Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. โยคสุตฺตํ
10. Yogasuttaṃ
๑๐. ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, โยคาฯ กตเม จตฺตาโร? กามโยโค, ภวโยโค, ทิฎฺฐิโยโค, อวิชฺชาโยโคฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, กามโยโค? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ กามานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ 1 อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส กามานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต 2 โย กาเมสุ กามราโค กามนนฺที 3 กามเสฺนโห กามมุจฺฉา กามปิปาสา กามปริฬาโห กามโชฺฌสานํ กามตณฺหา สานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยโคฯ อิติ กามโยโคฯ
10. ‘‘Cattārome , bhikkhave, yogā. Katame cattāro? Kāmayogo, bhavayogo, diṭṭhiyogo, avijjāyogo. Katamo ca, bhikkhave, kāmayogo? Idha, bhikkhave, ekacco kāmānaṃ samudayañca atthaṅgamañca 4 assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānāti. Tassa kāmānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ appajānato 5 yo kāmesu kāmarāgo kāmanandī 6 kāmasneho kāmamucchā kāmapipāsā kāmapariḷāho kāmajjhosānaṃ kāmataṇhā sānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, kāmayogo. Iti kāmayogo.
‘‘ภวโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ภวานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส ภวานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต โย ภเวสุ ภวราโค ภวนนฺที ภวเสฺนโห ภวมุจฺฉา ภวปิปาสา ภวปริฬาโห ภวโชฺฌสานํ ภวตณฺหา สานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภวโยโคฯ อิติ กามโยโค ภวโยโคฯ
‘‘Bhavayogo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco bhavānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānāti. Tassa bhavānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ appajānato yo bhavesu bhavarāgo bhavanandī bhavasneho bhavamucchā bhavapipāsā bhavapariḷāho bhavajjhosānaṃ bhavataṇhā sānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, bhavayogo. Iti kāmayogo bhavayogo.
‘‘ทิฎฺฐิโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ทิฎฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส ทิฎฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต โย ทิฎฺฐีสุ ทิฎฺฐิราโค ทิฎฺฐินนฺที ทิฎฺฐิเสฺนโห ทิฎฺฐิมุจฺฉา ทิฎฺฐิปิปาสา ทิฎฺฐิปริฬาโห ทิฎฺฐิโชฺฌสานํ 7 ทิฎฺฐิตณฺหา สานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฎฺฐิโยโคฯ อิติ กามโยโค ภวโยโค ทิฎฺฐิโยโคฯ
‘‘Diṭṭhiyogo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco diṭṭhīnaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānāti. Tassa diṭṭhīnaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ appajānato yo diṭṭhīsu diṭṭhirāgo diṭṭhinandī diṭṭhisneho diṭṭhimucchā diṭṭhipipāsā diṭṭhipariḷāho diṭṭhijjhosānaṃ 8 diṭṭhitaṇhā sānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, diṭṭhiyogo. Iti kāmayogo bhavayogo diṭṭhiyogo.
‘‘อวิชฺชาโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ อปฺปชานโต ยา ฉสุ ผสฺสายตเนสุ อวิชฺชา อญฺญาณํ สานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาโยโคฯ อิติ กามโยโค ภวโยโค ทิฎฺฐิโยโค อวิชฺชาโยโค, สํยุโตฺต ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สํกิเลสิเกหิ โปโนภวิเกหิ 9 สทเรหิ ทุกฺขวิปาเกหิ อายติํ ชาติชรามรณิเกหิฯ ตสฺมา อโยคเกฺขมีติ วุจฺจติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร โยคาฯ
‘‘Avijjāyogo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānāti. Tassa channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ appajānato yā chasu phassāyatanesu avijjā aññāṇaṃ sānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, avijjāyogo. Iti kāmayogo bhavayogo diṭṭhiyogo avijjāyogo, saṃyutto pāpakehi akusalehi dhammehi saṃkilesikehi ponobhavikehi 10 sadarehi dukkhavipākehi āyatiṃ jātijarāmaraṇikehi. Tasmā ayogakkhemīti vuccati. Ime kho, bhikkhave, cattāro yogā.
‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, วิสํโยคาฯ กตเม จตฺตาโร? กามโยควิสํโยโค, ภวโยควิสํโยโค, ทิฎฺฐิโยควิสํโยโค, อวิชฺชาโยควิสํโยโคฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, กามโยควิสํโยโค? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ กามานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส กามานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย กาเมสุ กามราโค กามนนฺที กามเสฺนโห กามมุจฺฉา กามปิปาสา กามปริฬาโห กามโชฺฌสานํ กามตณฺหา สา นานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กามโยควิสํโยโคฯ อิติ กามโยควิสํโยโคฯ
‘‘Cattārome , bhikkhave, visaṃyogā. Katame cattāro? Kāmayogavisaṃyogo, bhavayogavisaṃyogo, diṭṭhiyogavisaṃyogo, avijjāyogavisaṃyogo. Katamo ca, bhikkhave, kāmayogavisaṃyogo? Idha, bhikkhave, ekacco kāmānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa kāmānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānato yo kāmesu kāmarāgo kāmanandī kāmasneho kāmamucchā kāmapipāsā kāmapariḷāho kāmajjhosānaṃ kāmataṇhā sā nānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, kāmayogavisaṃyogo. Iti kāmayogavisaṃyogo.
‘‘ภวโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ภวานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส ภวานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย ภเวสุ ภวราโค ภวนนฺที ภวเสฺนโห ภวมุจฺฉา ภวปิปาสา ภวปริฬาโห ภวโชฺฌสานํ ภวตณฺหา สา นานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภวโยควิสํโยโคฯ อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโคฯ
‘‘Bhavayogavisaṃyogo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco bhavānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa bhavānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānato yo bhavesu bhavarāgo bhavanandī bhavasneho bhavamucchā bhavapipāsā bhavapariḷāho bhavajjhosānaṃ bhavataṇhā sā nānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, bhavayogavisaṃyogo. Iti kāmayogavisaṃyogo bhavayogavisaṃyogo.
‘‘ทิฎฺฐิโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ทิฎฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส ทิฎฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานโต โย ทิฎฺฐีสุ ทิฎฺฐิราโค ทิฎฺฐินนฺที ทิฎฺฐิเสฺนโห ทิฎฺฐิมุจฺฉา ทิฎฺฐิปิปาสา ทิฎฺฐิปริฬาโห ทิฎฺฐิโชฺฌสานํ ทิฎฺฐิตณฺหา สา นานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทิฎฺฐิโยควิสํโยโคฯ อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค ทิฎฺฐิโยควิสํโยโคฯ
‘‘Diṭṭhiyogavisaṃyogo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco diṭṭhīnaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa diṭṭhīnaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānato yo diṭṭhīsu diṭṭhirāgo diṭṭhinandī diṭṭhisneho diṭṭhimucchā diṭṭhipipāsā diṭṭhipariḷāho diṭṭhijjhosānaṃ diṭṭhitaṇhā sā nānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, diṭṭhiyogavisaṃyogo. Iti kāmayogavisaṃyogo bhavayogavisaṃyogo diṭṭhiyogavisaṃyogo.
‘‘อวิชฺชาโยควิสํโยโค จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานโต ยา ฉสุ ผสฺสายตเนสุ อวิชฺชา อญฺญาณํ สา นานุเสติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาโยควิสํโยโค ฯ อิติ กามโยควิสํโยโค ภวโยควิสํโยโค ทิฎฺฐิโยควิสํโยโค อวิชฺชาโยควิสํโยโค, วิสํยุโตฺต ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สํกิเลสิเกหิ โปโนภวิเกหิ สทเรหิ ทุกฺขวิปาเกหิ อายติํ ชาติชรามรณิเกหิฯ ตสฺมา โยคเกฺขมีติ วุจฺจติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร วิสํโยคา’’ติฯ
‘‘Avijjāyogavisaṃyogo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānato yā chasu phassāyatanesu avijjā aññāṇaṃ sā nānuseti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, avijjāyogavisaṃyogo . Iti kāmayogavisaṃyogo bhavayogavisaṃyogo diṭṭhiyogavisaṃyogo avijjāyogavisaṃyogo, visaṃyutto pāpakehi akusalehi dhammehi saṃkilesikehi ponobhavikehi sadarehi dukkhavipākehi āyatiṃ jātijarāmaraṇikehi. Tasmā yogakkhemīti vuccati. Ime kho, bhikkhave, cattāro visaṃyogā’’ti.
‘‘กามโยเคน สํยุตฺตา, ภวโยเคน จูภยํ;
‘‘Kāmayogena saṃyuttā, bhavayogena cūbhayaṃ;
ทิฎฺฐิโยเคน สํยุตฺตา, อวิชฺชาย ปุรกฺขตาฯ
Diṭṭhiyogena saṃyuttā, avijjāya purakkhatā.
‘‘สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโน;
‘‘Sattā gacchanti saṃsāraṃ, jātimaraṇagāmino;
เย จ กาเม ปริญฺญาย, ภวโยคญฺจ สพฺพโสฯ
Ye ca kāme pariññāya, bhavayogañca sabbaso.
‘‘ทิฎฺฐิโยคํ สมูหจฺจ, อวิชฺชญฺจ วิราชยํ;
‘‘Diṭṭhiyogaṃ samūhacca, avijjañca virājayaṃ;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, เต เว โยคาติคา มุนี’’ติฯ ทสมํ;
Sabbayogavisaṃyuttā, te ve yogātigā munī’’ti. dasamaṃ;
ภณฺฑคามวโคฺค ปฐโมฯ
Bhaṇḍagāmavaggo paṭhamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อนุพุทฺธํ ปปติตํ เทฺว, ขตา อนุโสตปญฺจมํ;
Anubuddhaṃ papatitaṃ dve, khatā anusotapañcamaṃ;
อปฺปสฺสุโต จ โสภนํ, เวสารชฺชํ ตณฺหาโยเคน เต ทสาติฯ
Appassuto ca sobhanaṃ, vesārajjaṃ taṇhāyogena te dasāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา • 10. Yogasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา • 10. Yogasuttavaṇṇanā