Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation |
สํยุตฺต นิกาย ๕๕ฯ๘
The Related Suttas Collection 55.8
๑ฯ เวฬุทฺวารวคฺค
1. At Bamboo Gate
ปฐมคิญฺชกาวสถสุตฺต
In the Brick Hall (1st)
เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา ญาติเก วิหรติ คิญฺชกาวสเถฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ:
So I have heard. At one time the Buddha was staying at Ñātika in the brick house. Then Venerable Ānanda went up to the Buddha, bowed, sat down to one side, and said to him:
“สาโฬฺห นาม, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต; ตสฺส กา คติ โก อภิสมฺปราโย? นนฺทา นาม, ภนฺเต, ภิกฺขุนี กาลงฺกตา; ตสฺสา กา คติ โก อภิสมฺปราโย? สุทตฺโต นาม, ภนฺเต, อุปาสโก กาลงฺกโต; ตสฺส กา คติ โก อภิสมฺปราโย? สุชาตา นาม, ภนฺเต, อุปาสิกา กาลงฺกตา; ตสฺสา กา คติ, โก อภิสมฺปราโย”ติ?
“Sir, the monk named Sāḷha has passed away. Where has he been reborn in his next life? The nun named Nandā, the layman named Sudatta, and the laywoman named Sujātā have passed away. Where have they been reborn in the next life?”
“สาโฬฺห, อานนฺท, ภิกฺขุ กาลงฺกโต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ
“Ānanda, the monk Sāḷha passed away having realized the undefiled freedom of heart and freedom by wisdom in this very life, having realized it with his own insight due to the ending of defilements.
นนฺทา, อานนฺท, ภิกฺขุนี กาลงฺกตา ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินี อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกาฯ
The nun Nandā passed away having ended the five lower fetters. She’s been reborn spontaneously, and will be extinguished there, not liable to return from that world.
สุทตฺโต, อานนฺท, อุปาสโก กาลงฺกโต ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี; สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสติฯ
The layman Sudatta passed away having ended three fetters, and weakened greed, hate, and delusion. He’s a once-returner; he will come back to this world once only, then make an end of suffering.
สุชาตา, อานนฺท, อุปาสิกา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณาฯ
The laywoman Sujātā passed away having ended three fetters. She’s a stream-enterer, not liable to be reborn in the underworld, bound for awakening.
อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, อานนฺท, ยํ มนุสฺสภูโต กาลํ กเรยฺย; ตสฺมึ ตสฺมิญฺเจ มํ กาลงฺกเต อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิสฺสถฯ วิเหสา เปสา, อานนฺท, อสฺส ตถาคตสฺสฯ ตสฺมาติหานนฺท, ธมฺมาทาสํ นาม ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ; เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย: ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ'ฯ
It’s hardly surprising that a human being should pass away. But if you should come and ask me about it each and every time someone dies that would be a bother for me. So Ānanda, I will teach you the explanation of the Dhamma called ‘the mirror of the teaching’. A noble disciple who has this may declare of themselves: ‘I’ve finished with rebirth in hell, the animal realm, and the ghost realm. I’ve finished with all places of loss, bad places, the underworld. I am a stream-enterer! I’m not liable to be reborn in the underworld, and am bound for awakening.’
กตโม จ โส, อานนฺท, ธมฺมาทาโส ธมฺมปริยาโย; เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย: ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ'?
And what is that mirror of the teaching?
อิธ, อานนฺท, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ—อิติปิ โส ภควา …เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติฯ ธมฺเม …เป… สงฺเฆ …เป… อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ …เป… สมาธิสํวตฺตนิเกหิฯ อยํ โข โส, อานนฺท, ธมฺมาทาโส ธมฺมปริยาโย; เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย: ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ'”ติฯ
It’s when a noble disciple has experiential confidence in the Buddha … the teaching … the Saṅgha … And they have the ethical conduct loved by the noble ones … leading to immersion. This is that mirror of the teaching. A noble disciple who has this may declare of themselves: ‘I’ve finished with rebirth in hell, the animal realm, and the ghost realm. I’ve finished with all places of loss, bad places, the underworld. I am a stream-enterer! I’m not liable to be reborn in the underworld, and am bound for awakening.’”
อฏฺฐมํฯ
(ตีณิปิ สุตฺตนฺตานิ เอกนิทานานิฯ)
(The following two discourses have the same setting.)
The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]