Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā |
๓. ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา
3. Yuttihāravibhaṅgavaṇṇanā
๑๘. เอวเมตสฺส สุตฺตสฺส อโตฺถ น คเหตโพฺพ, เอวํ ปน คเหตโพฺพติ อคฺคเหตพฺพคเหตพฺพานํ อตฺถานํ วิชหนคฺคหณตฺถาย ยุตฺตายุตฺติวิจารณายํ วเชฺชตเพฺพสุ ตาว ปฐมํ ปฎิปตฺตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อตถากาเรน คยฺหมานา สุตฺตตฺถา วิสโย’’ติ ยถา ‘‘วามํ มุญฺจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ (ธ. ส. อฎฺฐ. ๔๙๘; วิสุทฺธิ. มหาฎี. ๑.๑๔; สํ. นิ. ฎี. ๑.๑.๒๑๓)ฯ วเชฺชตพฺพภาวโต หิ สุตฺตปเทหิ สุตฺตเตฺถ วิเวจิเต คเหตพฺพภาโว จ อวสิโฎฺฐ โหติฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เมตฺตาวิหารสฺส สโต พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย ฐสฺสตี’ติ น ยุชฺชติ เทสนา, ‘พฺยาปาโท ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตี’ติ ยุชฺชติ เทสนา’’ติ (เนตฺติ. ๒๑)ฯ
18. Evametassa suttassa attho na gahetabbo, evaṃ pana gahetabboti aggahetabbagahetabbānaṃ atthānaṃ vijahanaggahaṇatthāya yuttāyuttivicāraṇāyaṃ vajjetabbesu tāva paṭhamaṃ paṭipattīti dassento āha ‘‘atathākārena gayhamānā suttatthā visayo’’ti yathā ‘‘vāmaṃ muñca, dakkhiṇaṃ gaṇhā’’ti (dha. sa. aṭṭha. 498; visuddhi. mahāṭī. 1.14; saṃ. ni. ṭī. 1.1.213). Vajjetabbabhāvato hi suttapadehi suttatthe vivecite gahetabbabhāvo ca avasiṭṭho hoti. Tathā hi vakkhati ‘‘mettāvihārassa sato byāpādo cittaṃ pariyādāya ṭhassatī’ti na yujjati desanā, ‘byāpādo pahānaṃ abbhatthaṃ gacchatī’ti yujjati desanā’’ti (netti. 21).
ยุตฺตินิทฺธารเณน อยถาสภาวโต วิเวจิตฺวา ยถาสภาวโต ธมฺมสฺส คหณการณานิ กเถโนฺต ‘‘มหนฺตา อปทิสิตพฺพา เอเตสนฺติ มหาปเทสา’’ติ อิมมตฺถมาห ‘‘พุทฺธาทโย’’ติอาทินาฯ ปติฎฺฐานานีติ ปติฎฺฐานสาธนานิฯ เสเสสูติ สงฺฆาปเทสาทีสุฯ ปฐมโตฺถ เอว หิ อิธ ปาฬิ อาคโต, วินิจฺฉยเน การณํ มหาปเทโสติ อธิปฺปาโยฯ สุโตฺตตรณาทีติ อาทิสเทฺทน สุตฺตาโนตรณาทิปิ สงฺคยฺหติฯ สุโตฺตตรณวินยสนฺทสฺสนานิ หิ เกนจิ ยถาภตสฺส คนฺถสฺส ‘‘ธโมฺม’’ติ วินิจฺฉยเน การณํฯ สุตฺตาโนตรณวินยาสนฺทสฺสนานิ ‘‘อธโมฺม’’ติฯ ยทิ เอวนฺติ ยทิ ยถาภตสฺส คนฺถสฺส สุตฺตวินเยหิ สํสนฺทนํ ‘‘ธโมฺม’’ติ, อสํสนฺทนํ ‘‘อธโมฺม’’ติ วินิจฺฉยการณํ, เอวํ สเนฺตติ อโตฺถฯ สมฺปทียติ ญาปียติ ธโมฺม เอเตหีติ สมฺปทายา, อกฺขาตาโรฯ
Yuttiniddhāraṇena ayathāsabhāvato vivecitvā yathāsabhāvato dhammassa gahaṇakāraṇāni kathento ‘‘mahantā apadisitabbā etesanti mahāpadesā’’ti imamatthamāha ‘‘buddhādayo’’tiādinā. Patiṭṭhānānīti patiṭṭhānasādhanāni. Sesesūti saṅghāpadesādīsu. Paṭhamattho eva hi idha pāḷi āgato, vinicchayane kāraṇaṃ mahāpadesoti adhippāyo. Suttotaraṇādīti ādisaddena suttānotaraṇādipi saṅgayhati. Suttotaraṇavinayasandassanāni hi kenaci yathābhatassa ganthassa ‘‘dhammo’’ti vinicchayane kāraṇaṃ. Suttānotaraṇavinayāsandassanāni ‘‘adhammo’’ti. Yadi evanti yadi yathābhatassa ganthassa suttavinayehi saṃsandanaṃ ‘‘dhammo’’ti, asaṃsandanaṃ ‘‘adhammo’’ti vinicchayakāraṇaṃ, evaṃ santeti attho. Sampadīyati ñāpīyati dhammo etehīti sampadāyā, akkhātāro.
วินียนฺติ ราคาทโย เอเตนาติ วินโย, การณํฯ เตนาห ‘‘ราคาทิวูปสมนิมิตฺต’’นฺติฯ กิํ ปน ตํ? สาธิฎฺฐานสมถวิปสฺสนาทิธมฺมาฯ เย ปรโต ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธงฺคมา ธมฺมา’’ติ (เนตฺติ. ๒๔) วกฺขติฯ
Vinīyanti rāgādayo etenāti vinayo, kāraṇaṃ. Tenāha ‘‘rāgādivūpasamanimitta’’nti. Kiṃ pana taṃ? Sādhiṭṭhānasamathavipassanādidhammā. Ye parato ‘‘tecattālīsaṃ bodhaṅgamā dhammā’’ti (netti. 24) vakkhati.
วินยมหาปเทสา กปฺปิยานุโลมโต อนุโลมกปฺปิยํ นาม, ตํสทิสตาย สุตฺตนฺตมหาปเทสาปิ อนุโลมกปฺปิยนฺติ อฎฺฐกถาโวหาโรฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ อนุโลมกปฺปิยนฺติ วุจฺจตี’’ติฯ
Vinayamahāpadesā kappiyānulomato anulomakappiyaṃ nāma, taṃsadisatāya suttantamahāpadesāpi anulomakappiyanti aṭṭhakathāvohāro. Tena vuttaṃ ‘‘yaṃ anulomakappiyanti vuccatī’’ti.
ยทิปิ ตตฺถ ตตฺถ ปวตฺตา ภควโต ปกิณฺณกเทสนา อฎฺฐกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ เตปิฎกํ พุทฺธวจนํ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถสํวณฺณนานุรูเปน วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา อาจริยวาโท นามฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อาจริยวาโท นาม อฎฺฐกถา’’ติฯ ติโสฺสปิ สงฺคีติโย อารุโฬฺห เอว หิ พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามโคฺค ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ฐปิโตฯ อตฺตโนมติ เถรวาโทฯ สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ยถา ปาฬิยา สํสนฺทติ , เอวํ มหาปเทสโต อตฺถา อุทฺธริตพฺพาติ ทเสฺสติฯ ปมาทปาฐวเสน อาจริยวาทสฺส กทาจิ ปาฬิยา อสํสนฺทนาปิ สิยา, โส น คเหตโพฺพติ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘สุเตฺตน สเมโนฺต เอว คเหตโพฺพ’’ติฯ
Yadipi tattha tattha pavattā bhagavato pakiṇṇakadesanā aṭṭhakathā, sā pana dhammasaṅgāhakehi tepiṭakaṃ buddhavacanaṃ saṅgāyitvā tassa atthasaṃvaṇṇanānurūpena vācanāmaggaṃ āropitattā ācariyavādo nāma. Tena vuttaṃ ‘‘ācariyavādo nāma aṭṭhakathā’’ti. Tissopi saṅgītiyo āruḷho eva hi buddhavacanassa atthasaṃvaṇṇanābhūto kathāmaggo pacchā tambapaṇṇiyehi mahātherehi sīhaḷabhāsāya ṭhapito. Attanomati theravādo. Samentameva gahetabbanti yathā pāḷiyā saṃsandati , evaṃ mahāpadesato atthā uddharitabbāti dasseti. Pamādapāṭhavasena ācariyavādassa kadāci pāḷiyā asaṃsandanāpi siyā, so na gahetabboti dassento āha – ‘‘suttena samento eva gahetabbo’’ti.
จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชตีติ จตูหิ มหาปเทเสหิ น วิรุชฺฌติฯ อิทานิ ตํ อวิรุชฺฌนาการํ ทเสฺสโนฺต ‘‘เยน เยนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สุโตฺตตรณาทิ เอว เหตฺถ การณํฯ ตสฺส จ อเนกาการตาย ‘‘ปกาเรนา’’ติ วุโตฺตฯ สํวณฺณิยมาเน สุเตฺต สํวณฺณนาวเสน คเหตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อาภเตนาติ อานีเตนฯ สุตฺตโตติ สุตฺตนฺตรโตฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – เกนจิ ปสเงฺคน สุตฺตนฺตรโต อุทฺธริตฺวา อานีเตน สุตฺตปเทน สุโตฺตตรณาทินา, การณปฺปกาเรน จ จตุมหาปเทสาวิโรเธน สํวณฺณิยมาเน สุเตฺต สํวณฺณนาวเสน อตฺถชาตํ คเหตพฺพนฺติฯ เตนาห ‘‘เตน…เป.… กาตพฺพา’’ติฯ ตตฺถ ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ ยุตฺตินิทฺธารณวเสน อยํ ยุตฺติหาโร โยเชตโพฺพฯ อถ วา ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ อิมินา หาเรน วกฺขมานนเยน ยุตฺติคเวสนํ กตฺวา ตาย ยุตฺติยา สพฺพหารโยชนา กาตพฺพาติ อโตฺถฯ ลกฺขณเญฺหตํ ยุตฺติคเวสนาย, ยทิทํ ยุตฺติหาโรฯ เตนาห ‘‘สเพฺพสํ หารานํ, ยา ภูมี, โย จ โคจโร เตสํฯ ‘‘ยุตฺตายุตฺตปริกฺขา’’ติ (เนตฺติ. ๔), ‘‘อิมาย ยุตฺติยา อญฺญมเญฺญหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ (เนตฺติ. ๒๐) จฯ
Catūhi mahāpadesehi yujjatīti catūhi mahāpadesehi na virujjhati. Idāni taṃ avirujjhanākāraṃ dassento ‘‘yena yenā’’tiādi vuttaṃ. Suttotaraṇādi eva hettha kāraṇaṃ. Tassa ca anekākāratāya ‘‘pakārenā’’ti vutto. Saṃvaṇṇiyamāne sutte saṃvaṇṇanāvasena gahetabbanti sambandho. Ābhatenāti ānītena. Suttatoti suttantarato. Ayañhettha attho – kenaci pasaṅgena suttantarato uddharitvā ānītena suttapadena suttotaraṇādinā, kāraṇappakārena ca catumahāpadesāvirodhena saṃvaṇṇiyamāne sutte saṃvaṇṇanāvasena atthajātaṃ gahetabbanti. Tenāha ‘‘tena…pe… kātabbā’’ti. Tattha yuttihārayojanā kātabbāti yuttiniddhāraṇavasena ayaṃ yuttihāro yojetabbo. Atha vā yuttihārayojanā kātabbāti iminā hārena vakkhamānanayena yuttigavesanaṃ katvā tāya yuttiyā sabbahārayojanā kātabbāti attho. Lakkhaṇañhetaṃ yuttigavesanāya, yadidaṃ yuttihāro. Tenāha ‘‘sabbesaṃ hārānaṃ, yā bhūmī, yo ca gocaro tesaṃ. ‘‘Yuttāyuttaparikkhā’’ti (netti. 4), ‘‘imāya yuttiyā aññamaññehi kāraṇehi gavesitabba’’nti (netti. 20) ca.
๑๙. ยทิ วา สพฺพานิ ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺตีติ โยชนาฯ
19. Yadi vā sabbāni padāni ekaṃ atthaṃ abhivadantīti yojanā.
๒๐. ชรายํ ฐิตสฺส อญฺญถตฺตนฺติ ฐิตสฺส ยํ อญฺญถตฺตํ อญฺญถาภาโว, อยํ ชรา นามฯ ขณิกมรณํ ขณิกนิโรโธฯ สมุเจฺฉทมรณํ ขีณาสวานํ ขนฺธปรินิพฺพานํฯ
20.Jarāyaṃ ṭhitassa aññathattanti ṭhitassa yaṃ aññathattaṃ aññathābhāvo, ayaṃ jarā nāma. Khaṇikamaraṇaṃ khaṇikanirodho. Samucchedamaraṇaṃ khīṇāsavānaṃ khandhaparinibbānaṃ.
เกวลสฺสาติ ชราย อมิสฺสสฺสฯ อญฺญาว ชรา, อญฺญํ มรณนฺติ ‘‘ปฎิญฺญาตสฺส เกวลสฺส มรณสฺส ทิฎฺฐตฺตา’’ติ เหตุฯ ยถา ตํ เทวานนฺติ สทิสูทาหรณํ, วิสทิสูทาหรณํ ปน อิทฺธิปาทาทโย, อนฺวยพฺยติเรกา คเหตฺวา โยเชตพฺพาฯ
Kevalassāti jarāya amissassa. Aññāva jarā, aññaṃ maraṇanti ‘‘paṭiññātassa kevalassa maraṇassa diṭṭhattā’’ti hetu. Yathā taṃ devānanti sadisūdāharaṇaṃ, visadisūdāharaṇaṃ pana iddhipādādayo, anvayabyatirekā gahetvā yojetabbā.
เตหีติ ชรามรเณหิฯ
Tehīti jarāmaraṇehi.
‘‘ชีรณภิชฺชนสภาวา’’ติ อิมินา เลเสน ตณฺหาชรามรณานํ อนญฺญตฺตํ โยเชติฯ ยทิปิ ‘‘อญฺญา ตณฺหา, อญฺญา ชรา, อญฺญํ มรณ’’นฺติ สิโทฺธวายมโตฺถ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘น อิท’’นฺติอาทิ, ตถาปิ สกฺกุเณยฺยปริหารายํ โจทนาติ อชฺฌารุฬฺหํ ตตฺถ โทสํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยทิ จ ยถา ชรามรณ’’นฺติ ปาฬิปวตฺตานิ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยทิ…เป.… ทเสฺสตี’’ติ อาหฯ ภาโวติ อธิปฺปาโยฯ เอเตสนฺติ ตณฺหาชรามรณานํฯ
‘‘Jīraṇabhijjanasabhāvā’’ti iminā lesena taṇhājarāmaraṇānaṃ anaññattaṃ yojeti. Yadipi ‘‘aññā taṇhā, aññā jarā, aññaṃ maraṇa’’nti siddhovāyamattho, yaṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘na ida’’ntiādi, tathāpi sakkuṇeyyaparihārāyaṃ codanāti ajjhāruḷhaṃ tattha dosaṃ dassetuṃ ‘‘yadi ca yathā jarāmaraṇa’’nti pāḷipavattāni dassento ‘‘yadi…pe… dassetī’’ti āha. Bhāvoti adhippāyo. Etesanti taṇhājarāmaraṇānaṃ.
‘‘อิมาย ยุตฺติยา อญฺญมเญฺญหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ จ เกจิ ปฐนฺติ, พฺยญฺชนโตปิ คเวสิตพฺพํ, อญฺญตฺถ อตฺถโต อญฺญตฺถมฺปีติ อธิปฺปาโยฯ ตเมว พฺยญฺชนโต อญฺญตฺถํ ทเสฺสตุํ ปาฬิยํ ‘‘สโลฺลติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิเมสนฺติ สลฺลธูปายนานํฯ อิจฺฉาวิปริยาเยติ อิจฺฉิตาลาเภ, อปฺปจฺจยสมวาเย วาฯ อิทมฺปิ สมตฺถนํ โหติ ยถาธิเปฺปตสฺส อญฺญตฺถสฺส พฺยติเรกทสฺสนภาวโตฯ ชรามรณวิปริยาเยติ ชรามรเณ อสติฯ น หิ ยถาธิเปฺปตชรามรณาภาเว ตณฺหา น โหตีติฯ
‘‘Imāya yuttiyā aññamaññehi kāraṇehi gavesitabba’’nti ca keci paṭhanti, byañjanatopi gavesitabbaṃ, aññattha atthato aññatthampīti adhippāyo. Tameva byañjanato aññatthaṃ dassetuṃ pāḷiyaṃ ‘‘salloti vā’’tiādi vuttaṃ. Imesanti salladhūpāyanānaṃ. Icchāvipariyāyeti icchitālābhe, appaccayasamavāye vā. Idampi samatthanaṃ hoti yathādhippetassa aññatthassa byatirekadassanabhāvato. Jarāmaraṇavipariyāyeti jarāmaraṇe asati. Na hi yathādhippetajarāmaraṇābhāve taṇhā na hotīti.
ทฺวิธา วุตฺตาติ ทฺวิปฺปกาเรน วุตฺตา, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา วุตฺตาฯ ยํ อิทํ…เป.… อารมฺมณกรณวเสน วา อภิลปนนฺติ เอวํ กิริยาปรามสนํ โยเชตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํฯ วิเสโสติ อยํ เอตาสํ อิจฺฉาตณฺหานํ ปกติสงฺขาโต วิเสโสฯ ‘‘ทฺวีหิ นาเมหี’’ติปิ ปาฬิฯ ยทิปิ เอวนฺติ กามํ วิสยวิเสเสสุ เอวํ ยถาวุตฺตอวตฺถาวิเสเสน อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถิ กาจิ เภทมตฺตาติ อโตฺถฯ สภาวโต ปน เภโท นตฺถีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตถาปี’’ติ อาหฯ
Dvidhā vuttāti dvippakārena vuttā, dvikkhattuṃ vā vuttā. Yaṃ idaṃ…pe… ārammaṇakaraṇavasena vā abhilapananti evaṃ kiriyāparāmasanaṃ yojetabbanti veditabbaṃ. Visesoti ayaṃ etāsaṃ icchātaṇhānaṃ pakatisaṅkhāto viseso. ‘‘Dvīhi nāmehī’’tipi pāḷi. Yadipi evanti kāmaṃ visayavisesesu evaṃ yathāvuttaavatthāvisesena icchātaṇhānaṃ atthi kāci bhedamattāti attho. Sabhāvato pana bhedo natthīti dassento ‘‘tathāpī’’ti āha.
อิจฺฉนฺตีติ กาเมนฺติฯ ตณฺหายนา ปาตุกามตาฯ สนฺตาปนเฎฺฐนาติ ปริทหนภาเวนฯ อากฑฺฒนเฎฺฐนาติ อวหรณเฎฺฐนฯ สริตานีติ ราควเสน อลฺลานิฯ ตํสมฺปยุตฺตปีติวเสน สินิทฺธานิ สิเนหิตานิฯ วิสตฺติกาติ วิตฺถตา รูปาทีสุ เตภูมกธเมฺมสุ พฺยาปนวเสนฯ วิสฎาติ ปุริมเววจนเมว ต-การสฺส ฎ-การํ กตฺวา วุตฺตํฯ วิสาลาติ วิปุลาฯ วิสกฺกตีติ ปริสกฺกติ สหติฯ รโตฺต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหติฯ ‘‘โอสกฺกนํ, วิปฺผนฺทนํ วา วิสกฺกน’’นฺติ วทนฺติฯ อนิจฺจาทิกํ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติฯ วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ทเสฺสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สํขิปติฯ วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อโตฺถฯ ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขาทิเภทา เวทนา มูลํ เอตายาติ วิสมูลา, ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลาฯ รูปาทิทุกฺขเสฺสว ปริโภโค เอตาย, น อมตสฺสาติ วิสปริโภคาฯ สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพาฯ โย ปเนตฺถ ปธาโน อโตฺถ, ตํ ทเสฺสตุํ ปุน ‘‘วิสตา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
Icchantīti kāmenti. Taṇhāyanā pātukāmatā. Santāpanaṭṭhenāti paridahanabhāvena. Ākaḍḍhanaṭṭhenāti avaharaṇaṭṭhena. Saritānīti rāgavasena allāni. Taṃsampayuttapītivasena siniddhāni sinehitāni. Visattikāti vitthatā rūpādīsu tebhūmakadhammesu byāpanavasena. Visaṭāti purimavevacanameva ta-kārassa ṭa-kāraṃ katvā vuttaṃ. Visālāti vipulā. Visakkatīti parisakkati sahati. Ratto hi rāgavatthunā pādena tāḷiyamānopi sahati. ‘‘Osakkanaṃ, vipphandanaṃ vā visakkana’’nti vadanti. Aniccādikaṃ niccādito gaṇhantī visaṃvādikā hoti. Visaṃharatīti tathā tathā kāmesu ānisaṃsaṃ dassentī vividhehi ākārehi nekkhammābhimukhappavattito cittaṃ saṃharati saṃkhipati. Visaṃ vā dukkhaṃ, taṃ harati, vahatīti attho. Dukkhanibbattakassa kammassa hetubhāvato visamūlā, visaṃ vā dukkhādibhedā vedanā mūlaṃ etāyāti visamūlā, dukkhasamudayattā visaṃ phalaṃ etissāti visaphalā. Rūpādidukkhasseva paribhogo etāya, na amatassāti visaparibhogā. Sabbattha niruttivasena padasiddhi veditabbā. Yo panettha padhāno attho, taṃ dassetuṃ puna ‘‘visatā vā panā’’tiādi vuttaṃ.
สิเนหนํ เปมกรณํฯ พนฺธนเฎฺฐนาติ สํโยชนเฎฺฐนฯ อาสีสนเฎฺฐนาติ อิจฺฉนเฎฺฐนฯ อภินนฺทนเฎฺฐนาติ อสฺสาทนเฎฺฐน, สมฺปฎิจฺฉนเฎฺฐน วาฯ
Sinehanaṃ pemakaraṇaṃ. Bandhanaṭṭhenāti saṃyojanaṭṭhena. Āsīsanaṭṭhenāti icchanaṭṭhena. Abhinandanaṭṭhenāti assādanaṭṭhena, sampaṭicchanaṭṭhena vā.
๒๑. อนภิรตีติ อุกฺกณฺฐาฯ ญาณนิพฺพิทาติ นิพฺพิทานุปสฺสนาฯ ยถา จ ทุกฺขู…เป.… จาเรสุ ยุตฺติ วุตฺตาติ โยชนาฯ
21.Anabhiratīti ukkaṇṭhā. Ñāṇanibbidāti nibbidānupassanā. Yathā ca dukkhū…pe… cāresu yutti vuttāti yojanā.
สุขาปฎิปทาทนฺธาภิญฺญา สุขาปฎิปทาขิปฺปาภิญฺญา สุขาปฎิปทาทโยฯ โย ทุกฺขาย ปฎิปทาย วิเสสํ อธิคนฺตุํ ภโพฺพ, ตสฺส สุขาปฎิปทาโยคฺยสฺส วิย กริยมานา ธมฺมเทสนา วิเสสาวหา น โหติ, ตสฺมา สา น ยุตฺตาติ อิมมตฺถํ ทเสฺสติ ‘‘ราคจริโต’’ติอาทินาฯ ราคจริตสฺส ตถา ตถา กามานํ อาทีนวํ, โอการํ, สํกิเลสํ, เนกฺขเมฺม อานิสํสญฺจ อวิภาเวตฺวา อาทิโต วิปสฺสนากถาว กริยมานา น วิเสสาวหา โหติ อาสยสฺส อโสธิตตฺตาติ เอตมตฺถํ ทเสฺสโนฺต ปาฬิยํ ‘‘วิปสฺสนา…เป.… เทสนา’’ติ อาหาติ เวทิตพฺพํฯ เสสปเทสุปีติ ยถา ‘‘ราคจริตสฺสา’’ติอาทินา ราคจริตโกฎฺฐาสวเสน ปาฬิยํ เทสนาย อยุตฺติ วุตฺตา, อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ โทสจริตโกฎฺฐาสาทีสุปิ ‘‘โทสจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อสุภํ เทเสยฺยา’’ติอาทินา ปาฬิยํ อวุโตฺตปิ ยถาสมฺภวมโตฺถ นิทฺธาเรตฺวา วตฺตโพฺพฯ กสฺมา ปน ยุตฺติหาเร อยุตฺตินิทฺธารณา กตาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยติ เสเสสุปิ โทสจริตาทิวเสน นิทฺธาริเตสุ อยุตฺติคเวสเนสุ อยเมว อุปาโยฯ อนุโลมปฺปหาน’’นฺติปิ ปาฬิ, โส เอวโตฺถฯ
Sukhāpaṭipadādandhābhiññā sukhāpaṭipadākhippābhiññā sukhāpaṭipadādayo. Yo dukkhāya paṭipadāya visesaṃ adhigantuṃ bhabbo, tassa sukhāpaṭipadāyogyassa viya kariyamānā dhammadesanā visesāvahā na hoti, tasmā sā na yuttāti imamatthaṃ dasseti ‘‘rāgacarito’’tiādinā. Rāgacaritassa tathā tathā kāmānaṃ ādīnavaṃ, okāraṃ, saṃkilesaṃ, nekkhamme ānisaṃsañca avibhāvetvā ādito vipassanākathāva kariyamānā na visesāvahā hoti āsayassa asodhitattāti etamatthaṃ dassento pāḷiyaṃ ‘‘vipassanā…pe… desanā’’ti āhāti veditabbaṃ. Sesapadesupīti yathā ‘‘rāgacaritassā’’tiādinā rāgacaritakoṭṭhāsavasena pāḷiyaṃ desanāya ayutti vuttā, iminā nayena sesapadesupi dosacaritakoṭṭhāsādīsupi ‘‘dosacaritassa puggalassa asubhaṃ deseyyā’’tiādinā pāḷiyaṃ avuttopi yathāsambhavamattho niddhāretvā vattabbo. Kasmā pana yuttihāre ayuttiniddhāraṇā katāti codanaṃ manasi katvā āha ‘‘ettha cā’’tiādi. Sesesupi eseva nayoti sesesupi dosacaritādivasena niddhāritesu ayuttigavesanesu ayameva upāyo. Anulomappahāna’’ntipi pāḷi, so evattho.
‘‘ยาวติกา ญาณสฺส ภูมี’’ติ เอเตน ยุตฺติหารสฺส มหาวิสยตํ ทเสฺสติฯ กสฺมา ปนายํ มหาวิสโยติ? ยุตฺติวิจารภาวโต, สํวเณฺณตพฺพสฺส จ ธมฺมสฺส นานานยนิปุณาทิคุณวิเสสโยคโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติ อาหฯ
‘‘Yāvatikāñāṇassa bhūmī’’ti etena yuttihārassa mahāvisayataṃ dasseti. Kasmā panāyaṃ mahāvisayoti? Yuttivicārabhāvato, saṃvaṇṇetabbassa ca dhammassa nānānayanipuṇādiguṇavisesayogatoti dassento ‘‘taṃ kissa hetū’’ti āha.
อปรภาเคติ ปจฺฉาภาเคฯ เมตฺตาวิหาริภาคสฺส อปริหีนตาวจนโต อโยโค วุโตฺตฯ เตนาห ‘‘สโต’’ติฯ ยถาวุตฺตการณโต เอวาติ ปฎิปกฺขตฺตา เอวฯ
Aparabhāgeti pacchābhāge. Mettāvihāribhāgassa aparihīnatāvacanato ayogo vutto. Tenāha ‘‘sato’’ti. Yathāvuttakāraṇato evāti paṭipakkhattā eva.
ปหาเนกฎฺฐภาวโต ทิฎฺฐิมญฺญิตสฺสฯ อาทีนวทสฺสเนน วิตกฺกํ ชิคุจฺฉนฺตา ทุติยชฺฌานสฺส อาสนฺนอุปจารชฺฌานธมฺมาปิ วิตกฺการมฺมณา น โหนฺติ, ปเคว ทุติยชฺฌานธมฺมาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อารมฺมณกรณโตฺถ เหตฺถ สหคตสโทฺท’’ติฯ
Pahānekaṭṭhabhāvato diṭṭhimaññitassa. Ādīnavadassanena vitakkaṃ jigucchantā dutiyajjhānassa āsannaupacārajjhānadhammāpi vitakkārammaṇā na honti, pageva dutiyajjhānadhammāti adhippāyenāha ‘‘ārammaṇakaraṇattho hettha sahagatasaddo’’ti.
เอวํ ยุตฺติหารลกฺขณํ อาคมโต ยุตฺตายุตฺตวิจารํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อาคมานุคตาย ยุตฺติยาปิ ตํ ทเสฺสตุํ คุณมุเขน โทสวิภชนํ วิภชโนฺต ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิมาหฯ ตํ อุตฺตานตฺถเมวฯ
Evaṃ yuttihāralakkhaṇaṃ āgamato yuttāyuttavicāraṃ dassetvā idāni āgamānugatāya yuttiyāpi taṃ dassetuṃ guṇamukhena dosavibhajanaṃ vibhajanto ‘‘apicetthā’’tiādimāha. Taṃ uttānatthameva.
ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Yuttihāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๓. ยุตฺติหารวิภโงฺค • 3. Yuttihāravibhaṅgo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๓. ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา • 3. Yuttihāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๓. ยุตฺติหารวิภงฺควิภาวนา • 3. Yuttihāravibhaṅgavibhāvanā