Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Saṁyutta Nikāya, English translation

    สํยุตฺต นิกาย ๔๖ฯ๕๒

    The Related Suttas Collection 46.52

    ๖ฯ สากจฺฉวคฺค

    6. Discussion

    ปริยายสุตฺต

    Is There a Way?

    อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสึสุฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ: “อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยนฺนูน มยํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺยามา”ติฯ

    Then several bhikkhus robed up in the morning and, taking their bowls and robes, entered Sāvatthī for alms. Then it occurred to him, “It’s too early to wander for alms in Sāvatthī. Why don’t we go to the monastery of the wanderers of other religions?”

    อถ โข เต ภิกฺขู เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทึสุฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ภิกฺขู อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ:

    Then they went to the monastery of the wanderers of other religions, and exchanged greetings with the wanderers there. When the greetings and polite conversation were over, they sat down to one side. The wanderers said to them:

    “สมโณ, อาวุโส, โคตโม สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ: ‘เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวถา'ติฯ มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสม: ‘เอถ ตุเมฺห, อาวุโส, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวถา'ติฯ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส, โก อธิปฺปยาโส, กึ นานากรณํ สมณสฺส วา โคตมสฺส อมฺหากํ วา, ยทิทํ—ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนํ, อนุสาสนิยา วา อนุสาสนินฺ”ติ?

    “Friends, the ascetic Gotama teaches his disciples like this: ‘Bhikkhus, please give up the five hindrances—corruptions of the heart that weaken wisdom—and truly develop the seven awakening factors.’ We too teach our disciples: ‘Friends, please give up the five hindrances—corruptions of the heart that weaken wisdom—and truly develop the seven awakening factors.’ What, then, is the difference between the ascetic Gotama’s teaching and instruction and ours?”

    อถ โข เต ภิกฺขู เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทึสุ นปฺปฏิกฺโกสึสุ; อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมึสุ:

    Those bhikkhus neither approved nor dismissed that statement of the wanderers of other religions. They got up from their seat, thinking:

    “ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามา”ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู สาวตฺถึ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ:

    “We will learn the meaning of this statement from the Buddha himself.” Then, after the meal, when they returned from almsround, they went up to the Buddha, bowed, sat down to one side, and told him what had happened.

    “อิธ มยํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิมฺหฯ เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ: ‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ, ยนฺนูน มยํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺยามา'ติฯ อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิมฺห; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิมฺหฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิมฺหฯ เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข อเมฺห, ภนฺเต, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ:

    ‘สมโณ, อาวุโส, โคตโม สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ “เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวถา”ติฯ มยมฺปิ โข, อาวุโส, สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสม: “เอถ ตุเมฺห, อาวุโส, ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวถา”ติฯ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส, โก อธิปฺปยาโส, กึ นานากรณํ สมณสฺส วา โคตมสฺส อมฺหากํ วา, ยทิทํ—ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนํ, อนุสาสนิยา วา อนุสาสนินฺ'ติ?

    อถ โข มยํ, ภนฺเต, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิมฺห นปฺปฏิกฺโกสิมฺห, อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิมฺห: ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามา'”ติฯ

    “เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อตฺถิ ปนาวุโส, ปริยาโย, ยํ ปริยายํ อาคมฺม ปญฺจ นีวรณา ทส โหนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา จตุทฺทสา'ติฯ เอวํ ปุฏฺฐา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา น เจว สมฺปายิสฺสนฺติ, อุตฺตริญฺจ วิฆาตํ อาปชฺชิสฺสนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมึฯ นาหํ ตํ, ภิกฺขเว, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย, โย อิเมสํ ปญฺหานํ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธยฺย, อญฺญตฺร ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา อิโต วา ปน สุตฺวาฯ

    “Bhikkhus, when wanderers of other religions say this, you should say to them: ‘But friends, is there a way in which the five hindrances become ten and the seven awakening factors become fourteen?’ Questioned like this, the wanderers of other religions would be stumped, and, in addition, would get frustrated. Why is that? Because they’re out of their element. I don’t see anyone in this world—with its gods, Māras, and Brahmās, this population with its ascetics and brahmins, its gods and humans—who could provide a satisfying answer to these questions except for the Realized One or his disciple or someone who has heard it from them.

    กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริยาโย, ยํ ปริยายํ อาคมฺม ปญฺจ นีวรณา ทส โหนฺติ? ยทปิ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโท ตทปิ นีวรณํ, ยทปิ พหิทฺธา กามจฺฉนฺโท ตทปิ นีวรณํฯ ‘กามจฺฉนฺทนีวรณนฺ'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ ยทปิ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ พฺยาปาโท ตทปิ นีวรณํ, ยทปิ พหิทฺธา พฺยาปาโท ตทปิ นีวรณํฯ ‘พฺยาปาทนีวรณนฺ'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ ยทปิ, ภิกฺขเว, ถินํ ตทปิ นีวรณํ, ยทปิ มิทฺธํ ตทปิ นีวรณํฯ ‘ถินมิทฺธนีวรณนฺ'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ ยทปิ, ภิกฺขเว, อุทฺธจฺจํ ตทปิ นีวรณํ, ยทปิ กุกฺกุจฺจํ ตทปิ นีวรณํฯ ‘อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณนฺ'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ ยทปิ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉา ตทปิ นีวรณํ, ยทปิ พหิทฺธา ธมฺเมสุ วิจิกิจฺฉา ตทปิ นีวรณํฯ ‘วิจิกิจฺฉานีวรณนฺ'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ อยํ โข, ภิกฺขเว, ปริยาโย, ยํ ปริยายํ อาคมฺม ปญฺจ นีวรณา ทส โหนฺติฯ

    And what is the way in which the five hindrances become ten? Sensual desire for what is internal is a hindrance; and sensual desire for what is external is also a hindrance. That’s how what is concisely referred to as ‘the hindrance of sensual desire’ becomes twofold. Ill will for what is internal is a hindrance; and ill will for what is external is also a hindrance. That’s how what is concisely referred to as ‘the hindrance of ill will’ becomes twofold. Dullness is a hindrance; and drowsiness is also a hindrance. That’s how what is concisely referred to as ‘the hindrance of dullness and drowsiness’ becomes twofold. Restlessness is a hindrance; and remorse is also a hindrance. That’s how what is concisely referred to as ‘the hindrance of restlessness and remorse’ becomes twofold. Doubt about internal things is a hindrance; and doubt about external things is also a hindrance. That’s how what is concisely referred to as ‘the hindrance of doubt’ becomes twofold. This is the way in which the five hindrances become ten.

    กตโม จ, ภิกฺขเว, ปริยาโย, ยํ ปริยายํ อาคมฺม สตฺต โพชฺฌงฺคา จตุทฺทส โหนฺติ? ยทปิ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ สติ ตทปิ สติสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ พหิทฺธา ธมฺเมสุ สติ ตทปิ สติสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘สติสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ

    And what is the way in which the seven awakening factors become fourteen? Mindfulness of internal things is the awakening factor of mindfulness; and mindfulness of external things is also the awakening factor of mindfulness. That’s how what is concisely referred to as ‘the awakening factor of mindfulness’ becomes twofold.

    ยทปิ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ ปญฺญาย ปวิจินติ ปวิจรติ ปริวีมํสมาปชฺชติ ตทปิ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ พหิทฺธา ธมฺเมสุ ปญฺญาย ปวิจินติ ปวิจรติ ปริวีมํสมาปชฺชติ ตทปิ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ

    Investigating, exploring, and inquiring into internal things with wisdom is the awakening factor of investigation of principles; and investigating, exploring, and inquiring into external things with wisdom is also the awakening factor of investigation of principles. That’s how what is concisely referred to as ‘the awakening factor of investigation of principles’ becomes twofold.

    ยทปิ, ภิกฺขเว, กายิกํ วีริยํ ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ เจตสิกํ วีริยํ ตทปิ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ

    Physical energy is the awakening factor of energy; and mental energy is also the awakening factor of energy. That’s how what is concisely referred to as ‘the awakening factor of energy’ becomes twofold.

    ยทปิ, ภิกฺขเว, สวิตกฺกสวิจารา ปีติ ตทปิ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ อวิตกฺกอวิจารา ปีติ ตทปิ ปีติสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ

    Rapture while placing the mind and keeping it connected is the awakening factor of rapture; and rapture without placing the mind and keeping it connected is also the awakening factor of rapture. In this way what is concisely referred to as ‘the awakening factor of rapture’ becomes twofold.

    ยทปิ, ภิกฺขเว, กายปฺปสฺสทฺธิ ตทปิ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ จิตฺตปฺปสฺสทฺธิ ตทปิ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ

    Physical tranquility is the awakening factor of tranquility; and mental tranquility is also the awakening factor of tranquility. In this way what is concisely referred to as ‘the awakening factor of tranquility’ becomes twofold.

    ยทปิ, ภิกฺขเว, สวิตกฺโก สวิจาโร สมาธิ ตทปิ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ ตทปิ สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ

    Immersion while placing the mind and keeping it connected is the awakening factor of immersion; and immersion without placing the mind and keeping it connected is also the awakening factor of immersion. In this way what is concisely referred to as ‘the awakening factor of immersion’ becomes twofold.

    ยทปิ, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ อุเปกฺขา ตทปิ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค, ยทปิ พหิทฺธา ธมฺเมสุ อุเปกฺขา ตทปิ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโคฯ ‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค'ติ อิติ หิทํ อุทฺเทสํ คจฺฉติฯ ตทมินาเปตํ ปริยาเยน ทฺวยํ โหติฯ อยํ โข, ภิกฺขเว, ปริยาโย, ยํ ปริยายํ อาคมฺม สตฺต โพชฺฌงฺคา จตุทฺทสา”ติฯ

    Equanimity for internal things is the awakening factor of equanimity; and equanimity for external things is also the awakening factor of equanimity. In this way what is concisely referred to as ‘the awakening factor of equanimity’ becomes twofold. This is the way in which the seven awakening factors become fourteen.”

    ทุติยํฯ





    The authoritative text of the Saṁyutta Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact