Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Majjhima Nikāya, English translation |
มชฺฌิม นิกาย ๑๕๑
The Middle-Length Suttas Collection 151
ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺต
The Purification of Alms
เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ
So I have heard. At one time the Buddha was staying near Rājagaha, in the Bamboo Grove, the squirrels’ feeding ground.
อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ: “วิปฺปสนฺนานิ โข เต, สาริปุตฺต, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโตฯ กตเมน โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, วิหาเรน เอตรหิ พหุลํ วิหรสี”ติ?
Then in the late afternoon, Sāriputta came out of retreat and went to the Buddha. He bowed and sat down to one side. The Buddha said to him, “Sāriputta, your faculties are so very clear, and your complexion is pure and bright. What kind of meditation are you usually practicing these days?”
“สุญฺญตาวิหาเรน โข อหํ, ภนฺเต, เอตรหิ พหุลํ วิหรามี”ติฯ
“Sir, these days I usually practice the meditation on emptiness.”
“สาธุ สาธุ, สาริปุตฺตฯ มหาปุริสวิหาเรน กิร ตฺวํ, สาริปุตฺต, เอตรหิ พหุลํ วิหรสิฯ มหาปุริสวิหาโร เอโส, สาริปุตฺต, ยทิทํ—สุญฺญตาฯ
“Good, good, Sāriputta! It seems you usually practice the meditation of a great man. For emptiness is the meditation of a great man.
ตสฺมาติห, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สเจ อากงฺเขยฺย: ‘สุญฺญตาวิหาเรน พหุลํ วิหเรยฺยนฺ'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิญฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ นุ โข เม ตตฺถ จกฺขุวิญฺเญเยฺยสุ รูเปสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิญฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ เม ตตฺถ จกฺขุวิญฺเญเยฺยสุ รูเปสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิญฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, นตฺถิ เม ตตฺถ จกฺขุวิญฺเญเยฺยสุ รูเปสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Now, a bhikkhu might wish: ‘May I usually practice the meditation on emptiness.’ So they should reflect: ‘Along the path that I went for alms, or in the place I wandered for alms, or along the path that I returned from alms, was there any desire or greed or hate or delusion or repulsion in my heart for sights known by the eye?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that there was such desire or greed or hate or delusion or repulsion in their heart, they should make an effort to give up those unskillful qualities. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that there was no such desire or greed or hate or delusion or repulsion in their heart, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิญฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ นุ โข เม ตตฺถ โสตวิญฺเญเยฺยสุ สทฺเทสุ …เป… ฆานวิญฺเญเยฺยสุ คนฺเธสุ … ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยสุ รเสสุ … กายวิญฺเญเยฺยสุ โผฏฺฐพฺเพสุ … มโนวิญฺเญเยฺยสุ ธมฺเมสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิญฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, อตฺถิ เม ตตฺถ มโนวิญฺเญเยฺยสุ ธมฺเมสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตสํเยว ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘เยน จาหํ มคฺเคน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ, ยสฺมิญฺจ ปเทเส ปิณฺฑาย อจรึ, เยน จ มคฺเคน คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมึ, นตฺถิ เม ตตฺถ มโนวิญฺเญเยฺยสุ ธมฺเมสุ ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา โมโห วา ปฏิฆํ วาปิ เจตโส'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Along the path that I went for alms, or in the place I wandered for alms, or along the path that I returned from alms, was there any desire or greed or hate or delusion or repulsion in my heart for sounds known by the ear … smells known by the nose … tastes known by the tongue … touches known by the body … thoughts known by the mind?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that there was such desire or greed or hate or delusion or repulsion in their heart, they should make an effort to give up those unskillful qualities. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that there was no such desire or greed or hate or delusion or repulsion in their heart, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ปหีนา นุ โข เม ปญฺจ กามคุณา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อปฺปหีนา โข เม ปญฺจ กามคุณา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปญฺจนฺนํ กามคุณานํ ปหานาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ปหีนา โข เม ปญฺจ กามคุณา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I given up the five kinds of sensual stimulation?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have not given them up, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have given them up, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ปหีนา นุ โข เม ปญฺจ นีวรณา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อปฺปหีนา โข เม ปญฺจ นีวรณา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปญฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ปหีนา โข เม ปญฺจ นีวรณา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I given up the five hindrances?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have not given them up, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have given them up, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ปริญฺญาตา นุ โข เม ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อปริญฺญาตา โข เม ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปริญฺญาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ปริญฺญาตา โข เม ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I completely understood the five grasping aggregates?