Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation

    สํยุตฺต นิกาย ๒ฯ๒๙

    The Related Suttas Collection 2.29

    ๓ฯ นานาติตฺถิยวคฺค

    3. Various Sectarians

    สุสิมสุตฺต

    With Susīma

    สาวตฺถินิทานํฯ

    At Sāvatthī.

    อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ: “ตุยฺหมฺปิ โน, อานนฺท, สาริปุตฺโต รุจฺจตี”ติ?

    Then Venerable Ānanda went up to the Buddha, bowed, and sat down to one side. The Buddha said to him, “Ānanda, do you like Sāriputta?”

    “กสฺส หิ นาม, ภนฺเต, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส อายสฺมา สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺย? ปณฺฑิโต, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ มหาปญฺโญ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ ปุถุปญฺโญ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ หาสปญฺโญ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ ชวนปญฺโญ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ ติกฺขปญฺโญ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ นิพฺเพธิกปญฺโญ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ อปฺปิจฺโฉ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ สนฺตุฏฺโฐ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ ปวิวิตฺโต, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ อสํสฏฺโฐ, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ อารทฺธวีริโย, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ วตฺตา, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ วจนกฺขโม, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ โจทโก, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ ปาปครหี, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ กสฺส หิ นาม, ภนฺเต, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส อายสฺมา สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺยา”ติ?

    “Sir, who on earth would not like Venerable Sāriputta unless they’re a fool, a hater, delusional, or mentally deranged? Venerable Sāriputta is astute, he has great wisdom, widespread wisdom, laughing wisdom, swift wisdom, sharp wisdom, and penetrating wisdom. He has few wishes, he’s content, secluded, aloof, and energetic. He gives advice and accepts advice; he accuses and criticizes wickedness. Who on earth would not like Venerable Sāriputta unless they’re a fool, a hater, delusional, or mentally deranged?”

    “เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺทฯ กสฺส หิ นาม, อานนฺท, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺย? ปณฺฑิโต, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ มหาปญฺโญ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ ปุถุปญฺโญ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ หาสปญฺโญ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ ชวนปญฺโญ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ ติกฺขปญฺโญ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ นิพฺเพธิกปญฺโญ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ อปฺปิจฺโฉ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ สนฺตุฏฺโฐ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ ปวิวิตฺโต, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ อสํสฏฺโฐ, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ อารทฺธวีริโย, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ วตฺตา, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ วจนกฺขโม, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ โจทโก, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ ปาปครหี, อานนฺท, สาริปุตฺโตฯ กสฺส หิ นาม, อานนฺท, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺยา”ติ?

    “That’s so true, Ānanda! That’s so true! Who on earth would not like Venerable Sāriputta unless they’re a fool, a hater, delusional, or mentally deranged?” And the Buddha repeated all of Ānanda’s terms of praise.

    อถ โข สุสิโม เทวปุตฺโต อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วณฺเณ ภญฺญมาเน มหติยา เทวปุตฺตปริสาย ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข สุสิโม เทวปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ:

    While this praise of Sāriputta was being spoken, the god Susīma approached the Buddha, escorted by a large assembly of gods. He bowed, stood to one side, and said to him:

    “เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคตฯ กสฺส หิ นาม, ภนฺเต, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส อายสฺมา สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺย? ปณฺฑิโต, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ มหาปญฺโญ, ภนฺเต, ปุถุปญฺโญ, ภนฺเต, หาสปญฺโญ, ภนฺเต, ชวนปญฺโญ, ภนฺเต, ติกฺขปญฺโญ, ภนฺเต, นิพฺเพธิกปญฺโญ, ภนฺเต, อปฺปิจฺโฉ, ภนฺเต, สนฺตุฏฺโฐ, ภนฺเต, ปวิวิตฺโต, ภนฺเต, อสํสฏฺโฐ, ภนฺเต, อารทฺธวีริโย, ภนฺเต, วตฺตา, ภนฺเต, วจนกฺขโม, ภนฺเต, โจทโก, ภนฺเต, ปาปครหี, ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโตฯ กสฺส หิ นาม, ภนฺเต, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส อายสฺมา สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺย? อหมฺปิ หิ, ภนฺเต, ยญฺญเทว เทวปุตฺตปริสํ อุปสงฺกมึ, เอตเทว พหุลํ สทฺทํ สุณามิ: ‘ปณฺฑิโต อายสฺมา สาริปุตฺโต; มหาปญฺโญ อายสฺมา, ปุถุปญฺโญ อายสฺมา, หาสปญฺโญ อายสฺมา, ชวนปญฺโญ อายสฺมา, ติกฺขปญฺโญ อายสฺมา, นิพฺเพธิกปญฺโญ อายสฺมา, อปฺปิจฺโฉ อายสฺมา, สนฺตุฏฺโฐ อายสฺมา, ปวิวิตฺโต อายสฺมา, อสํสฏฺโฐ อายสฺมา, อารทฺธวีริโย อายสฺมา, วตฺตา อายสฺมา, วจนกฺขโม อายสฺมา, โจทโก อายสฺมา, ปาปครหี อายสฺมา สาริปุตฺโต'ติฯ กสฺส หิ นาม, ภนฺเต, อพาลสฺส อทุฏฺฐสฺส อมูฬฺหสฺส อวิปลฺลตฺถจิตฺตสฺส อายสฺมา สาริปุตฺโต น รุจฺเจยฺยา”ติ?

    “That’s so true, Blessed One! That’s so true, Holy One! Who on earth would not like Venerable Sāriputta unless they’re a fool, a hater, delusional, or mentally deranged?” And he too repeated all the terms of praise of Sāriputta, adding, “For I too, sir, whenever I go to an assembly of gods, frequently hear the same terms of praise.”

    อถ โข สุสิมสฺส เทวปุตฺตสฺส เทวปุตฺตปริสา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตมนา ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา อุจฺจาวจา วณฺณนิภา อุปทํเสติฯ

    While this praise of Sāriputta was being spoken, the gods of Susīma’s assembly—uplifted and overjoyed, full of rapture and happiness—generated a rainbow of bright colors.

    เสยฺยถาปิ นาม มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺฐํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมวํ สุสิมสฺส เทวปุตฺตสฺส เทวปุตฺตปริสา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตมนา ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา อุจฺจาวจา วณฺณนิภา อุปทํเสติฯ

    Suppose there was a beryl gem that was naturally beautiful, eight-faceted, well-worked. When placed on a cream rug it would shine and glow and radiate. In the same way, the gods of Susīma’s assembly generated a rainbow of bright colors.

    เสยฺยถาปิ นาม นิกฺขํ ชมฺโพนทํ ทกฺขกมฺมารปุตฺเตากฺกามุขสุกุสลสมฺปหฏฺฐํ ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตํ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมวํ สุสิมสฺส เทวปุตฺตสฺส เทวปุตฺตปริสา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตมนา ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา อุจฺจาวจา วณฺณนิภา อุปทํเสติฯ

    Suppose there was a pendant of river gold, fashioned by a deft smith, well wrought in the forge. When placed on a cream rug it would shine and glow and radiate. In the same way, the gods of Susīma’s assembly generated a rainbow of bright colors.

    เสยฺยถาปิ นาม สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ โอสธิตารกา ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมวํ สุสิมสฺส เทวปุตฺตสฺส เทวปุตฺตปริสา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตมนา ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา อุจฺจาวจา วณฺณนิภา อุปทํเสติฯ

    Suppose that after the rainy season the sky was clear and cloudless. At the crack of dawn, the Morning Star shines and glows and radiates. In the same way, the gods of Susīma’s assembly generated a rainbow of bright colors.

    เสยฺยถาปิ นาม สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน สพฺพํ อากาสคตํ ตมคตํ อภิวิหจฺจ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ; เอวเมวํ สุสิมสฺส เทวปุตฺตสฺส เทวปุตฺตปริสา อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตมนา ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา อุจฺจาวจา วณฺณนิภา อุปทํเสติฯ

    Suppose that after the rainy season the sky was clear and cloudless. As the sun rises, it would dispel all the darkness from the sky as it shines and glows and radiates. In the same way, the gods of Susīma’s assembly generated a rainbow of bright colors.

    อถ โข สุสิโม เทวปุตฺโต อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อารพฺภ ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ:

    Then the god Susīma recited this verse about Venerable Sāriputta in the Buddha’s presence:

    “ปณฺฑิโตติ สมญฺญาโต, สาริปุตฺโต อโกธโน; อปฺปิจฺโฉ โสรโต ทนฺโต, สตฺถุวณฺณาภโต อิสี”ติฯ

    “He’s considered astute, Sāriputta, free of anger. Few in wishes, sweet, tamed, the seer shines in the Teacher’s praise!”

    อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อารพฺภ สุสิมํ เทวปุตฺตํ คาถาย ปจฺจภาสิ:

    Then the Buddha replied to Susīma with this verse about Venerable Sāriputta:

    “ปณฺฑิโตติ สมญฺญาโต, สาริปุตฺโต อโกธโน; อปฺปิจฺโฉ โสรโต ทนฺโต, กาลํ กงฺขติ สุทนฺโต”ติฯ

    “He’s considered astute, Sāriputta, free of anger. Few in wishes, sweet, tamed; developed and well-tamed, he bides his time.”





    The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact