Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation

    สํยุตฺต นิกาย ๒๒ฯ๘๙

    The Related Suttas Collection 22.89

    ๙ฯ เถรวคฺค

    9. Senior Bhikkhus

    เขมกสุตฺต

    With Khemaka

    เอกํ สมยํ สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู โกสมฺพิยํ วิหรนฺติ โฆสิตาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา เขมโก พทริการาเม วิหรติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ

    At one time several senior bhikkhus were staying near Kosambi, in Ghosita’s Monastery. Now at that time Venerable Khemaka was staying in the Jujube Tree Monastery, and he was sick, suffering, gravely ill.

    อถ โข เถรา ภิกฺขู สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิตา อายสฺมนฺตํ ทาสกํ อามนฺเตสุํ: “เอหิ ตฺวํ, อาวุโส ทาสก, เยน เขมโก ภิกฺขุ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เขมกํ ภิกฺขุํ เอวํ วเทหิ: ‘เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ—กจฺจิ เต, อาวุโส, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ทุกฺขา เวทนา ปฏิกฺกมนฺติ โน อภิกฺกมนฺติ, ปฏิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ โน อภิกฺกโม'”ติ?

    In the late afternoon those senior bhikkhus came out of retreat and addressed Venerable Dāsaka, “Please, Friend Dāsaka, go to the bhikkhu Khemaka and say to him: ‘Friend Khemaka, the seniors hope you’re keeping well; they hope you’re alright. They hope that your pain is fading, not growing, that its fading is evident, not its growing.’”

    “เอวมาวุโส”ติ โข อายสฺมา ทาสโก เถรานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา เขมโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ เขมกํ เอตทโวจ:

    “Yes, friends,” replied Dāsaka. He went to Khemaka and said to him:

    “เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ: ‘กจฺจิ เต, อาวุโส, ขมนียํ …เป… โน อภิกฺกโม'”ติ?

    “Friend Khemaka, the seniors hope you’re keeping well; they hope you’re alright. They hope that your pain is fading, not growing, that its fading is evident, not its growing.”

    “น เม, อาวุโส, ขมนียํ น ยาปนียํ …เป… อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ โน ปฏิกฺกโม”ติฯ

    “Friend, I’m not keeping well, I’m not alright. My pain is terrible and growing, not fading; its growing is evident, not its fading.”

    อถ โข อายสฺมา ทาสโก เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ: “เขมโก, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวมาห: ‘น เม, อาวุโส, ขมนียํ …เป… อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ โน ปฏิกฺกโม'”ติฯ

    Then Dāsaka went to those seniors and told them what had happened. They said,

    “เอหิ ตฺวํ, อาวุโส ทาสก, เยน เขมโก ภิกฺขุ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เขมกํ ภิกฺขุํ เอวํ วเทหิ: ‘เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ—ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สญฺญุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเมสุ อายสฺมา เขมโก ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสตี'”ติ?

    “Please, Friend Dāsaka, go to the bhikkhu Khemaka and say to him: ‘Friend Khemaka, the seniors say that these five grasping aggregates have been taught by the Buddha, that is: the grasping aggregates of form, feeling, perception, choices, and consciousness. Do you regard anything among these five grasping aggregates as self or as belonging to self?’”

    “เอวมาวุโส”ติ โข อายสฺมา ทาสโก เถรานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา เขมโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา …เป… เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ: “ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเมสุ อายสฺมา เขมโก ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสตี”ติ?

    “Yes, friends,” replied Dāsaka. He relayed the message to Khemaka, who replied:

    “ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเมสุ ขฺวาหํ, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ น กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “These five grasping aggregates have been taught by the Buddha, that is: the grasping aggregates of form, feeling, perception, choices, and consciousness. I do not regard anything among these five grasping aggregates as self or as belonging to self.”

    อถ โข อายสฺมา ทาสโก เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ: “เขมโก, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวมาห: ‘ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเมสุ ขฺวาหํ, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ น กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสามี'”ติฯ

    Then Dāsaka went to those seniors and told them what had happened. They said:

    “เอหิ ตฺวํ, อาวุโส ทาสก, เยน เขมโก ภิกฺขุ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เขมกํ ภิกฺขุํ เอวํ วเทหิ: ‘เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ—ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ โน เจ กิรายสฺมา เขมโก อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสติฯ เตนหายสฺมา เขมโก อรหํ ขีณาสโว'”ติฯ

    “Please, Friend Dāsaka, go to the bhikkhu Khemaka and say to him: ‘Friend Khemaka, the seniors say that these five grasping aggregates have been taught by the Buddha, that is: the grasping aggregates of form, feeling, perception, choices, and consciousness. If, as it seems, Venerable Khemaka does not regard anything among these five grasping aggregates as self or as belonging to self, then he is a perfected one, with defilements ended.’”

