Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation |
สํยุตฺต นิกาย ๔๗ฯ๑๐
The Related Suttas Collection 47.10
๑ฯ อมฺพปาลิวคฺค
1. In Ambapālī’s Mango Grove
ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺต
The Nuns’ Quarters
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ:
Then Venerable Ānanda robed up in the morning and, taking his bowl and robe, went to the nuns’ quarters, and sat down on the seat spread out. Then several nuns went up to Venerable Ānanda bowed, sat down to one side, and said to him:
“อิธ, ภนฺเต อานนฺท, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย จตูสุ สติปฏฺฐาเนสุ สุปฺปติฏฺฐิตจิตฺตา วิหรนฺติโย อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานนฺตี”ติฯ
“Honorable Ānanda, several nuns meditate with their minds firmly established in the four kinds of mindfulness meditation. They have realized a higher distinction than they had before.”
“เอวเมตํ, ภคินิโย, เอวเมตํ, ภคินิโยฯ โย หิ โกจิ, ภคินิโย, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตูสุ สติปฏฺฐาเนสุ สุปฺปติฏฺฐิตจิตฺโต วิหรติ, ตเสฺสตํ ปาฏิกงฺขํ: ‘อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานิสฺสตี'”ติฯ
“That’s how it is, sisters! That’s how it is, sisters! Any monk or nun who meditates with their mind firmly established in the four kinds of mindfulness meditation can expect to realize a higher distinction than they had before.”
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ตา ภิกฺขุนิโย ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ:
Then Ānanda educated, encouraged, fired up, and inspired those nuns with a Dhamma talk, after which he got up from his seat and left. Then Ānanda wandered for alms in Sāvatthī. After the meal, on his return from almsround, he went to the Buddha, bowed, sat down to one side, and told him what had happened.
“อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทึฯ อถ โข, ภนฺเต, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข, ภนฺเต, ตา ภิกฺขุนิโย มํ เอตทโวจุํ: ‘อิธ, ภนฺเต อานนฺท, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย จตูสุ สติปฏฺฐาเนสุ สุปฺปติฏฺฐิตจิตฺตา วิหรนฺติโย อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานนฺตี'ติฯ เอวํ วุตฺตาหํ, ภนฺเต, ตา ภิกฺขุนิโย เอตทโวจํ: ‘เอวเมตํ, ภคินิโย, เอวเมตํ, ภคินิโยฯ โย หิ โกจิ, ภคินิโย, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตูสุ สติปฏฺฐาเนสุ สุปฺปติฏฺฐิตจิตฺโต วิหรติ, ตเสฺสตํ ปาฏิกงฺขํ—อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานิสฺสตี'”ติฯ
“เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺทฯ โย หิ โกจิ, อานนฺท, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตูสุ สติปฏฺฐาเนสุ สุปฺปติฏฺฐิตจิตฺโต วิหรติ, ตเสฺสตํ ปาฏิกงฺขํ: ‘อุฬารํ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานิสฺสติ'ฯ
“That’s so true, Ānanda! That’s so true! Any monk or nun who meditates with their mind firmly established in the four kinds of mindfulness meditation can expect to realize a higher distinction than they had before.
กตเมสุ จตูสุ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ ตสฺส กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต กายารมฺมโณ วา อุปฺปชฺชติ กายสฺมึ ปริฬาโห, เจตโส วา ลีนตฺตํ, พหิทฺธา วา จิตฺตํ วิกฺขิปติฯ เตนานนฺท, ภิกฺขุนา กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิตฺเต จิตฺตํ ปณิทหิตพฺพํฯ ตสฺส กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิตฺเต จิตฺตํ ปณิทหโต ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทยติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ โส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ: ‘ยสฺส ขฺวาหํ อตฺถาย จิตฺตํ ปณิทหึ, โส เม อตฺโถ อภินิปฺผนฺโนฯ หนฺท ทานิ ปฏิสํหรามี'ติฯ โส ปฏิสํหรติ เจว น จ วิตกฺเกติ น จ วิจาเรติฯ ‘อวิตกฺโกมฺหิ อวิจาโร, อชฺฌตฺตํ สติมา สุขมสฺมี'ติ ปชานาติฯ
What four? It’s when a bhikkhu meditates by observing an aspect of the body—keen, aware, and mindful, rid of covetousness and displeasure for the world. As they meditate observing an aspect of the body, based on the body there arises physical tension, or mental sluggishness, or the mind is externally scattered. That bhikkhu should direct their mind towards an inspiring foundation. As they do so, joy springs up. Being joyful, rapture springs up. When the mind is full of rapture, the body becomes tranquil. When the body is tranquil, one feels bliss. And when blissful, the mind becomes immersed in samādhi. Then they reflect: ‘I have accomplished the goal for which I directed my mind. Let me now pull back.’ They pull back, and neither place the mind nor keep it connected. They understand: ‘I’m neither placing the mind nor keeping it connected. Mindful within myself, I’m happy.’
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เวทนาสุ …เป… จิตฺเต …เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ ตสฺส ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสิโน วิหรโต ธมฺมารมฺมโณ วา อุปฺปชฺชติ กายสฺมึ ปริฬาโห, เจตโส วา ลีนตฺตํ, พหิทฺธา วา จิตฺตํ วิกฺขิปติฯ เตนานนฺท, ภิกฺขุนา กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิตฺเต จิตฺตํ ปณิทหิตพฺพํฯ ตสฺส กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิตฺเต จิตฺตํ ปณิทหโต ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทยติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ โส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ: ‘ยสฺส ขฺวาหํ อตฺถาย จิตฺตํ ปณิทหึ, โส เม อตฺโถ อภินิปฺผนฺโนฯ หนฺท ทานิ ปฏิสํหรามี'ติฯ โส ปฏิสํหรติ เจว น จ วิตกฺเกติ น จ วิจาเรติฯ ‘อวิตกฺโกมฺหิ อวิจาโร, อชฺฌตฺตํ สติมา สุขมสฺมี'ติ ปชานาติฯ เอวํ โข, อานนฺท, ปณิธาย ภาวนา โหติฯ
Furthermore, a bhikkhu meditates by observing an aspect of feelings … mind … principles—keen, aware, and mindful, rid of covetousness and displeasure for the world. As they meditate observing an aspect of principles, based on principles there arises physical tension, or mental sluggishness, or the mind is externally scattered. That bhikkhu should direct their mind towards an inspiring foundation. As they do so, joy springs up. Being joyful, rapture springs up. When the mind is full of rapture, the body becomes tranquil. When the body is tranquil, one feels bliss. And when blissful, the mind becomes immersed in samādhi. Then they reflect: ‘I have accomplished the goal for which I directed my mind. Let me now pull back.’ They pull back, and neither place the mind nor keep it connected. They understand: ‘I’m neither placing the mind nor keeping it connected. Mindful within myself, I’m happy.’ That’s how there is directed development.
กถญฺจานนฺท, อปฺปณิธาย ภาวนา โหติ? พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสงฺขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี'ติ ปชานาติฯ พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสงฺขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี'ติ ปชานาติฯ พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสงฺขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี'ติ ปชานาติฯ พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสงฺขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิตนฺ'ติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี'ติ ปชานาติฯ เอวํ โข, อานนฺท, อปฺปณิธาย ภาวนา โหติฯ
And how is there undirected development? Not directing their mind externally, a bhikkhu understands: ‘My mind is not directed externally.’ And they understand: ‘Over a period of time it’s unconstricted, freed, and undirected.’ And they also understand: ‘I meditate observing an aspect of the body—keen, aware, mindful; I am happy.’ Not directing their mind externally, a bhikkhu understands: ‘My mind is not directed externally.’ And they understand: ‘Over a period of time it’s unconstricted, freed, and undirected.’ And they also understand: ‘I meditate observing an aspect of feelings—keen, aware, mindful; I am happy.’ Not directing their mind externally, a bhikkhu understands: ‘My mind is not directed externally.’ And they understand: ‘Over a period of time it’s unconstricted, freed, and undirected.’ And they also understand: ‘I meditate observing an aspect of the mind—keen, aware, mindful; I am happy.’ Not directing their mind externally, a bhikkhu understands: ‘My mind is not directed externally.’ And they understand: ‘Over a period of time it’s unconstricted, freed, and undirected.’ And they also understand: ‘I meditate observing an aspect of principles—keen, aware, mindful; I am happy.’ That’s how there is undirected development.
อิติ โข, อานนฺท, เทสิตา มยา ปณิธาย ภาวนา, เทสิตา อปฺปณิธาย ภาวนาฯ ยํ, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยาฯ เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุญฺญาคารานิฯ ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ; มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถฯ อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี”ติฯ
So, Ānanda, I’ve taught you directed development and undirected development. Out of compassion, I’ve done what a teacher should do who wants what’s best for their disciples. Here are these roots of trees, and here are these empty huts. Practice jhāna, Ānanda! Don’t be negligent! Don’t regret it later! This is my instruction to you.”
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
That is what the Buddha said. Satisfied, Venerable Ānanda was happy with what the Buddha said.
ทสมํฯ
อมฺพปาลิวคฺโค ปฐโมฯ
ตสฺสุทฺทานํ
อมฺพปาลิ สโต ภิกฺขุ, สาลา กุสลราสิ จ; สกุณคฺฆิ มกฺกโฏ สูโท, คิลาโน ภิกฺขุนุปสฺสโยติฯ
The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]