samatho avikkhepoti. Evamayaṃ eko dhammo chasu ṭhānesu vibhatto.
ปญฺญา ปน อินฺทฺริยานิ ปตฺวา ปญฺญินฺทฺริยํ โหตีติ วุตฺตา, มคฺคงฺคานิ ปตฺวา สมฺมาทิฎฺฐีติ, พลานิ ปตฺวา ปญฺญาพลนฺติ, มูลานิ ปตฺวา อโมโหติ, กมฺมปถํ ปตฺวา สมฺมาทิฎฺฐีติ, ปิฎฺฐิทุกํ ปตฺวา สมฺปชญฺญํ วิปสฺสนาติฯ เอวํ เอโก ธโมฺม สตฺตสุ ฐาเนสุ วิภโตฺตฯ
Paññā pana indriyāni patvā paññindriyaṃ hotīti vuttā, maggaṅgāni patvā sammādiṭṭhīti, balāni patvā paññābalanti, mūlāni patvā amohoti, kammapathaṃ patvā sammādiṭṭhīti, piṭṭhidukaṃ patvā sampajaññaṃ vipassanāti. Evaṃ eko dhammo sattasu ṭhānesu vibhatto.
สเจ ปน โกจิ วเทยฺย – ‘เอตฺถ อปุพฺพํ นาม นตฺถิ, เหฎฺฐา คหิตเมว คณฺหิตฺวา ตสฺมิํ ตสฺมิํ ฐาเน ปทํ ปูริตํ, อนนุสนฺธิกา กถา อุปฺปฎิปาฎิยา โจเรหิ อาภตภณฺฑสทิสา, โคยูเถน คตมเคฺค อาลุลิตติณสทิสา อชานิตฺวา กถิตา’ติ, โส ‘มาเหว’นฺติ ปฎิเสเธตฺวา วตฺตโพฺพ – ‘พุทฺธานํ เทสนา อนนุสนฺธิกา นาม นตฺถิ, สานุสนฺธิกา ว โหติฯ อชานิตฺวา กถิตาปิ นตฺถิ, สพฺพา ชานิตฺวา กถิตาเยวฯ สมฺมาสมฺพุโทฺธ หิ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ กิจฺจํ ชานาติ, ตํ ญตฺวา กิจฺจวเสน วิภตฺติํ อาโรเปโนฺต อฎฺฐารส ธมฺมา เอเกกกิจฺจาติ ญตฺวา เอเกกสฺมิํ ฐาเน วิภตฺติํ อาโรเปสิฯ สตฺต ธมฺมา เทฺวเทฺวกิจฺจาติ ญตฺวา ทฺวีสุ ทฺวีสุ ฐาเนสุ วิภตฺติํ อาโรเปสิฯ เวทนา ติกิจฺจาติ ญตฺวา ตีสุ ฐาเนสุ วิภตฺติํ อาโรเปสิฯ วีริยสตีนํ จตฺตาริ จตฺตาริ กิจฺจานีติ ญตฺวา จตูสุ จตูสุ ฐาเนสุ วิภตฺติํ อาโรเปสิฯ สมาธิ ฉกิโจฺจติ ญตฺวา ฉสุ ฐาเนสุ วิภตฺติํ อาโรเปสิฯ ปญฺญา สตฺตกิจฺจาติ ญตฺวา สตฺตสุ ฐาเนสุ วิภตฺติํ อาโรเปสิ’ฯ
Sace pana koci vadeyya – ‘ettha apubbaṃ nāma natthi, heṭṭhā gahitameva gaṇhitvā tasmiṃ tasmiṃ ṭhāne padaṃ pūritaṃ, ananusandhikā kathā uppaṭipāṭiyā corehi ābhatabhaṇḍasadisā, goyūthena gatamagge ālulitatiṇasadisā ajānitvā kathitā’ti, so ‘māheva’nti paṭisedhetvā vattabbo – ‘buddhānaṃ desanā ananusandhikā nāma natthi, sānusandhikā va hoti. Ajānitvā kathitāpi natthi, sabbā jānitvā kathitāyeva. Sammāsambuddho hi tesaṃ tesaṃ dhammānaṃ kiccaṃ jānāti, taṃ ñatvā kiccavasena vibhattiṃ āropento aṭṭhārasa dhammā ekekakiccāti ñatvā ekekasmiṃ ṭhāne vibhattiṃ āropesi. Satta dhammā dvedvekiccāti ñatvā dvīsu dvīsu ṭhānesu vibhattiṃ āropesi. Vedanā tikiccāti ñatvā tīsu ṭhānesu vibhattiṃ āropesi. Vīriyasatīnaṃ cattāri cattāri kiccānīti ñatvā catūsu catūsu ṭhānesu vibhattiṃ āropesi. Samādhi chakiccoti ñatvā chasu ṭhānesu vibhattiṃ āropesi. Paññā sattakiccāti ñatvā sattasu ṭhānesu vibhattiṃ āropesi’.
ตตฺริทํ โอปมฺมํ – เอโก กิร ปณฺฑิโต ราชา รโหคโต จิเนฺตสิ – ‘อิมํ ราชกุลสนฺตกํ น ยถา วา ตถา วา ขาทิตพฺพํ, สิปฺปานุจฺฉวิกํ เวตนํ วเฑฺฒสฺสามี’ติฯ โส สเพฺพ สิปฺปิเก สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘เอเกกสิปฺปชานนเก ปโกฺกสถา’ติ อาหฯ เอวํ ปโกฺกสิยมานา อฎฺฐารส ชนา อุฎฺฐหิํสุฯ เตสํ เอเกกํ ปฎิวีสํ ทาเปตฺวา วิสฺสเชฺชสิฯ ‘เทฺว เทฺว สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุเตฺต ปน สตฺต ชนา อาคมํสุฯ เตสํ เทฺว เทฺว ปฎิวีเส ทาเปสิฯ ‘ตีณิ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุเตฺต เอโกว อาคจฺฉิฯ ตสฺส ตโย ปฎิวีเส ทาเปสิฯ ‘จตฺตาริ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุเตฺต เทฺว ชนา อาคมํสุฯ เตสํ จตฺตาริ จตฺตาริ ปฎิวีเส ทาเปสิฯ ‘ปญฺจ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุเตฺต เอโกปิ นาคจฺฉิ ฯ ‘ฉ สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุเตฺต เอโกว อาคจฺฉิฯ ตสฺส ฉ ปฎิวีเส ทาเปสิฯ ‘สตฺต สิปฺปานิ ชานนฺตา อาคจฺฉนฺตู’ติ วุเตฺต เอโกว อาคจฺฉิฯ ตสฺส สตฺต ปฎิวีเส ทาเปสิฯ
Tatridaṃ opammaṃ – eko kira paṇḍito rājā rahogato cintesi – ‘imaṃ rājakulasantakaṃ na yathā vā tathā vā khāditabbaṃ, sippānucchavikaṃ vetanaṃ vaḍḍhessāmī’ti. So sabbe sippike sannipātāpetvā ‘ekekasippajānanake pakkosathā’ti āha. Evaṃ pakkosiyamānā aṭṭhārasa janā uṭṭhahiṃsu. Tesaṃ ekekaṃ paṭivīsaṃ dāpetvā vissajjesi. ‘Dve dve sippāni jānantā āgacchantū’ti vutte pana satta janā āgamaṃsu. Tesaṃ dve dve paṭivīse dāpesi. ‘Tīṇi sippāni jānantā āgacchantū’ti vutte ekova āgacchi. Tassa tayo paṭivīse dāpesi. ‘Cattāri sippāni jānantā āgacchantū’ti vutte dve janā āgamaṃsu. Tesaṃ cattāri cattāri paṭivīse dāpesi. ‘Pañca sippāni jānantā āgacchantū’ti vutte ekopi nāgacchi . ‘Cha sippāni jānantā āgacchantū’ti vutte ekova āgacchi. Tassa cha paṭivīse dāpesi. ‘Satta sippāni jānantā āgacchantū’ti vutte ekova āgacchi. Tassa satta paṭivīse dāpesi.
ตตฺถ ปณฺฑิโต ราชา วิย อนุตฺตโร ธมฺมราชาฯ สิปฺปชานนกา วิย จิตฺตจิตฺตงฺควเสน อุปฺปนฺนา ธมฺมาฯ สิปฺปานุจฺฉวิกเวตนวฑฺฒนํ วิย กิจฺจวเสน เตสํ เตสํ ธมฺมานํ วิภตฺติอาโรปนํฯ
Tattha paṇḍito rājā viya anuttaro dhammarājā. Sippajānanakā viya cittacittaṅgavasena uppannā dhammā. Sippānucchavikavetanavaḍḍhanaṃ viya kiccavasena tesaṃ tesaṃ dhammānaṃ vibhattiāropanaṃ.
สเพฺพปิ ปเนเต ธมฺมา ผสฺสปญฺจกวเสน ฌานงฺควเสน อินฺทฺริยวเสน มคฺควเสน พลวเสน มูลวเสน กมฺมปถวเสน โลกปาลวเสน ปสฺสทฺธิวเสน ลหุตาวเสน มุทุตาวเสน กมฺมญฺญตาวเสน ปาคุญฺญตาวเสน อุชุกตาวเสน สติสมฺปชญฺญวเสน สมถวิปสฺสนาวเสน ปคฺคาหาวิเกฺขปวเสนาติ สตฺตรส ราสโย โหนฺตีติฯ
Sabbepi panete dhammā phassapañcakavasena jhānaṅgavasena indriyavasena maggavasena balavasena mūlavasena kammapathavasena lokapālavasena passaddhivasena lahutāvasena mudutāvasena kammaññatāvasena pāguññatāvasena ujukatāvasena satisampajaññavasena samathavipassanāvasena paggāhāvikkhepavasenāti sattarasa rāsayo hontīti.
ธมฺมุเทฺทสวารกถา นิฎฺฐิตาฯ
Dhammuddesavārakathā niṭṭhitā.