Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation |
สํยุตฺต นิกาย ๔๖ฯ๕๔
The Related Suttas Collection 46.54
๖ฯ สากจฺฉวคฺค
6. Discussion
เมตฺตาสหคตสุตฺต
Full of Love
เอกํ สมยํ ภควา โกลิเยสุ วิหรติ หลิทฺทวสนํ นาม โกลิยานํ นิคโมฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย หลิทฺทวสนํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ: “อติปฺปโค โข ตาว หลิทฺทวสเน ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยนฺนูน มยํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺยามา”ติฯ
At one time the Buddha was staying in the land of the Koliyans, where they have a town called Haliddavasana. Then several bhikkhus robed up in the morning and, taking their bowls and robes, entered Haliddavasana for alms. Then it occurred to them, “It’s too early to wander for alms in Haliddavasana. Why don’t we go to the monastery of the wanderers of other religions?”
อถ โข เต ภิกฺขู เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทึสุฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ภิกฺขู อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ:
Then they went to the monastery of the wanderers of other religions, and exchanged greetings with the wanderers there. When the greetings and polite conversation were over, they sat down to one side. The wanderers said to them:
“สมโณ, อาวุโส, โคตโม สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ: ‘เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถฯ กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ กรุณาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถฯ มุทิตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ มุทิตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถฯ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถา'ติฯ
“Friends, the ascetic Gotama teaches his disciples like this: ‘Come, bhikkhus, give up these five hindrances, corruptions of the heart that weaken wisdom, and meditate spreading a heart full of love to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, spread a heart full of love to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. Meditate spreading a heart full of compassion to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, spread a heart full of compassion to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. Meditate spreading a heart full of rejoicing to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, spread a heart full of rejoicing to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will. Meditate spreading a heart full of equanimity to one direction, and to the second, and to the third, and to the fourth. In the same way above, below, across, everywhere, all around, they spread a heart full of equanimity to the whole world—abundant, expansive, limitless, free of enmity and ill will.’
มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสม: ‘เอถ ตุเมฺห, อาวุโส, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ …เป… กรุณาสหคเตน เจตสา … มุทิตาสหคเตน เจตสา … อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถา'ติฯ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส, โก อธิปฺปยาโส, กึ นานากรณํ สมณสฺส วา โคตมสฺส อมฺหากํ วา, ยทิทํ—ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนํ, อนุสาสนิยา วา อนุสาสนินฺ”ติ?
We too teach our disciples in just the same way. What, then, is the difference between the ascetic Gotama’s teaching and instruction and ours?”
อถ โข เต ภิกฺขู เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึสุ นปฺปฏิกฺโกสึสุฯ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมึสุ:
Those bhikkhus neither approved nor dismissed that statement of the wanderers of other religions. They got up from their seat, thinking:
“ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามา”ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู หลิทฺทวสเน ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ:
“We will learn the meaning of this statement from the Buddha himself.” Then, after the meal, when they returned from almsround, they went up to the Buddha, bowed, sat down to one side, and told him what had happened.
“อิธ มยํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย หลิทฺทวสเน ปิณฺฑาย ปวิสิมฺหฯ เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ: ‘อติปฺปโค โข ตาว หลิทฺทวสเน ปิณฺฑาย จริตุํฯ
ยนฺนูน มยํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺยามา'ติฯ อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิมฺห, อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิมฺหฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิมฺหฯ เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข อเมฺห, ภนฺเต, เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ:
‘สมโณ, อาวุโส, โคตโม สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ: “เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ …เป… กรุณาสหคเตน เจตสา …เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา …เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถา'ติฯ
มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสม: ‘เอถ ตุเมฺห, อาวุโส, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ …เป… กรุณาสหคเตน เจตสา …เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา …เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ; อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรถา'ติฯ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส, โก อธิปฺปยาโส, กึ นานากรณํ สมณสฺส วา โคตมสฺส อมฺหากํ วา, ยทิทํ, ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนํ, อนุสาสนิยา วา อนุสาสนินฺติ?
อถ โข มยํ, ภนฺเต, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิมฺห นปฺปฏิกฺโกสิมฺห, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิมฺห: ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามา'”ติฯ
“เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘กถํ ภาวิตา ปนาวุโส, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? กถํ ภาวิตา ปนาวุโส, กรุณาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? กถํ ภาวิตา ปนาวุโส, มุทิตาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? กถํ ภาวิตา ปนาวุโส, อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา'ติ? เอวํ ปุฏฺฐา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา น เจว สมฺปายิสฺสนฺติ, อุตฺตริญฺจ วิฆาตํ อาปชฺชิสฺสนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมึฯ นาหํ ตํ, ภิกฺขเว, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย, โย อิเมสํ ปญฺหานํ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย, อญฺญตฺร ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา อิโต วา ปน สุตฺวาฯ
“Bhikkhus, when wanderers of other religions say this, you should say to them: ‘But friends, how is the heart’s release by love developed? What is its destination, apex, fruit, and culmination? How is the heart’s release by compassion developed? What is its destination, apex, fruit, and end? How is the heart’s release by rejoicing developed? What is its destination, apex, fruit, and end? How is the heart’s release by equanimity developed? What is its destination, apex, fruit, and end?’ Questioned like this, the wanderers of other religions would be stumped, and, in addition, would get frustrated. Why is that? Because they’re out of their element. I don’t see anyone in this world—with its gods, Māras, and Brahmās, this population with its ascetics and brahmins, its gods and humans—who could provide a satisfying answer to these questions except for the Realized One or his disciple or someone who has heard it from them.
กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ …เป… เมตฺตาสหคตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึฯ โส สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน'ติ, อุเปกฺขโก จ ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน, สุภํ วา โข ปน วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สุภปรมาหํ, ภิกฺขเว, เมตฺตาเจโตวิมุตฺตึ วทามิ, อิธปญฺญสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตฯ
And how is the heart’s release by love developed? What is its destination, apex, fruit, and end? It’s when a bhikkhu develops the heart’s release by love together with the awakening factors of mindfulness, investigation of principles, energy, rapture, tranquility, immersion, and equanimity, which rely on seclusion, fading away, and cessation, and ripen as letting go. If they wish: ‘May I meditate perceiving the repulsive in the unrepulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate perceiving the unrepulsive in the repulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate perceiving the repulsive in the unrepulsive and the repulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate perceiving the unrepulsive in the repulsive and the unrepulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate staying equanimous, mindful and aware, rejecting both the repulsive and the unrepulsive,’ that’s what they do. The apex of the heart’s release by love is the beautiful, I say, for a bhikkhu who has not penetrated to a higher freedom.
กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, กรุณาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กรุณาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ …เป… กรุณาสหคตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึฯ โส สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ …เป… สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน'ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ สพฺพโส วา ปน รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส'ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อากาสานญฺจายตนปรมาหํ, ภิกฺขเว, กรุณาเจโตวิมุตฺตึ วทามิ, อิธปญฺญสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตฯ
And how is the heart’s release by compassion developed? What is its destination, apex, fruit, and end? It’s when a bhikkhu develops the heart’s release by compassion together with the awakening factors of mindfulness, investigation of principles, energy, rapture, tranquility, immersion, and equanimity, which rely on seclusion, fading away, and cessation, and ripen as letting go. If they wish: ‘May I meditate perceiving the repulsive in the unrepulsive,’ that’s what they do. … If they wish: ‘May I meditate staying equanimous, mindful and aware, rejecting both the repulsive and the unrepulsive,’ that’s what they do. Or else, going totally beyond perceptions of form, with the ending of perceptions of impingement, not focusing on perceptions of diversity, aware that ‘space is infinite’, they enter and remain in the dimension of infinite space. The apex of the heart’s release by compassion is the dimension of infinite space, I say, for a bhikkhu who has not penetrated to a higher freedom.
กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, มุทิตาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มุทิตาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ …เป… มุทิตาสหคตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึฯ โส สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ …เป… สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน'ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ สพฺพโส วา ปน อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณนฺ'ติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิญฺญาณญฺจายตนปรมาหํ, ภิกฺขเว, มุทิตาเจโตวิมุตฺตึ วทามิ, อิธปญฺญสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโตฯ
And how is the heart’s release by rejoicing developed? What is its destination, apex, fruit, and end? It’s when a bhikkhu develops the heart’s release by rejoicing together with the awakening factors of mindfulness, investigation of principles, energy, rapture, tranquility, immersion, and equanimity, which rely on seclusion, fading away, and cessation, and ripen as letting go. If they wish: ‘May I meditate perceiving the repulsive in the unrepulsive,’ that’s what they do. … If they wish: ‘May I meditate staying equanimous, mindful and aware, rejecting both the repulsive and the unrepulsive,’ that’s what they do. Or else, going totally beyond the dimension of infinite space, aware that ‘consciousness is infinite’, they enter and remain in the dimension of infinite consciousness. The apex of the heart’s release by rejoicing is the dimension of infinite consciousness, I say, for a bhikkhu who has not penetrated to a higher freedom.
กถํ ภาวิตา จ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ, กิงฺคติกา โหติ, กึปรมา, กึผลา, กึปริโยสานา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุเปกฺขาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ …เป… อุเปกฺขาสหคตํ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึฯ โส สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ'ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ ‘อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน'ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ สพฺพโส วา ปน วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี'ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อากิญฺจญฺญายตนปรมาหํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺตึ วทามิ, อิธปญฺญสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริวิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโต”ติฯ
And how is the heart’s release by equanimity developed? What is its destination, apex, fruit, and end? It’s when a bhikkhu develops the heart’s release by equanimity together with the awakening factors of mindfulness, investigation of principles, energy, rapture, tranquility, immersion, and equanimity, which rely on seclusion, fading away, and cessation, and ripen as letting go. If they wish: ‘May I meditate perceiving the repulsive in the unrepulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate perceiving the unrepulsive in the repulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate perceiving the repulsive in the unrepulsive and the repulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate perceiving the unrepulsive in the repulsive and the unrepulsive,’ that’s what they do. If they wish: ‘May I meditate staying equanimous, mindful and aware, rejecting both the repulsive and the unrepulsive,’ that’s what they do. Or else, going totally beyond the dimension of infinite consciousness, aware that ‘there is nothing at all’, they enter and remain in the dimension of nothingness. The apex of the heart’s release by equanimity is the dimension of nothingness, I say, for a bhikkhu who has not penetrated to a higher freedom.”
จตุตฺถํฯ
The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]