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have not completely understood them, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have completely understood them, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตา นุ โข เม จตฺตาโร สติปฏฺฐานา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตา โข เม จตฺตาโร สติปฏฺฐานา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา จตุนฺนํ สติปฏฺฐานานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตา โข เม จตฺตาโร สติปฏฺฐานา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I developed the four kinds of mindfulness meditation?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they haven’t developed them, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have developed them, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตา นุ โข เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตา โข เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตา โข เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตา นุ โข เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตา โข เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตา โข เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตานิ นุ โข เม ปญฺจินฺทฺริยานี'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตานิ โข เม ปญฺจินฺทฺริยานี'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปญฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตานิ โข เม ปญฺจินฺทฺริยานี'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตานิ นุ โข เม ปญฺจ พลานี'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตานิ โข เม ปญฺจ พลานี'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา ปญฺจนฺนํ พลานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตานิ โข เม ปญฺจ พลานี'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตา นุ โข เม สตฺต โพชฺฌงฺคา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตา โข เม สตฺต โพชฺฌงฺคา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตา โข เม สตฺต โพชฺฌงฺคา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิโต นุ โข เม อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิโต โข เม อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อริยสฺส อฏฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิโต โข เม อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I developed the four right efforts … the four bases of psychic power … the five faculties … the five powers … the seven awakening factors … the noble eightfold path?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they haven’t developed it, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have developed it, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘ภาวิตา นุ โข เม สมโถ จ วิปสฺสนา จา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อภาวิตา โข เม สมโถ จ วิปสฺสนา จา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา สมถวิปสฺสนานํ ภาวนาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘ภาวิตา โข เม สมโถ จ วิปสฺสนา จา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I developed serenity and discernment?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they haven’t developed them, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have developed them, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
ปุน จปรํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขิตพฺพํ: ‘สจฺฉิกตา นุ โข เม วิชฺชา จ วิมุตฺติ จา'ติ? สเจ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘อสจฺฉิกตา โข เม วิชฺชา จ วิมุตฺติ จา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา วิชฺชาย วิมุตฺติยา สจฺฉิกิริยาย วายมิตพฺพํฯ สเจ ปน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ ชานาติ: ‘สจฺฉิกตา โข เม วิชฺชา จ วิมุตฺติ จา'ติ, เตน, สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา เตเนว ปีติปาโมชฺเชน วิหาตพฺพํ อโหรตฺตานุสิกฺขินา กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ
Furthermore, a bhikkhu should reflect: ‘Have I realized knowledge and freedom?’ Suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they haven’t realized them, they should make an effort to do so. But suppose that, upon checking, a bhikkhu knows that they have realized them, they should meditate with rapture and joy, training day and night in skillful qualities.
เย หิ เกจิ, สาริปุตฺต, อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสุํ, สพฺเพ เต เอวเมว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสุํฯ เยปิ หิ เกจิ, สาริปุตฺต, อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสฺสนฺติ, สพฺเพ เต เอวเมว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสฺสนฺติฯ เยปิ หิ เกจิ, สาริปุตฺต, เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธนฺติ, สพฺเพ เต เอวเมว ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธนฺติฯ ตสฺมาติห, สาริปุตฺต, ‘ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริโสเธสฺสามา'ติ—เอวญฺหิ โว, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพนฺ”ติฯ
Whether in the past, future, or present, all those who purify their almsfood do so by continually checking in this way. So, Sāriputta, you should all train like this: ‘We shall purify our almsfood by continually checking.’”
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
That is what the Buddha said. Satisfied, Venerable Sāriputta was happy with what the Buddha said.
ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ นวมํฯ
The authoritative text of the Majjhima Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]