Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā

    (๒) ยุคนทฺธวโคฺค

    (2) Yuganaddhavaggo

    ๑. ยุคนทฺธกถา

    1. Yuganaddhakathā

    ยุคนทฺธกถาวณฺณนา

    Yuganaddhakathāvaṇṇanā

    . อิทานิ มณฺฑเปยฺยคุณสฺส อริยมคฺคสฺส ยุคนทฺธคุณํ ทเสฺสเนฺตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ยุคนทฺธกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนาฯ ยสฺมา ปน ธมฺมเสนาปติ ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมราชสฺส ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร ปรินิพฺพุโต, ตสฺมา ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมภณฺฑาคาริเกน เทสิตํ อิทํ สุตฺตนฺตํ ตเสฺสว สมฺมุขา สุตฺวา เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาหาติ เวทิตพฺพํฯ ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ ครุวจนํ สคารวสปฺปติสฺสวจนํ, อายุมาติ อโตฺถฯ อานโนฺทติ ตสฺส เถรสฺส นามํฯ โส หิ ชายมาโนเยว กุเล อานนฺทํ ภุสํ ตุฎฺฐิํ อกาสิฯ ตสฺมาสฺส ‘‘อานโนฺท’’ติ นามํ กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเรฯ ตสฺส หิ นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ ฐาเนสุ โกสมฺพรุกฺขา อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา ตํ โกสมฺพีติ สงฺขํ อคมาสิฯ ‘‘กุสมฺพสฺส อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตา’’ติ เอเกฯ

    1. Idāni maṇḍapeyyaguṇassa ariyamaggassa yuganaddhaguṇaṃ dassentena kathitāya suttantapubbaṅgamāya yuganaddhakathāya apubbatthānuvaṇṇanā. Yasmā pana dhammasenāpati dhammarāje dharamāneyeva dhammarājassa parinibbānasaṃvacchare parinibbuto, tasmā dhammarāje dharamāneyeva dhammabhaṇḍāgārikena desitaṃ idaṃ suttantaṃ tasseva sammukhā sutvā evaṃ me sutantiādimāhāti veditabbaṃ. Tattha āyasmāti piyavacanaṃ garuvacanaṃ sagāravasappatissavacanaṃ, āyumāti attho. Ānandoti tassa therassa nāmaṃ. So hi jāyamānoyeva kule ānandaṃ bhusaṃ tuṭṭhiṃ akāsi. Tasmāssa ‘‘ānando’’ti nāmaṃ katanti veditabbaṃ. Kosambiyanti evaṃnāmake nagare. Tassa hi nagarassa ārāmapokkharaṇīādīsu tesu tesu ṭhānesu kosambarukkhā ussannā ahesuṃ, tasmā taṃ kosambīti saṅkhaṃ agamāsi. ‘‘Kusambassa isino assamato avidūre māpitattā’’ti eke.

    โฆสิตาราเมติ โฆสิตเสฎฺฐินา การิเต อาราเมฯ โกสมฺพิยญฺหิ ตโย เสฎฺฐิโน อเหสุํ โฆสิตเสฎฺฐิ กุกฺกุฎเสฎฺฐิ ปาวาริกเสฎฺฐีติฯ เต ตโยปิ ‘‘โลเก พุโทฺธ อุปฺปโนฺน’’ติ สุตฺวา ปญฺจหิ ปญฺจหิ สกฎสเตหิ ทานูปกรณานิ คาหาเปตฺวา สาวตฺถิํ คนฺตฺวา เชตวนสมีเป ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฎิสนฺถารํ กตฺวา นิสินฺนา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิตฺวา สตฺถารํ นิมเนฺตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฑฺฒมาสมตฺตํ มหาทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา สกชนปทคมนตฺถํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘สุญฺญาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ ภควตา วุเตฺต ‘‘ทินฺนา โน ภควตา ปฎิญฺญา’’ติ ญตฺวา อติวิย ตุฎฺฐา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺตา อนฺตรามเคฺค โยชเน โยชเน ภควโต นิวาสตฺถํ วิหารํ กาเรนฺตา อนุปุเพฺพน โกสมฺพิํ ปตฺวา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วิหาเร การาปยิํสุฯ ตตฺถ โฆสิตเสฎฺฐินา การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ, กุกฺกุฎเสฎฺฐินา การิโต กุกฺกุฎาราโม นาม, ปาวาริกเสฎฺฐินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวนํ นามฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โฆสิตเสฎฺฐินา การิเต อาราเม’’ติฯ

    Ghositārāmeti ghositaseṭṭhinā kārite ārāme. Kosambiyañhi tayo seṭṭhino ahesuṃ ghositaseṭṭhi kukkuṭaseṭṭhi pāvārikaseṭṭhīti. Te tayopi ‘‘loke buddho uppanno’’ti sutvā pañcahi pañcahi sakaṭasatehi dānūpakaraṇāni gāhāpetvā sāvatthiṃ gantvā jetavanasamīpe khandhāvāraṃ bandhitvā satthu santikaṃ gantvā vanditvā paṭisanthāraṃ katvā nisinnā satthu dhammadesanaṃ sutvā sotāpattiphale patiṭṭhahitvā satthāraṃ nimantetvā buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa aḍḍhamāsamattaṃ mahādānaṃ datvā bhagavato pādamūle nipajjitvā sakajanapadagamanatthaṃ bhagavantaṃ yācitvā ‘‘suññāgāre kho gahapatayo tathāgatā abhiramantī’’ti bhagavatā vutte ‘‘dinnā no bhagavatā paṭiññā’’ti ñatvā ativiya tuṭṭhā dasabalaṃ vanditvā nikkhantā antarāmagge yojane yojane bhagavato nivāsatthaṃ vihāraṃ kārentā anupubbena kosambiṃ patvā attano attano ārāme mahantaṃ dhanapariccāgaṃ katvā bhagavato vihāre kārāpayiṃsu. Tattha ghositaseṭṭhinā kārito ghositārāmo nāma ahosi, kukkuṭaseṭṭhinā kārito kukkuṭārāmo nāma, pāvārikaseṭṭhinā ambavane kārito pāvārikambavanaṃ nāma. Taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘ghositaseṭṭhinā kārite ārāme’’ti.

    อาวุโส ภิกฺขโวติ เอตฺถ พุทฺธา ภควโนฺต สาวเก อาลปนฺตา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อาลปนฺติฯ สาวกา ปน ‘‘พุเทฺธหิ สทิสา มา โหมา’’ติ ‘‘อาวุโส’’ติ ปฐมํ วตฺวา ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทนฺติฯ พุเทฺธหิ จ อาลปิเต ภิกฺขุสโงฺฆ ‘‘ภทเนฺต’’ติ ปฎิวจนํ เทติ, สาวเกหิ อาลปิเต ‘‘อาวุโส’’ติฯ

    Āvuso bhikkhavoti ettha buddhā bhagavanto sāvake ālapantā ‘‘bhikkhavo’’ti ālapanti. Sāvakā pana ‘‘buddhehi sadisā mā homā’’ti ‘‘āvuso’’ti paṭhamaṃ vatvā pacchā ‘‘bhikkhavo’’ti vadanti. Buddhehi ca ālapite bhikkhusaṅgho ‘‘bhadante’’ti paṭivacanaṃ deti, sāvakehi ālapite ‘‘āvuso’’ti.

    โย หิ โกจีติ อนิยมวจนํฯ เอเตน ตาทิสานํ สพฺพภิกฺขูนํ ปริยาทานํฯ มม สนฺติเกติ มม สมีเปฯ อรหตฺตปฺปตฺตนฺติ อตฺตนา อรหตฺตสฺส ปตฺตํฯ นปุํสเก ภาเว สิทฺธวจนํฯ อรหตฺตํ ปตฺตนฺติ วา ปทเจฺฉโท, อตฺตนา ปตฺตํ อรหตฺตนฺติ อโตฺถฯ อรหตฺตปฺปตฺตํ อตฺตานนฺติ วา ปาฐเสโสฯ จตูหิ มเคฺคหีติ อุปริ วุจฺจมาเนหิ จตูหิ ปฎิปทามเคฺคหิ, น อริยมเคฺคหิฯ ‘‘จตูหิ มเคฺคหี’’ติ วิสุญฺจ วุตฺตตฺตา กสฺสจิ อรหโต ปฐมสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคโม มโคฺค, เอกสฺส อริยมคฺคสฺส สมถปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส ยุคนทฺธปุพฺพงฺคโมติ เอวํ จตฺตาโรปิ ปฎิปทา มคฺคา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํฯ เอเตสํ วา อญฺญตเรนาติ เอเตสํ จตุนฺนํ ปฎิปทานํ มคฺคานํ เอเกน วา, ปฎิปทามเคฺคน อรหตฺตปฺปตฺตํ พฺยากโรตีติ อโตฺถฯ สุกฺขวิปสฺสกสฺส หิ อรหโต ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมํ โสตาปตฺติมคฺคํ ปตฺวา เสสมคฺคตฺตยมฺปิ สุทฺธวิปสฺสนาหิเยว ปตฺตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมมคฺคา โหติฯ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหํ ปตฺวา วา อปฺปตฺวา วา สมถปุพฺพงฺคมาทีนํ ติณฺณํ ปฎิปทานํ มคฺคานํ เอเกกสฺส วเสน ปตฺตจตุมคฺคสฺส อรหโต อรหตฺตปฺปตฺติ อิตรเอเกกมคฺคปุพฺพงฺคมา โหติฯ ตสฺมา อาห – ‘‘เอเตสํ วา อญฺญตเรนา’’ติฯ

    Yo hi kocīti aniyamavacanaṃ. Etena tādisānaṃ sabbabhikkhūnaṃ pariyādānaṃ. Mama santiketi mama samīpe. Arahattappattanti attanā arahattassa pattaṃ. Napuṃsake bhāve siddhavacanaṃ. Arahattaṃ pattanti vā padacchedo, attanā pattaṃ arahattanti attho. Arahattappattaṃ attānanti vā pāṭhaseso. Catūhi maggehīti upari vuccamānehi catūhi paṭipadāmaggehi, na ariyamaggehi. ‘‘Catūhi maggehī’’ti visuñca vuttattā kassaci arahato paṭhamassa ariyamaggassa dhammuddhaccapubbaṅgamo maggo, ekassa ariyamaggassa samathapubbaṅgamo, ekassa vipassanāpubbaṅgamo, ekassa yuganaddhapubbaṅgamoti evaṃ cattāropi paṭipadā maggā hontīti veditabbaṃ. Etesaṃ vā aññatarenāti etesaṃ catunnaṃ paṭipadānaṃ maggānaṃ ekena vā, paṭipadāmaggena arahattappattaṃ byākarotīti attho. Sukkhavipassakassa hi arahato dhammuddhaccapubbaṅgamaṃ sotāpattimaggaṃ patvā sesamaggattayampi suddhavipassanāhiyeva pattassa arahattappatti dhammuddhaccapubbaṅgamamaggā hoti. Dhammuddhaccaviggahaṃ patvā vā appatvā vā samathapubbaṅgamādīnaṃ tiṇṇaṃ paṭipadānaṃ maggānaṃ ekekassa vasena pattacatumaggassa arahato arahattappatti itaraekekamaggapubbaṅgamā hoti. Tasmā āha – ‘‘etesaṃ vā aññatarenā’’ti.

    สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตีติ สมถํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ภาเวติ, ปฐมํ สมาธิํ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา วิปสฺสนํ ภาเวตีติ อโตฺถฯ มโคฺค สญฺชายตีติ ปฐโม โลกุตฺตรมโคฺค นิพฺพตฺตติฯ โส ตํ มคฺคนฺติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส มคฺคสฺส อาเสวนาทีนิ นาม นตฺถิ, ทุติยมคฺคาทโย ปน อุปฺปาเทโนฺต ตเมว มคฺคํ ‘‘อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตี’’ติ วุจฺจติฯ สโญฺญชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ ยาว อรหตฺตมคฺคา กเมน สเพฺพ สโญฺญชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติฯ อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ จ ปุน อนุปฺปตฺติยา วิคตนฺตา โหนฺตีติ อโตฺถฯ

    Samathapubbaṅgamaṃ vipassanaṃ bhāvetīti samathaṃ pubbaṅgamaṃ purecārikaṃ katvā vipassanaṃ bhāveti, paṭhamaṃ samādhiṃ uppādetvā pacchā vipassanaṃ bhāvetīti attho. Maggo sañjāyatīti paṭhamo lokuttaramaggo nibbattati. So taṃ maggantiādīsu ekacittakkhaṇikassa maggassa āsevanādīni nāma natthi, dutiyamaggādayo pana uppādento tameva maggaṃ ‘‘āsevati bhāveti bahulīkarotī’’ti vuccati. Saññojanāni pahīyanti, anusayā byantīhontīti yāva arahattamaggā kamena sabbe saññojanā pahīyanti, anusayā byantīhonti. Anusayā byantīhontīti ca puna anuppattiyā vigatantā hontīti attho.

    ปุน จปรนฺติ ปุน จ อปรํ การณํฯ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวตีติ วิปสฺสนํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สมถํ ภาเวติ, ปฐมํ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สมาธิํ ภาเวตีติ อโตฺถฯ ยุคนทฺธํ ภาเวตีติ ยุคนทฺธํ กตฺวา ภาเวติฯ เอตฺถ เตเนว จิเตฺตน สมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา เตเนว สงฺขาเร สมฺมสิตุํ น สกฺกาฯ อยํ ปน ยาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ, ตาวตา สงฺขาเร สมฺมสติฯ ยาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ, ตาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติฯ กถํ? ปฐมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฎฺฐาย สงฺขาเร สมฺมสติฯ สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ทุติยชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฎฺฐาย สงฺขาเร สมฺมสติฯ สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ตติยชฺฌานํ…เป.… เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปตฺติํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฎฺฐาย สงฺขาเร สมฺมสติฯ เอวํ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ นามฯ

    Puna caparanti puna ca aparaṃ kāraṇaṃ. Vipassanāpubbaṅgamaṃ samathaṃ bhāvetīti vipassanaṃ pubbaṅgamaṃ purecārikaṃ katvā samathaṃ bhāveti, paṭhamaṃ vipassanaṃ uppādetvā pacchā samādhiṃ bhāvetīti attho. Yuganaddhaṃ bhāvetīti yuganaddhaṃ katvā bhāveti. Ettha teneva cittena samāpattiṃ samāpajjitvā teneva saṅkhāre sammasituṃ na sakkā. Ayaṃ pana yāvatā samāpattiyo samāpajjati, tāvatā saṅkhāre sammasati. Yāvatā saṅkhāre sammasati, tāvatā samāpattiyo samāpajjati. Kathaṃ? Paṭhamajjhānaṃ samāpajjati, tato vuṭṭhāya saṅkhāre sammasati. Saṅkhāre sammasitvā dutiyajjhānaṃ samāpajjati, tato vuṭṭhāya saṅkhāre sammasati. Saṅkhāre sammasitvā tatiyajjhānaṃ…pe… nevasaññānāsaññāyatanasamāpattiṃ samāpajjati, tato vuṭṭhāya saṅkhāre sammasati. Evaṃ samathavipassanaṃ yuganaddhaṃ bhāveti nāma.

    ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหตีติ เอตฺถ มนฺทปญฺญานํ วิปสฺสกานํ อุปกฺกิเลสวตฺถุตฺตา วิปสฺสนุปกฺกิเลสสญฺญิเตสุ โอภาสาทีสุ ทสสุ ธเมฺมสุ ภนฺตตาวเสน อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปตฺติยา วิเกฺขปสงฺขาตํ อุทฺธจฺจํ ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน ธมฺมุทฺธเจฺจน วิคฺคหิตํ วิรูปคฺคหิตํ วิโรธมาปาทิตํ มานสํ จิตฺตํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหติ, เตน วา ธมฺมุทฺธเจฺจน การณภูเตน ตมฺมูลกตณฺหามานทิฎฺฐุปฺปตฺติยา วิคฺคหิตํ มานสํ โหติฯ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสนฺติ วา ปาโฐฯ โหติ โส อาวุโส สมโยติ อิมินา มคฺคามคฺคววตฺถาเนน ตํ ธมฺมุทฺธจฺจํ ปฎิพาหิตฺวา ปุน วิปสฺสนาวีถิํ ปฎิปนฺนกาลํ ทเสฺสติฯ ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยสฺมิํ สมเย ตํ วิปสฺสนาวีถิํ โอกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ จิตฺตํฯ อชฺฌตฺตเมว สนฺติฎฺฐตีติ วิปสฺสนาวีถิํ ปโจฺจตริตฺวา ตสฺมิํ สมเย โคจรชฺฌตฺตสงฺขาเต อารมฺมเณ สนฺติฎฺฐติ ปติฎฺฐาติฯ สนฺนิสีทตีติ ตเตฺถว ปวตฺติวเสน สมฺมา นิสีทติฯ เอโกทิ โหตีติ เอกคฺคํ โหติฯ สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ สุฎฺฐุ ฐิตํ โหตีติฯ

    Dhammuddhaccaviggahitaṃ mānasaṃ hotīti ettha mandapaññānaṃ vipassakānaṃ upakkilesavatthuttā vipassanupakkilesasaññitesu obhāsādīsu dasasu dhammesu bhantatāvasena uddhaccasahagatacittuppattiyā vikkhepasaṅkhātaṃ uddhaccaṃ dhammuddhaccaṃ, tena dhammuddhaccena viggahitaṃ virūpaggahitaṃ virodhamāpāditaṃ mānasaṃ cittaṃ dhammuddhaccaviggahitaṃ mānasaṃ hoti, tena vā dhammuddhaccena kāraṇabhūtena tammūlakataṇhāmānadiṭṭhuppattiyā viggahitaṃ mānasaṃ hoti. Dhammuddhaccaviggahitamānasanti vā pāṭho. Hoti so āvuso samayoti iminā maggāmaggavavatthānena taṃ dhammuddhaccaṃ paṭibāhitvā puna vipassanāvīthiṃ paṭipannakālaṃ dasseti. Yaṃ taṃ cittanti yasmiṃ samaye taṃ vipassanāvīthiṃ okkamitvā pavattaṃ cittaṃ. Ajjhattameva santiṭṭhatīti vipassanāvīthiṃ paccotaritvā tasmiṃ samaye gocarajjhattasaṅkhāte ārammaṇe santiṭṭhati patiṭṭhāti. Sannisīdatīti tattheva pavattivasena sammā nisīdati. Ekodi hotīti ekaggaṃ hoti. Samādhiyatīti sammā ādhiyati suṭṭhu ṭhitaṃ hotīti.

    อยํ สุตฺตนฺตวณฺณนาฯ

    Ayaṃ suttantavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๑. ยุคนทฺธกถา • 1. Yuganaddhakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact