Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation

    สํยุตฺต นิกาย ๓๕ฯ๒๔๓

    The Related Suttas Collection 35.243

    ๑๙ฯ อาสีวิสวคฺค

    19. The Simile of the Vipers

    อวสฺสุตปริยายสุตฺต

    The Explanation on the Corrupt

    เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิโคฺรธาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ นวํ สนฺถาคารํ อจิรการิตํ โหติ อนชฺฌาวุฏฺฐํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนฯ

    At one time the Buddha was staying in the land of the Sakyans, near Kapilavatthu in the Banyan Tree Monastery. Now at that time a new town hall had recently been constructed for the Sakyans of Kapilavatthu. It had not yet been occupied by an ascetic or brahmin or any person at all.

    อถ โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ: “อิธ, ภนฺเต, กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ นวํ สนฺถาคารํ อจิรการิตํ อนชฺฌาวุฏฺฐํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนฯ ตํ, ภนฺเต, ภควา ปฐมํ ปริภุญฺชตุฯ ภควตา ปฐมํ ปริภุตฺตํ ปจฺฉา กาปิลวตฺถวา สกฺยา ปริภุญฺชิสฺสนฺติฯ ตทสฺส กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา”ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

    Then the Sakyans of Kapilavatthu went up to the Buddha, bowed, sat down to one side, and said to him, “Sir, a new town hall has recently been constructed for the Sakyans of Kapilavatthu. It has not yet been occupied by an ascetic or brahmin or any person at all. May the Buddha be the first to use it, and only then will the Sakyans of Kapilavatthu use it. That would be for the lasting welfare and happiness of the Sakyans of Kapilavatthu.” The Buddha consented with silence.

    อถ โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน นวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวา อาสนานิ ปญฺญาเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฏฺฐาเปตฺวา เตลปฺปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ: “สพฺพสนฺถริสนฺถตํ, ภนฺเต, สนฺถาคารํ, อาสนานิ ปญฺญตฺตานิ, อุทกมณิโก ปติฏฺฐาปิโต, เตลปฺปทีโป อาโรปิโตฯ ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มญฺญตี”ติฯ

    Knowing that the Buddha had consented, the Sakyans got up from their seat, bowed, and respectfully circled the Buddha, keeping him on their right. Then they went to the new town hall, where they spread carpets all over, prepared seats, set up a water jar, and placed a lamp. Then they went back to the Buddha and told him of their preparations, saying, “Please, sir, come at your convenience.”

    อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน นวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิฯ ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาฯ กาปิลวตฺถวา สกฺยา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทึสุ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาฯ อถ โข ภควา กาปิลวตฺถเว สเกฺย พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุโยฺยเชสิ: “อภิกฺกนฺตา โข, โคตมา, รตฺติฯ ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญถา”ติฯ

    Then the Buddha robed up and, taking his bowl and robe, went to the new town hall together with the Saṅgha of bhikkhus. Having washed his feet he entered the town hall and sat against the central column facing east. The Saṅgha of bhikkhus also washed their feet, entered the town hall, and sat against the west wall facing east, with the Buddha right in front of them. The Sakyans of Kapilavatthu also washed their feet, entered the town hall, and sat against the east wall facing west, with the Buddha right in front of them. The Buddha spent much of the night educating, encouraging, firing up, and inspiring the Sakyans with a Dhamma talk. Then he dismissed them, saying, “The night is getting late, Gotamas. Please go at your convenience.”

    “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุฯ

    “Yes, sir,” replied the Sakyans. They got up from their seat, bowed, and respectfully circled the Buddha, keeping him on their right, before leaving.

    อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ กาปิลวตฺถเวสุ สเกฺยสุ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อามนฺเตสิ: “วิคตถินมิทฺโธ โข, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุสงฺโฆฯ ปฏิภาตุ ตํ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขูนํ ธมฺมี กถาฯ ปิฏฺฐิ เม อาคิลายติ; ตมหํ อายมิสฺสามี”ติฯ

    And then, soon after the Sakyans had left, the Buddha addressed Venerable Mahāmoggallāna, “Moggallāna, the Saṅgha of bhikkhus is rid of dullness and drowsiness. Give them some Dhamma talk as you feel inspired. My back is sore, I’ll stretch it.”

    “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปญฺญเปตฺวา ทกฺขิเณน ปเสฺสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ, ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย, สโต สมฺปชาโน อุฏฺฐานสญฺญํ มนสิ กริตฺวาฯ

    “Yes, sir,” Mahāmoggallāna replied. And then the Buddha spread out his outer robe folded in four and laid down in the lion’s posture—on the right side, placing one foot on top of the other—mindful and aware, and focused on the time of getting up.

    ตตฺร โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ: “อาวุโส ภิกฺขเว”ติฯ

    There Venerable Mahāmoggallāna addressed the bhikkhus: “Friends, bhikkhus!”

    “อาวุโส”ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ:

    “Friend,” they replied. Venerable Mahāmoggallāna said this:

    “อวสฺสุตปริยายญฺจ โว, อาวุโส, เทเสสฺสามิ, อนวสฺสุตปริยายญฺจฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี”ติฯ

    “I will teach you the explanation of the corrupt and the uncorrupted. Listen and apply your mind well, I will speak.”

    “เอวมาวุโส”ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ:

    “Yes, friend,” they replied. Venerable Mahāmoggallāna said this:

    “กถํ, อาวุโส, อวสฺสุโต โหติ?

    “And how is someone corrupt?

    อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป อธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺฐิตกายสฺสตี วิหรติ ปริตฺตเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ …เป…

    Take a bhikkhu who sees a sight with the eye. If it’s pleasant they hold on to it, but if it’s unpleasant they dislike it. They live with mindfulness of the body unestablished and their heart restricted. And they don’t truly understand the freedom of heart and freedom by wisdom where those arisen bad, unskillful qualities cease without anything left over.

    ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา …เป… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย ปิยรูเป ธมฺเม อธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป ธมฺเม พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺฐิตกายสฺสตี จ วิหรติ ปริตฺตเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ

    They hear a sound … smell an odor … taste a flavor … feel a touch … know a thought with the mind. If it’s pleasant they hold on to it, but if it’s unpleasant they dislike it. They live with mindfulness of the body unestablished and a limited heart. And they don’t truly understand the freedom of heart and freedom by wisdom where those arisen bad, unskillful qualities cease without anything left over.

    อยํ วุจฺจติ, อาวุโส, ภิกฺขุ อวสฺสุโต จกฺขุวิญฺเญเยฺยสุ รูเปสุ …เป… อวสฺสุโต ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยสุ รเสสุ …เป… อวสฺสุโต มโนวิญฺเญเยฺยสุ ธมฺเมสุฯ

    This is called a bhikkhu who is corrupt when it comes to sights known by the eye, sounds … smells … tastes … touches … thoughts known by the mind.

    เอวํวิหาริญฺจาวุโส, ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํ …เป… ชิวฺหาโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํ …เป… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ

    When a bhikkhu lives like this, if Māra comes at them through the eye he finds a vulnerability and gets hold of them. If Māra comes at them through the ear … nose … tongue … body … mind he finds a vulnerability and gets hold of them.

    เสยฺยถาปิ, อาวุโส, นฬาคารํ วา ติณาคารํ วา สุกฺขํ โกลาปํ เตโรวสฺสิกํฯ ปุรตฺถิมาย เจปิ นํ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภเถว อคฺคิ โอตารํ, ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํ; ปจฺฉิมาย เจปิ นํ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย …เป… อุตฺตราย เจปิ นํ ทิสาย …เป… ทกฺขิณาย เจปิ นํ ทิสาย …เป… เหฏฺฐิมโต เจปิ นํ …เป… อุปริมโต เจปิ นํ … ยโต กุโตจิ เจปิ นํ ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภเถว อคฺคิ โอตารํ ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํฯ

    Suppose there was a house made of reeds or straw that was dried up, withered, and decrepit. If a person came to it with a burning grass torch from the east, west, north, south, below, above, or from anywhere, the fire would find a vulnerability, it would get a foothold.

    เอวเมว โข, อาวุโส, เอวํวิหารึ ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํ …เป… ชิวฺหาโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ …เป… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ

    In the same way, when a bhikkhu lives like this, if Māra comes at them through the eye he finds a vulnerability and gets hold of them. If Māra comes at them through the ear … nose … tongue … body … mind he finds a vulnerability and gets hold of them.

    เอวํวิหาริญฺจาวุโส, ภิกฺขุํ รูปา อธิภํสุ, น ภิกฺขุ รูเป อธิโภสิ; สทฺทา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ สทฺเท อธิโภสิ; คนฺธา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ คนฺเธ อธิโภสิ; รสา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ รเส อธิโภสิ; โผฏฺฐพฺพา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ โผฏฺฐพฺเพ อธิโภสิ; ธมฺมา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ ธมฺเม อธิโภสิฯ

    When a bhikkhu lives like this, they’re mastered by sights, sounds, smells, tastes, touches, and thoughts, they don’t master these things.

    อยํ วุจฺจตาวุโส, ภิกฺขุ รูปาธิภูโต, สทฺทาธิภูโต, คนฺธาธิภูโต, รสาธิภูโต, โผฏฺฐพฺพาธิภูโต, ธมฺมาธิภูโต, อธิภูโต, อนธิภู, อธิภํสุ นํ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สงฺกิเลสิกา โปโนภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยาฯ

    This is called a bhikkhu who has been mastered by sights, sounds, smells, tastes, touches, and thoughts. They’re mastered, not a master. Bad, unskillful qualities have mastered them, which are corrupting, leading to future lives, hurtful, and resulting in suffering and future rebirth, old age, and death.

    เอวํ โข, อาวุโส, อวสฺสุโต โหติฯ

    That’s how someone is corrupt.

    กถญฺจาวุโส, อนวสฺสุโต โหติ?

    And how is someone uncorrupted?

    อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป นาธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป รูเป น พฺยาปชฺชติ, อุปฏฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ อปฺปมาณเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ …เป…

    Take a bhikkhu who sees a sight with the eye. If it’s pleasant they don’t hold on to it, and if it’s unpleasant they don’t dislike it. They live with mindfulness of the body established and a limitless heart. And they truly understand the freedom of heart and freedom by wisdom where those arisen bad, unskillful qualities cease without anything left over.

    ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา …เป… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย ปิยรูเป ธมฺเม นาธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป ธมฺเม น พฺยาปชฺชติ, อุปฏฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ อปฺปมาณเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ

    They hear a sound … smell an odor … taste a flavor … feel a touch … know a thought with the mind. If it’s pleasant they don’t hold on to it, and if it’s unpleasant they don’t dislike it. They live with mindfulness of the body established and a limitless heart. And they truly understand the freedom of heart and freedom by wisdom where those arisen bad, unskillful qualities cease without anything left over.

    อยํ วุจฺจตาวุโส, ภิกฺขุ อนวสฺสุโต จกฺขุวิญฺเญเยฺยสุ รูเปสุ …เป… อนวสฺสุโต มโนวิญฺเญเยฺยสุ ธมฺเมสุฯ

    This is called a bhikkhu who is uncorrupted when it comes to sights known by the eye, sounds … smells … tastes … touches … thoughts known by the mind.

    เอวํวิหาริญฺจาวุโส, ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํ …เป… ชิวฺหาโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ …เป… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ

    When a bhikkhu lives like this, if Māra comes at them through the eye he doesn’t find a vulnerability or get hold of them. If Māra comes at them through the ear … nose … tongue … body … mind he doesn’t find a vulnerability or get hold of them.

    เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กูฏาคารํ วา สาลา วา พหลมตฺติกา อทฺทาวเลปนาฯ ปุรตฺถิมาย เจปิ นํ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, เนว ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, น ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํ …เป… ปจฺฉิมาย เจปิ นํ … อุตฺตราย เจปิ นํ … ทกฺขิณาย เจปิ นํ … เหฏฺฐิมโต เจปิ นํ … อุปริมโต เจปิ นํ … ยโต กุโตจิ เจปิ นํ ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, เนว ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, น ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํฯ

    Suppose there was a bungalow or hall made of thick clay with its plaster still wet. If a person came to it with a burning grass torch from the east, west, north, south, below, above, or from anywhere, the fire wouldn’t find a vulnerability, it would get no foothold.

    เอวเมว โข, อาวุโส, เอวํวิหารึ ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํ …เป… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ

    In the same way, when a bhikkhu lives like this, if Māra comes at them through the eye he doesn’t find a vulnerability or get hold of them. If Māra comes at them through the ear … nose … tongue … body … mind he doesn’t find a vulnerability or get hold of them.

    เอวํวิหารี จาวุโส, ภิกฺขุ รูเป อธิโภสิ, น รูปา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; สทฺเท ภิกฺขุ อธิโภสิ, น สทฺทา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; คนฺเธ ภิกฺขุ อธิโภสิ, น คนฺธา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; รเส ภิกฺขุ อธิโภสิ, น รสา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; โผฏฺฐพฺเพ ภิกฺขุ อธิโภสิ, น โผฏฺฐพฺพา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; ธมฺเม ภิกฺขุ อธิโภสิ, น ธมฺมา ภิกฺขุํ อธิภํสุฯ

    When a bhikkhu lives like this, they master sights, sounds, smells, tastes, touches, and thoughts, they’re not mastered by these things.

    อยํ วุจฺจตาวุโส, ภิกฺขุ รูปาธิภู, สทฺทาธิภู, คนฺธาธิภู, รสาธิภู, โผฏฺฐพฺพาธิภู, ธมฺมาธิภู, อธิภู, อนธิภูโต, อธิโภสิ เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม สงฺกิเลสิเก โปโนภวิเก สทเร ทุกฺขวิปาเก อายตึ ชาติชรามรณิเยฯ

    This is called a bhikkhu who has mastered sights, sounds, smells, tastes, touches, and thoughts. They’re a master, not mastered. Bad, unskillful qualities have been mastered by them, which are corrupting, leading to future lives, hurtful, and resulting in suffering and future rebirth, old age, and death.

    เอวํ โข, อาวุโส, อนวสฺสุโต โหตี”ติฯ

    That’s how someone is uncorrupted.”

    อถ โข ภควา อุฏฺฐหิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อามนฺเตสิ:

    Then the Buddha got up and said to Venerable Mahāmoggallāna:

    “สาธุ สาธุ, โมคฺคลฺลานฯ สาธุ โข ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขูนํ อวสฺสุตปริยายญฺจ อนวสฺสุตปริยายญฺจ อภาสี”ติฯ

    “Good, good, Moggallāna! It’s good that you’ve taught this explanation of the corrupt and the uncorrupted.”

    อิทมโวจ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโนฯ สมนุญฺโญ สตฺถา อโหสิฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

    This is what Venerable Mahāmoggallāna said, and the teacher approved. Satisfied, the bhikkhus approved what Mahāmoggallāna said.

    ฉฏฺฐํฯ





    The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact