Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา
10. Yogasuttavaṇṇanā
๑๐. ทสเม โยเชนฺตีติ กมฺมํ วิปาเกน ภวาทิํ, ภวนฺตราทีหิ ทุเกฺขน สตฺตํ โยเชนฺติ ฆเฎนฺตีติ โยคาฯ กามนเฎฺฐน กาโม จ โส ยถาวุเตฺตนเตฺถน โยโค จาติ กามโยโคฯ ภวโยโค นาม ภวราโคติ ทเสฺสตุํ ‘‘รูปารูปภเวสู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ปฐโม อุปปตฺติภเวสุ ราโค, ทุติโย กมฺมภเวสุ, ตติโย ภวทิฎฺฐิสหคโต ยถา รชฺชนเฎฺฐน ราโค, เอวํ ยุชฺชนเฎฺฐน โยโคติ วุโตฺตฯ จตูสุ สเจฺจสุ อญฺญาณนฺติ อิทํ สุตฺตนฺตนยํ นิสฺสาย วุตฺตํฯ สุตฺตนฺตสํวณฺณนา เหสาติ, ตทโนฺตคธตฺตา วา ปุพฺพนฺตาทีนํฯ
10. Dasame yojentīti kammaṃ vipākena bhavādiṃ, bhavantarādīhi dukkhena sattaṃ yojenti ghaṭentīti yogā. Kāmanaṭṭhena kāmo ca so yathāvuttenatthena yogo cāti kāmayogo. Bhavayogo nāma bhavarāgoti dassetuṃ ‘‘rūpārūpabhavesū’’tiādi vuttaṃ. Tattha paṭhamo upapattibhavesu rāgo, dutiyo kammabhavesu, tatiyo bhavadiṭṭhisahagato yathā rajjanaṭṭhena rāgo, evaṃ yujjanaṭṭhena yogoti vutto. Catūsu saccesu aññāṇanti idaṃ suttantanayaṃ nissāya vuttaṃ. Suttantasaṃvaṇṇanā hesāti, tadantogadhattā vā pubbantādīnaṃ.
สมุทยนฺติ เทฺว สมุทยา ขณิกสมุทโย ปจฺจยสมุทโย จฯ อุปฺปาทกฺขโณ ขณิกสมุทโย, ปจฺจโยว ปจฺจยสมุทโยฯ สมุทยเต สมุทยนํ สมุทโย, สมุเทติ เอตสฺมาติ สมุทโยติ เอวํ อุภินฺนํ สมุทยานํ สทฺทตฺถโตปิ เภโท เวทิตโพฺพฯ ปจฺจยสมุทยํ ปชานโนฺตปิ ภิกฺขุ ขณิกสมุทยํ ปชานาติ, ขณิกสมุทยํ ปชานโนฺตปิ ปจฺจยสมุทยํ ปชานาติฯ ปจฺจยโต หิ สงฺขารานํ อุทยํ ปสฺสโต ขณโต จ เนสํ อุทยทสฺสนํ สุขํ โหติ, ขณโต จ เนสํ อุทยํ ปสฺสโต ปเคว ปจฺจยานํ สุคฺคหิตตฺตา ปจฺจยโต ทสฺสนํ สุเขน อิชฺฌติฯ อิธ ปน ขณิกสมุทยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สมุทยนฺติ อุปฺปตฺติ’’นฺติฯ
Samudayanti dve samudayā khaṇikasamudayo paccayasamudayo ca. Uppādakkhaṇo khaṇikasamudayo, paccayova paccayasamudayo. Samudayate samudayanaṃ samudayo, samudeti etasmāti samudayoti evaṃ ubhinnaṃ samudayānaṃ saddatthatopi bhedo veditabbo. Paccayasamudayaṃ pajānantopi bhikkhu khaṇikasamudayaṃ pajānāti, khaṇikasamudayaṃ pajānantopi paccayasamudayaṃ pajānāti. Paccayato hi saṅkhārānaṃ udayaṃ passato khaṇato ca nesaṃ udayadassanaṃ sukhaṃ hoti, khaṇato ca nesaṃ udayaṃ passato pageva paccayānaṃ suggahitattā paccayato dassanaṃ sukhena ijjhati. Idha pana khaṇikasamudayaṃ dassento āha ‘‘samudayanti uppatti’’nti.
อตฺถงฺคโมปิ ทุวิโธ อจฺจนฺตตฺถงฺคโม, เภทตฺถงฺคโมติฯ อจฺจนฺตตฺถงฺคโม อปฺปวตฺตินิโรโธ, นิพฺพานนฺติ เกจิฯ เภทตฺถงฺคโม ขณิกนิโรโธฯ ตทุภยํ ปุพฺพภาเค อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน ปสฺสโต อญฺญตรทสฺสเนน อิตรทสฺสนมฺปิ สิทฺธเมว โหติฯ ปุพฺพภาเคเยว อารมฺมณวเสน ขยโต วยโต สมฺมสนาทิกาเล เภทตฺถงฺคมํ ปสฺสโนฺต พฺยติเรกวเสน อนุสฺสวาทิโต อจฺจนฺตตฺถงฺคมํ ปสฺสติ, มคฺคกฺขเณ ปน อารมฺมณโต อจฺจนฺตตฺถงฺคมํ ปสฺสโนฺต อสโมฺมหโต อิตรมฺปิ ปสฺสติฯ อิธ ปน เภทตฺถงฺคมํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อตฺถงฺคมนฺติ เภท’’นฺติฯ กามานํ อุปฺปตฺติเภทคฺคหเณเนว เจตฺถ ยถา กามานํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนตา วิภาวิตา, เอวํ กามวตฺถุโนปีติ อุภเยสมฺปิ อนิจฺจตา ทุกฺขตา อนตฺตตา จ วิภาวิตาติ ทฎฺฐพฺพํฯ มธุรภาวนฺติ อิมินา กามสนฺนิสฺสิตํ สุขํ โสมนสฺสํ ทเสฺสติฯ ‘‘ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปญฺจ กามคุเณ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖) หิ วุตฺตํฯ อมธุรภาวนฺติ อิมินา ปน กามเหตุกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ทเสฺสติฯ
Atthaṅgamopi duvidho accantatthaṅgamo, bhedatthaṅgamoti. Accantatthaṅgamo appavattinirodho, nibbānanti keci. Bhedatthaṅgamo khaṇikanirodho. Tadubhayaṃ pubbabhāge uggahaparipucchādivasena passato aññataradassanena itaradassanampi siddhameva hoti. Pubbabhāgeyeva ārammaṇavasena khayato vayato sammasanādikāle bhedatthaṅgamaṃ passanto byatirekavasena anussavādito accantatthaṅgamaṃ passati, maggakkhaṇe pana ārammaṇato accantatthaṅgamaṃ passanto asammohato itarampi passati. Idha pana bhedatthaṅgamaṃ dassento āha ‘‘atthaṅgamanti bheda’’nti. Kāmānaṃ uppattibhedaggahaṇeneva cettha yathā kāmānaṃ paṭiccasamuppannatā vibhāvitā, evaṃ kāmavatthunopīti ubhayesampi aniccatā dukkhatā anattatā ca vibhāvitāti daṭṭhabbaṃ. Madhurabhāvanti iminā kāmasannissitaṃ sukhaṃ somanassaṃ dasseti. ‘‘Yaṃ kho, bhikkhave, ime pañca kāmaguṇe paṭicca uppajjati sukhaṃ somanassaṃ, ayaṃ kāmānaṃ assādo’’ti (ma. ni. 1.166) hi vuttaṃ. Amadhurabhāvanti iminā pana kāmahetukaṃ dukkhaṃ domanassaṃ dasseti.
ผสฺสายตนานนฺติ ฉทฺวาริกสฺส ผสฺสสฺส การณภูตานํ จกฺขาทิอายตนานํฯ เตนาห ‘‘จกฺขาทีนํ จกฺขุสมฺผสฺสาทิการณาน’’นฺติฯ ปุนพฺภวกรณํ ปุโนภโว อุตฺตรปทโลเปน, มโน-สทฺทสฺส วิย จ ปุริมปทสฺส โอการนฺตตา ทฎฺฐพฺพาฯ ปุโนภโว สีลเมเตสนฺติ โปโนภวิกาฯ อถ วา สีลเตฺถน อิกสเทฺทน คมิตตฺถตฺตา กิริยาวาจกสทฺทสฺส อทสฺสนํ ทฎฺฐพฺพํ ยถา อปูปภกฺขนสีโล อาปูปิโกฯ อถ วา ปุนพฺภวํ เทนฺติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตนฺติ, ปุนปฺปุนพฺภเว นิพฺพเตฺตนฺตีติ โปโนภวิกาฯ ‘‘ตทฺธิตา’’ติ หิ พหุวจนนิเทฺทสา วิจิตฺตตฺตา วา ตทฺธิตานํ อภิธานลกฺขณตฺตา วา ‘‘ปุนพฺภวํ เทนฺตี’’ติอาทีสุปิ อเตฺถสุ โปโนภวิกสทฺทสิทฺธิ ทฎฺฐพฺพาฯ
Phassāyatanānanti chadvārikassa phassassa kāraṇabhūtānaṃ cakkhādiāyatanānaṃ. Tenāha ‘‘cakkhādīnaṃ cakkhusamphassādikāraṇāna’’nti. Punabbhavakaraṇaṃ punobhavo uttarapadalopena, mano-saddassa viya ca purimapadassa okārantatā daṭṭhabbā. Punobhavo sīlametesanti ponobhavikā. Atha vā sīlatthena ikasaddena gamitatthattā kiriyāvācakasaddassa adassanaṃ daṭṭhabbaṃ yathā apūpabhakkhanasīlo āpūpiko. Atha vā punabbhavaṃ denti, punabbhavāya saṃvattanti, punappunabbhave nibbattentīti ponobhavikā. ‘‘Taddhitā’’ti hi bahuvacananiddesā vicittattā vā taddhitānaṃ abhidhānalakkhaṇattā vā ‘‘punabbhavaṃ dentī’’tiādīsupi atthesu ponobhavikasaddasiddhi daṭṭhabbā.
วิสํโยเชนฺติ ปฎิปนฺนํ ปุคฺคลํ กามโยคาทิโต วิโยเชนฺตีติ วิสํโยคา, อสุภชฺฌานาทีนิ วิสํโยชนการณานิฯ เตนาห ‘‘วิสํโยคาติ วิสํโยชนการณานี’’ติอาทิฯ
Visaṃyojenti paṭipannaṃ puggalaṃ kāmayogādito viyojentīti visaṃyogā, asubhajjhānādīni visaṃyojanakāraṇāni. Tenāha ‘‘visaṃyogāti visaṃyojanakāraṇānī’’tiādi.
โยคสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Yogasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
ภณฺฑคามวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhaṇḍagāmavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๐. โยคสุตฺตํ • 10. Yogasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. โยคสุตฺตวณฺณนา • 10. Yogasuttavaṇṇanā