    “เอวมาวุโส”ติ โข อายสฺมา ทาสโก เถรานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา เขมโก …เป… เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ: “ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธ; โน เจ กิรายสฺมา เขมโก อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสติ, เตนหายสฺมา เขมโก อรหํ ขีณาสโว”ติฯ

    “Yes, friends,” replied Dāsaka. He relayed the message to Khemaka, who replied:

    “ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเมสุ ขฺวาหํ, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ น กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสามิ, น จมฺหิ อรหํ ขีณาสโว; อปิ จ เม, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ‘อสฺมี'ติ อธิคตํ, ‘อยมหมสฺมี'ติ น จ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “These five grasping aggregates have been taught by the Buddha, that is: the grasping aggregates of form, feeling, perception, choices, and consciousness. I do not regard anything among these five grasping aggregates as self or as belonging to self, yet I am not a perfected one, with defilements ended. For when it comes to the five grasping aggregates I’m not rid of the conceit ‘I am’. But I don’t regard anything as ‘I am this’.”

    อถ โข อายสฺมา ทาสโก เยน เถรา ภิกฺขู …เป… เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ: “เขมโก, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวมาห—ปญฺจิเม, อาวุโส, อุปาทานกฺขนฺธา วุตฺตา ภควตา, เสยฺยถิทํ—รูปุปาทานกฺขนฺโธ …เป… วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธฯ อิเมสุ ขฺวาหํ, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ น กิญฺจิ อตฺตํ วา อตฺตนิยํ วา สมนุปสฺสามิ, น จมฺหิ อรหํ ขีณาสโว; อปิ จ เม, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ‘อสฺมี'ติ อธิคตํ, ‘อยมหมสฺมี'ติ น จ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    Then Dāsaka went to those seniors and told them what had happened. They said:

    “เอหิ ตฺวํ, อาวุโส ทาสก, เยน เขมโก ภิกฺขุ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เขมกํ ภิกฺขุํ เอวํ วเทหิ: ‘เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ—ยเมตํ, อาวุโส เขมก, อสฺมีติ วเทสิ, กิเมตํ อสฺมีติ วเทสิ? รูปํ อสฺมีติ วเทสิ, อญฺญตฺร รูปา อสฺมีติ วเทสิ, เวทนํ … สญฺญํ … สงฺขาเร … วิญฺญาณํ อสฺมีติ วเทสิ, อญฺญตฺร วิญฺญาณา อสฺมีติ วเทสิฯ ยเมตํ, อาวุโส เขมก, อสฺมีติ วเทสิฯ กิเมตํ อสฺมีติ วเทสี'”ติ?

    “Please, Friend Dāsaka, go to the bhikkhu Khemaka and say to him: ‘Friend Khemaka, the seniors ask, when you say “I am”, what is it that you’re talking about? Is it form or apart from form? Is it feeling … perception … choices … consciousness, or apart from consciousness? When you say “I am”, what is it that you’re talking about?”

    “เอวมาวุโส”ติ โข อายสฺมา ทาสโก เถรานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา เขมโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ เขมกํ เอตทโวจ—เถรา ตํ, อาวุโส เขมก, เอวมาหํสุ: “ยเมตํ, อาวุโส เขมก, ‘อสฺมี'ติ วเทสิ, กิเมตํ ‘อสฺมี'ติ วเทสิ? รูปํ ‘อสฺมี'ติ วเทสิ อญฺญตฺร รูปา ‘อสฺมี'ติ วเทสิ? เวทนํ … สญฺญํ … สงฺขาเร … วิญฺญาณํ ‘อสฺมี'ติ วเทสิ อญฺญตฺร วิญฺญาณา ‘อสฺมี'ติ วเทสิ? ยเมตํ, อาวุโส เขมก, ‘อสฺมี'ติ วเทสิ, กิเมตํ ‘อสฺมี'ติ วเทสี”ติ?

    “Yes, friends,” replied Dāsaka. He relayed the message to Khemaka, who replied:

    “อลํ, อาวุโส ทาสก, กึ อิมาย สนฺธาวนิกายฯ อาหราวุโส, ทณฺฑํ; อหเมว เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิสฺสามี”ติฯ

    “Enough, Friend Dāsaka! What’s the point in running back and forth? Bring my staff, I’ll go to see the senior bhikkhus myself.”

    อถ โข อายสฺมา เขมโก ทณฺฑโมลุพฺภ เยน เถรา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เถเรหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ เขมกํ เถรา ภิกฺขู เอตทโวจุํ:

    Then Venerable Khemaka, leaning on a staff, went to those senior bhikkhus and exchanged greetings with them. When the greetings and polite conversation were over, he sat down to one side. They said to him:

    “ยเมตํ, อาวุโส เขมก, ‘อสฺมี'ติ วเทสิ, กิเมตํ ‘อสฺมี'ติ วเทสิ? รูปํ ‘อสฺมี'ติ วเทสิ, อญฺญตฺร รูปา ‘อสฺมี'ติ วเทสิ? เวทนํ … สญฺญํ … สงฺขาเร … วิญฺญาณํ ‘อสฺมี'ติ วเทสิ, อญฺญตฺร วิญฺญาณา ‘อสฺมี'ติ วเทสิ? ยเมตํ, อาวุโส เขมก, ‘อสฺมี'ติ วเทสิ, กิเมตํ ‘อสฺมี'ติ วเทสี”ติ?

    “Friend Khemaka, when you say ‘I am’, what is it that you’re talking about? Is it form or apart from form? Is it feeling … perception … choices … consciousness, or apart from consciousness? When you say ‘I am’, what is it that you’re talking about?”

    “น ขฺวาหํ, อาวุโส, รูปํ ‘อสฺมี'ติ วทามิ; นปิ อญฺญตฺร รูปา ‘อสฺมี'ติ วทามิฯ น เวทนํ … น สญฺญํ … น สงฺขาเร … น วิญฺญาณํ ‘อสฺมี'ติ วทามิ; นปิ อญฺญตฺร วิญฺญาณา ‘อสฺมี'ติ วทามิฯ อปิ จ เม, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ‘อสฺมี'ติ อธิคตํ ‘อยมหมสฺมี'ติ น จ สมนุปสฺสามิฯ

    “Friends, I don’t say ‘I am’ with reference to form, or apart from form. I don’t say ‘I am’ with reference to feeling … perception … choices … consciousness, or apart from consciousness. For when it comes to the five grasping aggregates I’m not rid of the conceit ‘I am’. But I don’t regard anything as ‘I am this’.

    เสยฺยถาปิ, อาวุโส, อุปฺปลสฺส วา ปทุมสฺส วา ปุณฺฑรีกสฺส วา คนฺโธฯ โย นุ โข เอวํ วเทยฺย: ‘ปตฺตสฺส คนฺโธ'ติ วา ‘วณฺณสฺส คนฺโธ'ติ วา ‘กิญฺชกฺขสฺส คนฺโธ'ติ วา สมฺมา นุ โข โส วทมาโน วเทยฺยา”ติ?

    It’s like the scent of a blue water lily, or a pink or white lotus. Would it be right to say that the scent belongs to the petals or the stalk or the pistil?”

    “โน เหตํ, อาวุโส”ฯ

    “No, friend.”

    “ยถา กถํ, ปนาวุโส, สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา”ติ?

    “Then, friends, how should it be said?”

    “‘ปุปฺผสฺส คนฺโธ'ติ โข, อาวุโส, สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺยา”ติฯ

    “It would be right to say that the scent belongs to the flower.”

    “เอวเมว ขฺวาหํ, อาวุโส, น รูปํ ‘อสฺมี'ติ วทามิ, นปิ อญฺญตฺร รูปา ‘อสฺมี'ติ วทามิฯ น เวทนํ … น สญฺญํ … น สงฺขาเร … น วิญฺญาณํ ‘อสฺมี'ติ วทามิ, นปิ อญฺญตฺร วิญฺญาณา ‘อสฺมี'ติ วทามิฯ อปิ จ เม, อาวุโส, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ‘อสฺมี'ติ อธิคตํ ‘อยมหมสฺมี'ติ น จ สมนุปสฺสามิฯ

    “In the same way, friends, I don’t say ‘I am’ with reference to form, or apart from form. I don’t say ‘I am’ with reference to feeling … perception … choices … consciousness, or apart from consciousness. For when it comes to the five grasping aggregates I’m not rid of the conceit ‘I am’. But I don’t regard anything as ‘I am this’.

    กิญฺจาปิ, อาวุโส, อริยสาวกสฺส ปญฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ ภวนฺติ, อถ ขฺวสฺส โหติ: ‘โย จ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุสหคโต อสฺมีติ มาโน, อสฺมีติ ฉนฺโท, อสฺมีติ อนุสโย อสมูหโตฯ โส อปเรน สมเยน ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ—อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา … อิติ สญฺญา … อิติ สงฺขารา … อิติ วิญฺญาณํ, อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย, อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโม'ติฯ ตสฺสิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต โยปิสฺส โหติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุสหคโต ‘อสฺมี'ติ, มาโน ‘อสฺมี'ติ, ฉนฺโท ‘อสฺมี'ติ อนุสโย อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติฯ

    Although a noble disciple has given up the five lower fetters, they still have a lingering residue of the conceit ‘I am’, the desire ‘I am’, and the underlying tendency ‘I am’ which has not been eradicated. After some time they meditate observing rise and fall in the five grasping aggregates. ‘Such is form, such is the origin of form, such is the ending of form. Such is feeling … Such is perception … Such are choices … Such is consciousness, such is the origin of consciousness, such is the ending of consciousness.’ As they do so, that lingering residue is eradicated.

    เสยฺยถาปิ, อาวุโส, วตฺถํ สงฺกิลิฏฺฐํ มลคฺคหิตํฯ ตเมนํ สามิกา รชกสฺส อนุปทชฺชุํฯ ตเมนํ รชโก อูเส วา ขาเร วา โคมเย วา สมฺมทฺทิตฺวา อจฺเฉ อุทเก วิกฺขาเลติฯ กิญฺจาปิ ตํ โหติ วตฺถํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ, อถ ขฺวสฺส โหติ เยว อนุสหคโต อูสคนฺโธ วา ขารคนฺโธ วา โคมยคนฺโธ วา อสมูหโตฯ ตเมนํ รชโก สามิกานํ เทติฯ ตเมนํ สามิกา คนฺธปริภาวิเต กรณฺฑเก นิกฺขิปนฺติฯ โยปิสฺส โหติ อนุสหคโต อูสคนฺโธ วา ขารคนฺโธ วา โคมยคนฺโธ วา อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติฯ

    Suppose there was a cloth that was dirty and soiled, so the owners give it to a launderer. The launderer kneads it thoroughly with salt, lye, and cow dung, and rinses it in clear water. Although that cloth is clean and bright, it still has a lingering scent of salt, lye, or cow dung that had not been eradicated. The launderer returns it to its owners, who store it in a fragrant casket. And that lingering scent would be eradicated.

    เอวเมว โข, อาวุโส, กิญฺจาปิ อริยสาวกสฺส ปญฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ ภวนฺติ, อถ ขฺวสฺส โหติ เยว ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุสหคโต ‘อสฺมี'ติ, มาโน ‘อสฺมี'ติ, ฉนฺโท ‘อสฺมี'ติ อนุสโย อสมูหโตฯ โส อปเรน สมเยน ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติฯ ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา … อิติ สญฺญา … อิติ สงฺขารา … อิติ วิญฺญาณํ, อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย, อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโม'ติฯ ตสฺส อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต โยปิสฺส โหติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อนุสหคโต ‘อสฺมี'ติ, มาโน ‘อสฺมี'ติ, ฉนฺโท ‘อสฺมี'ติ อนุสโย อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉตี”ติฯ

    In the same way, although a noble disciple has given up the five lower fetters, they still have a lingering residue of the conceit ‘I am’, the desire ‘I am’, and the underlying tendency ‘I am’ which has not been eradicated. After some time they meditate observing rise and fall in the five grasping aggregates. ‘Such is form, such is the origin of form, such is the ending of form. Such is feeling … Such is perception … Such are choices … Such is consciousness, such is the origin of consciousness, such is the ending of consciousness.’ As they do so, that lingering residue is eradicated.”

    เอวํ วุตฺเต, เถรา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ เขมกํ เอตทโวจุํ: “น โข มยํ อายสฺมนฺตํ เขมกํ วิเหสาเปขา ปุจฺฉิมฺห, อปิ จายสฺมา เขมโก ปโหสิ ตสฺส ภควโต สาสนํ วิตฺถาเรน อาจิกฺขิตุํ เทเสตุํ ปญฺญาเปตุํ ปฏฺฐเปตุํ วิวริตุํ วิภชิตุํ อุตฺตานีกาตุํฯ ตยิทํ อายสฺมตา เขมเกน ตสฺส ภควโต สาสนํ วิตฺถาเรน อาจิกฺขิตํ เทสิตํ ปญฺญาปิตํ ปฏฺฐปิตํ วิวริตํ วิภชิตํ อุตฺตานีกตนฺ”ติฯ

    When he said this, the senior bhikkhus said to Venerable Khemaka, “We didn’t want to trouble Venerable Khemaka with our questions. But you’re capable of explaining, teaching, asserting, establishing, clarifying, analyzing, and revealing the Buddha’s instructions in detail. And that’s just what you’ve done.”

    อิทมโวจ อายสฺมา เขมโกฯ อตฺตมนา เถรา ภิกฺขู อายสฺมโต เขมกสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุํฯ อิมสฺมิญฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภญฺญมาเน สฏฺฐิมตฺตานํ เถรานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ, อายสฺมโต เขมกสฺส จาติฯ

    That’s what Venerable Khemaka said. Satisfied, the senior bhikkhus approved what Venerable Khemaka said. And while this discourse was being spoken, the minds of sixty senior bhikkhus and of Venerable Khemaka were freed from defilements by not grasping.

    สตฺตมํฯ





    The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact