Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation |
สํยุตฺต นิกาย ๒๒ฯ๖๒
The Related Suttas Collection 22.62
๖ฯ อุปยวคฺค
6. Involvement
นิรุตฺติปถสุตฺต
The Scope of Language
สาวตฺถินิทานํฯ
At Sāvatthī.
“ตโยเม, ภิกฺขเว, นิรุตฺติปถา อธิวจนปถา ปญฺญตฺติปถา อสงฺกิณฺณา อสงฺกิณฺณปุพฺพา, น สงฺกียนฺติ, น สงฺกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺฐา สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิญฺญูหิฯ กตเม ตโย? ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ ‘อโหสี'ติ ตสฺส สงฺขา, ‘อโหสี'ติ ตสฺส สมญฺญา, ‘อโหสี'ติ ตสฺส ปญฺญตฺติ; น ตสฺส สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘ภวิสฺสตี'ติฯ
“Bhikkhus, there are these three scopes of language, terminology, and descriptions. They’re uncorrupted, as they have been since the beginning. They’re not being corrupted now, nor will they be. Sensible ascetics and brahmins don’t look down on them. What three? When form has passed, ceased, and perished, its designation, label, and description is ‘was’. It’s not ‘is’ or ‘will be’.
ยา เวทนา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา ‘อโหสี'ติ ตสฺสา สงฺขา, ‘อโหสี'ติ ตสฺสา สมญฺญา, ‘อโหสี'ติ ตสฺสา ปญฺญตฺติ; น ตสฺสา สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น ตสฺสา สงฺขา ‘ภวิสฺสตี'ติฯ
When feeling …
ยา สญฺญา …
perception …
เย สงฺขารา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา ‘อเหสุนฺ'ติ เตสํ สงฺขา, ‘อเหสุนฺ'ติ เตสํ สมญฺญา, ‘อเหสุนฺ'ติ เตสํ ปญฺญตฺติ; น เตสํ สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น เตสํ สงฺขา ‘ภวิสฺสนฺตี'ติฯ
choices …
ยํ วิญฺญาณํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ, ‘อโหสี'ติ ตสฺส สงฺขา, ‘อโหสี'ติ ตสฺส สมญฺญา, ‘อโหสี'ติ ตสฺส ปญฺญตฺติ; น ตสฺส สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘ภวิสฺสตี'ติฯ
consciousness has passed, ceased, and perished, its designation, label, and description is ‘was’. It’s not ‘is’ or ‘will be’.
ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ อชาตํ อปาตุภูตํ, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺส สงฺขา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺส สมญฺญา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺส ปญฺญตฺติ; น ตสฺส สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘อโหสี'ติฯ
When form is not yet born, and has not yet appeared, its designation, label, and description is ‘will be’. It’s not ‘is’ or ‘was’.
ยา เวทนา อชาตา อปาตุภูตา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺสา สงฺขา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺสา สมญฺญา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺสา ปญฺญตฺติ; น ตสฺสา สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น ตสฺสา สงฺขา ‘อโหสี'ติฯ
When feeling …
ยา สญฺญา …
perception …
เย สงฺขารา อชาตา อปาตุภูตา, ‘ภวิสฺสนฺตี'ติ เตสํ สงฺขา, ‘ภวิสฺสนฺตี'ติ เตสํ สมญฺญา, ‘ภวิสฺสนฺตี'ติ เตสํ ปญฺญตฺติ; น เตสํ สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น เตสํ สงฺขา ‘อเหสุนฺ'ติฯ
choices …
ยํ วิญฺญาณํ อชาตํ อปาตุภูตํ, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺส สงฺขา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺส สมญฺญา, ‘ภวิสฺสตี'ติ ตสฺส ปญฺญตฺติ; น ตสฺส สงฺขา ‘อตฺถี'ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘อโหสี'ติฯ
consciousness is not yet born, and has not yet appeared, its designation, label, and description is ‘will be’. It’s not ‘is’ or ‘was’.
ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ ชาตํ ปาตุภูตํ, ‘อตฺถี'ติ ตสฺส สงฺขา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺส สมญฺญา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺส ปญฺญตฺติ; น ตสฺส สงฺขา ‘อโหสี'ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘ภวิสฺสตี'ติฯ
When form has been born, and has appeared, its designation, label, and description is ‘is’. It’s not ‘was’ or ‘will be’.
ยา เวทนา ชาตา ปาตุภูตา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺสา สงฺขา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺสา สมญฺญา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺสา ปญฺญตฺติ; น ตสฺสา สงฺขา ‘อโหสี'ติ, น ตสฺสา สงฺขา ‘ภวิสฺสตี'ติฯ
When feeling …
ยา สญฺญา …
perception …
เย สงฺขารา ชาตา ปาตุภูตา, ‘อตฺถี'ติ เตสํ สงฺขา, ‘อตฺถี'ติ เตสํ สมญฺญา, ‘อตฺถี'ติ เตสํ ปญฺญตฺติ; น เตสํ สงฺขา ‘อเหสุนฺ'ติ, น เตสํ สงฺขา, ‘ภวิสฺสนฺตี'ติฯ
choices …
ยํ วิญฺญาณํ ชาตํ ปาตุภูตํ, ‘อตฺถี'ติ ตสฺส สงฺขา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺส สมญฺญา, ‘อตฺถี'ติ ตสฺส ปญฺญตฺติ; น ตสฺส สงฺขา ‘อโหสี'ติ, น ตสฺส สงฺขา ‘ภวิสฺสตี'ติฯ
consciousness has been born, and has appeared, its designation, label, and description is ‘is’. It’s not ‘was’ or ‘will be’.
อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย นิรุตฺติปถา อธิวจนปถา ปญฺญตฺติปถา อสงฺกิณฺณา อสงฺกิณฺณปุพฺพา, น สงฺกียนฺติ, น สงฺกียิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺฐา สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิญฺญูหิฯ
These are the three scopes of language, terminology, and descriptions. They’re uncorrupted, as they have been since the beginning. They’re not being corrupted now, nor will they be. Sensible ascetics and brahmins don’t look down on them.
เยปิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ อุกฺกลา วสฺสภญฺญา อเหตุกวาทา อกิริยวาทา นตฺถิกวาทา, เตปิเม ตโย นิรุตฺติปเถ อธิวจนปเถ ปญฺญตฺติปเถ น ครหิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ อมญฺญึสุฯ ตํ กิสฺส เหตุ? นินฺทาฆฏฺฏนพฺยาโรเสาปารมฺภภยา”ติฯ
Even those wanderers of the past, Vassa and Bhañña of Ukkalā, who taught the doctrines of no-cause, inaction, and nihilism, didn’t imagine that these three scopes of language should be criticized or rejected. Why is that? For fear of blame, attack, and condemnation.”
มชฺฌิมปณฺณาสกสฺส อุปยวคฺโค ปฐโมฯ
ตสฺสุทฺทานํ
อุปโย พีชํ อุทานํ, อุปาทานปริวตฺตํ; สตฺตฏฺฐานญฺจ สมฺพุทฺโธ, ปญฺจมหาลิ อาทิตฺตา; วคฺโค นิรุตฺติปเถน จาติฯ
The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]